ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 16 - 22 มิถุนายน 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | ล้านนาคำเมือง |
เผยแพร่ |
อ่านเป็นภาษาล้านนาว่า “เข้าวัสสา”
คำว่า “วัสสา” สะกดตามภาษาบาลี ตรงกับภาษาไทยว่า “เข้าพรรษา” หมายถึงการที่พระสงฆ์อยู่ประจำที่ใดที่หนึ่งในช่วงฤดูฝน เมื่อถึงฤดูฝนแล้วพระสงฆ์ต้องหยุดเดินทางไปในที่ต่าง ๆ และพักอาศัยอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่นภายในระยะเวลาที่กำหนด 3 เดือน
การเข้าวัสสา หรือเข้าพรรษา หากกล่าวในเชิงประเพณีแล้ว ชาวล้านนามีวัตรปฏิบัติและกิจกรรมหลายอย่างที่แตกต่างจากชาวไทยภาคอื่นๆ ซึ่งมิได้หมายเอาเฉพาะกิจของสงฆ์เท่านั้น หากแต่ชาวบ้านเองก็มีกิจอันเป็นส่วนของคฤหัสถ์เช่นกัน
ในส่วนของวันเข้าวัสสา พระสงฆ์จะเริ่มเข้าวัสสาในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8
ส่วนชาวบ้านจะถือเอาวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ซึ่งตรงกับวัน “อาสาฬหบูชา” เป็นวันเริ่มต้นและไปสิ้นสุดเอาวันเดียวกัน คือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11
กิจกรรมหลักของพระสงฆ์นั้น เป็นไปตามพระวินัยที่เคยปฏิบัติมา
แต่กิจกรรมของชาวบ้านจะตั้งใจปฏิบัติกันเป็นกรณีพิเศษ เริ่มตั้งแต่วันแรก คือวันขึ้น 15 ค่ำ วันนี้ถือเป็นวัน “เข้าวัสสา” ชาวบ้านจะไปทำบุญแต่เช้าตรู่
เริ่มด้วยการ “ตานขันเข้า” คือ “ทานขันข้าว” หมายถึง การทำบุญให้ทานแด่พระสงฆ์ด้วยอาหารเป็นสำรับ
ซึ่งส่วนใหญ่จะมุ่งหวังอุทิศส่วนกุศลข้ามภพข้ามภูมิไปหาเจ้าที่เจ้าทาง แม่พระธรณี หรือเทพยดา อันรักษาบ้านเรือน ตลอดจน “ผีต๋ายเก่าเน่าเมิน” คือดวงวิญญาณของญาติที่เสียชีวิตไปแล้ว อันมีบิดามารดา เป็นต้น
เสร็จจากทำบุญที่วัด จะมีการ “ตานขันเข้าคนเถ้า” โดยนำสำรับอาหารไปมอบแด่ผู้เฒ่าผู้แก่ตามละแวกบ้าน นัยว่าเป็นกตเวทิตาธรรมที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา ผู้เฒ่ารับทานนั้นแล้วก็ให้พรเป็นสิริมงคล
จนบ่ายคล้อยจะพากันไปฟังพระธรรมเทศนาที่วัด แล้วช่วยจัดสถานที่สำหรับเป็นที่นอนให้ผู้เฒ่าผู้แก่ที่จะอยู่บำเพ็ญศีลภาวนา และค้างคืนที่วัดต่อไป
กล่าวถึงกิจกรรมของคฤหัสถ์ในช่วงเข้าพรรษานั้น ดูจะเคร่งครัดทั้งการให้ทาน การรักษาศีลและบำเพ็ญภาวนา ซึ่งการให้ทานนิยมทำบุญตักบาตรทุกเช้าของวันธรรมสวนะ
การรักษาศีลชาวบ้านทั่วไปจะรักษาศีลห้า ผู้เฒ่าชรานิยมถือศีลแปด ส่วนการบำเพ็ญภาวนาจะมีการทำวัตรสวดมนต์ ทำสมาธิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชราส่วนใหญ่นิยมไปนอนค้างคืนที่วัดในวันธรรมสวนะเพื่อบำเพ็ญธรรม
นอกจากนี้ยังมีการฟังพระธรรมเทศนาทุกวันพระช่วงกลางวันตลอดพรรษาด้วย
บุญเข้าวัสสาเป็นผลานิสงส์อันยิ่งใหญ่ของคนล้านนา ตลอดระยะเวลาแห่งไตรมาสอันสำคัญนี้ จะไม่มีการประพฤตินอกลู่นอกทางแห่งคลองศีลคลองธรรม ไม่มีงานเลี้ยงฉลอง ไม่มีการแต่งงาน ไม่มีการดื่มสุรา
อุปกรณ์การทำมาหากินที่เป็นอันตรายต่อชีวิตสัตว์ถูกเก็บเข้าที่
หิ้งผีครูถูก “ปลงขัน” คือเชิญวิญญาณครูอาจารย์ที่ตนนับถือลงจากหิ้งที่สถิต แล้วยกพานเครื่องสักการะลงมา ด้วยหวังว่าผีครู ผีปู่ย่าจะวางภาระและบำเพ็ญศีลภาวนาเช่นกัน
วันเข้าวัสสาเป็นวันเข้าสู่มรรคญาณตามคติของพระพุทธศาสนา ชาวล้านนาจึงอยู่เย็นเป็นสุข สังคมไร้ทุกข์ เพราะอาศัยโอกาสเวลานี้บ่มเพาะภูมิคุ้มกันอกุศลกรรมมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานนั่นเอง •
ล้านนาคำเมือง | ชมรมฮักตั๋วเมือง
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022