เผยแพร่ |
---|
ภาพการพบกันโดยบังเอิญระหว่าง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในงานนิทรรศการศิลปะ”ไข่แมว กะลา แลนด์”มากด้วยความหมายและนัยยะทางการเมือง
ไม่เพียงเพราะ 1 เป็นงานนิทรรศการของ “ไข่แมว”
“ไข่แมว” อัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คอมเมนต์ว่า”ศิลปิน การ์ตูนล้อเลียนที่โด่งดังที่สุดของเมืองไทย ไม่ใช่แค่ภาพขำๆที่แชร์ กันในโซเชียลมีเดีย
“แต่คือ จดหมายเหตุการเมืองไทย”
หากที่สำคัญเป็นอย่างมาก 1 หลังมีการโพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊ค ปฏิกิริยาที่ตามมาคือ การลงความเห็นว่า ทั้ง 2 ล้วนเป็น”ว่าที่” นายกรัฐมนตรี
คนหนึ่งอยู่”เพื่อไทย” คนหนึ่งอยู่”อนาคตใหม่”
บรรยากาศแห่งการพบและสนทนากันสั้นๆระหว่าง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หากสรุปตามสำนวนของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์
ก็เปี่ยมด้วย “สันถวมิตรสนิทสนม”
เพราะว่าทั้ง 2 อยู่ในแสงแห่งสปอตไลต์ทางการเมือง และเคยได้รับเกียรติจาก”ไข่แมว”สะท้อนออกมาผ่านลายเส้นเฉียบคม สุดฉมัง
เท่ากับ “ไข่แมว” เป็นเหมือนกับ “สะพานเชื่อม”ให้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้เยาว์ มาบรรจบพบกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้อาวุโส
แม้จะต่างพรรคแต่ก็ประสานอย่างเป็นหนึ่งเดียว ไม่เพราะว่าทั้ง 2 มีพื้นฐานเป็น”วิศวกร”เหมือนกัน
แต่ที่สำคัญก็คือ ไม่มีแววแห่งการเป็น”ปรปักษ์”
เมื่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยืน เรียงเคียงกันบทสรุปร่วมก็คือ ภาพของ”คนรุ่นใหม่”
มิได้อยู่ที่ “อายุ” หากแต่อยู่ที่ “ความคิด”
หากมองตามพรรษาในทางการเมือง ทั้ง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยังต้องเรียนรู้และสะสมประสบ การณ์ทางการเมืองอีกยาวนาน
ทั้ง 2 ต้องกำหนดความคิดและดำรงตนเหมือน”จันทน์หอม”
นั่นก็คือ ยิ่งผ่านอุปสรรค ผ่านปัญหา ถูกทุบตีหนักหนาสาหัส ก็ยิ่งหอม ก็ยิ่งสร้างคุณูปการใหม่ๆให้กับสังคม
นั่นคือ จันทน์หอม ยิ่งทุบยิ่งหอมหวน ทวนลม