อัญเจียแขฺมร์ : สายลับ-พรรคป่วน “เน็ตไอดอล” กัมพูชา เขย่าโลก

สามปีก่อนตอนที่เธอประกาศผ่านไมโครโฟน “ฮุน เซนเอ๊ยลงจากตำแหน่งเถอะ!”

เท่านั้นแหละ มวลมหาประชาชนค่อนประเทศก็เทใจให้สาวน้อยวัย 18 ปี เธอกลายมาเป็น “เน็ตไอดอล” ที่ผู้คนกดไลก์ให้ชั่วข้ามคืนจนสร้างสถิติ 2 ล้านไลก์ที่แม้แต่เซเลบริตี้แขฺมร์คนไหนก็ยังทำไม่ได้

แต่ ธี สุวันทา ทำได้ และชื่อนี้ยังเป็นเหมือนเครื่องวัดความนิยมที่คนเขมรมีต่อการเมืองเวลานั้น พวกเขาอยากเห็นการ “โจ๊ะเจ็ญ” ลงจากตำแหน่งของ ฮุน เซน และกลายเป็นกระแสของคนหนุ่มสาววัยใสที่สนใจการเมือง

ปรากฏการณ์นี้ ส่งผลให้ ธี สุวันทา กลายเป็นไอดอลคนรุ่นใหม่ที่มีความเชื่อและพร้อมจะเปลี่ยนแปลงโลกด้วยตัวเอง และนี่คือต้นแบบการเมืองสมัยใหม่ที่หลายคนต้องการ โดยมี ธี สุวันทา เป็นหญิงกล้าผู้ขับเคลื่อน

และทำให้เราเห็นว่า ด้วยพลังของหนุ่มสาว “โลกแห่งเสรีภาพ” ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ

ไม่เชื่อก็ลองติดตามไทม์ไลน์ของ ธี สุวันทา

สาวน้อยผู้มีใบหน้าสดใส สวย ฉับไว และตื่นตัวในทุกปฏิกิริยา โดยเฉพาะภาพความมุ่งตรงที่จะแสวงหาความจริงของเธอ การยืนอยู่บนแท่นปราศรัยพรรคฝ่ายค้าน ขบวนแห่หาเสียง และช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในทุกสถานการณ์ ราวกับสิ่งนั้นมันให้เธอเห็นโลกและสังคมกัมพูชา ที่ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยกำลังมาบรรจบพบเจอกันแล้ว โดยคนธรรมดา ที่ไม่ได้เป็นคนดัง นักกีฬา ดารา นักร้อง นักแสดงทั้งสิ้น

แลบทบาทนี้เองที่ส่งสาวน้อยร้อยชั่งคนธรรมดา โด่งดังขึ้นมาจากกระแสการเลือกตั้ง 2013 เธอถูกจดจำเสียยิ่งกว่านักการเมืองหลายคน ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีประวัติเกี่ยวกับแวดวงการเมืองแม้แต่น้อย

นอกจากวาจาที่เฉียบคมแล้ว การแต่งตัวที่ “เอาะจา” มีสไตล์ โดนใจชาวโซเชียล และคนรุ่นใหม่ที่ใคร่จะกบฏต่อค่านิยมเดิมๆ และพวกเขากำลังพิสูจน์ว่า ความเป็นคน “ปัง” เข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่นั้น สำคัญเพียงใด ปรากฏการณ์ ธี สุวันทา ก็เช่นนั้น

เธอก็ติดเทรนด์เป็นขวัญใจคนรุ่นใหม่กัมพูชา โดยวิธีที่เธอบงการชีวิตของตนจนเกิดรายได้ทางทรัพย์สินปัญญาที่มาจาก “เน็ตไอดอล” และหลายสิ่งหลายอย่างที่เด็กสาวเขมรหลายคนไม่มีวันทำได้

จนสื่อท้องถิ่นยกให้เธอเป็นเด็กสาวที่ “เขย่าโลก”

หาก “โลก” ในที่นี้ใช่แต่จะหมายถึงพิภพโลกเท่านั้น หากยังหมายถึง สรรพนามบุรุษที่ 3 ที่กัมพูชาใช้เรียกบุรุษเพศผู้มีอำนาจ

ธี สุวันทา ก็คงจะ “เขย่าโลก” ไม่เว้นแม้แต่นักการเมืองจริงๆ

เพราะนับตั้งแต่วันที่คาดแถบผ้าที่หน้าผาก และโบกธงร่วมขบวนแคมเปญหาเสียงของพรรคสงเคราะห์ชาติไม่กี่ครั้ง เธอก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของพรรคดังกล่าวอย่างที่ไม่ต้องทำอะไรมาก

ภาพของเธอถูกจดจำและเผยแพร่เสียยิ่งกว่าภาพของ กึม มโนวิเจีย/มโนวิทยากับสม สันทนาราเชล บุตรสาวทั้ง 2 ของหัวหน้าพรรคคนดังอย่างไม่อาจจะเปรียบเทียบ

และนั่นทำให้คนในพรรคสงเคราะห์ชาติรวมทั้งรองหัวหน้าพรรค-กึม สกขา พากันปลื้ม

ขณะที่พรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) และสมเด็จฮุน เซน ดูจะเยือกเย็นและอดกลั้นต่อกิริยาท้าทายของเด็กสาวคราวหลานคนนี้

ทุกฝ่ายคิดไปว่า มันคือบรรยากาศการเลือกตั้ง กระนั้นก็พอจะเห็นอีกว่า หลังจัดตั้งรัฐบาลไปได้ไม่นาน เด็กสาวคนนี้ก็ยังชี้นำกิจกรรมทางการเมืองไปกับปัญหาอื่นๆ ด้วย

ธี สุวันทา ลงลึกประเด็นพรมแดนเวียดนาม-ชาวกัมพูชากรอม การเรียกร้องคืนเกาะตรัล ในบางโอกาส เมื่อสถานการณ์พาไป เธอก็ยังท้าทายถึงบุคคลแม้แต่สื่อก็ยังไม่กล้าแตะต้อง อย่าง ฮุน มาเนต

ยังผลต่อยอดรีวิวเฟซบุ๊ก Thy Suvantha ติดอันดับท็อปของประเทศจะรองก็แต่ สม รังสี

แม้กิจกรรมการเมืองที่ร้อนแรงนี้ค่อยๆ ลดระดับลง เมื่อสมาชิกพรรคฝ่ายค้านหลายคนเริ่มถูกจับกุมในข้อหาเผยแพร่เอกสารอันเป็นภัยต่อประเทศ แต่ในปีนั้นเอง (2558) ธี สุวันทา ก็ตกเป็นข่าวดัง เมื่อเธอสอบวัดผลมัธยมทั่วประเทศ-ไม่ผ่าน

เธอถูกวิจารณ์ว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี เอาเวลาไปหมดกับโซเชียล และสุดท้ายก็หมดอนาคต

แต่เด็กสาวกลับมาได้รับความเห็นใจจากสังคม ซึ่งพากันเชื่อว่าเธอถูกเจ้าหน้าที่และคนของรัฐกลั่นแกล้ง และต้องการสกัดกั้นไม่ให้เธอไปต่อระดับมหาวิทยาลัยของรัฐ และมันคือแรงเสียดทานที่ทำให้ ธี สุวันทา ต้องเรียนรู้เกินอายุวัย

ซึ่งเวลานั้น ธี สุวันทา ยังระดมทุนก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ร่วมกับพรรคสงเคราะห์ชาติ และกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งไม่สังเกตเห็นถึงสิ่งเปลี่ยนแปลง

 

เมื่อเข้าสู่ปีที่ 2 ตอนที่ นายสม รังสี หัวหน้าพรรคและพวกต้องหนีไปต่างแดน จากความผิดกรณีเผยแพร่เอกสารอันเป็นภัยต่อประเทศ และ กึม สกขา ต่อมาก็ตกเป็นผู้ต้องหาคดีคลิปเสียงกับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภริยาเผยแพร่ในโซเชียล

ซึ่งในกัมพูชาแล้วถือเป็นคดีสำคัญสำหรับผู้มีตำแหน่งทางการเมือง

แต่ที่ช็อกสังคมยิ่งกว่าคือเมื่อเน็ตไอดอล-ธี สุวันทา ที่ตกเป็นข่าวลือตั้งครรภ์กับเขา ก็ยื่นฟ้องร้องและเรียกค่าเสียหายต่อศาลกรุงพนมเปญ

โทษฐานที่ทำให้เธอต้องแบกความอับอาย

ธี สุวันทา กล่าวว่า เธอต้องออกปกป้องความยุติธรรมแก่เพศสตรี ที่อับอายจากการตกเป็นข่าวฉาวโฉ่กับนักการเมืองเลว และยังโจมตี กึม สกขา ว่าทำให้เธอสูญเสียความศรัทธาต่อการเมืองอย่างสุดจะรันทด

แต่พอข่าวนี้เผยแพร่ออกไป กระแสต่อต้าน ธี สุวันทา ก็เริ่มไหลบ่ามาหาเธอ

พลันเสียงกระซิบที่เคยตั้งข้อสงสัยว่าเธอเป็นสปายให้ซีพีพี ก็โหมกระหน่ำในโซเชียล

หรือเธอคือสายลับที่ถูกส่งมาทำให้พรรคฝ่ายค้านต้องปั่นป่วน?

 

มีความดราม่า โกลาหล และหายนะจนถึงขั้น ธี สุวันทา ไม่น่าจะรับมือได้จากกระแสโขมและฉายาที่มาจากทั่วสารทิศ

ตั้งแต่ “นังลูกญวน” (วลีที่ใช้ด่าอย่างสามัญ) นังหญิงไร้ค่า- “ธี สุวันถูก!” ฯลฯ ตามมาด้วยการขุดคุ้ยประวัติครอบครัวและความสัมพันธ์กับออกญาใกล้ชิดบางคนกับสมเด็จฮุน เซน!

ธี สุวันทา ถูกต่อต้านทุกหนแห่งที่ปรากฏตัว แม้แต่งานศพนักวิพากษ์สังคม นายเกม ไลย ผู้คนก็ยังไม่เหลือพื้นที่ให้เธอไว้อาลัย

แต่ในที่สุดชื่อธี สุวันทา ก็กลับมาโด่งดังในโซเชียลอีกครั้ง เมื่อคลิปเสียง ข้อความระหว่างเธอกับ “บองนิต” ถูกนำไปแชร์กันสนั่นตลอดธันวาคมปีกลาย

บทสนทนาสั้นตอนหนึ่ง ธี สุวันทา ขอกำลังคนสนับสนุนจาก “บองนิต” ขณะที่เธอกำลังออกไปกดดัน กึม สกขา ที่บ้านพัก พอเสร็จสิ้นภารกิจ เธอส่งภาพชุดหนึ่งกึ่งรายงาน ซึ่งบองนิตก็ Congratulation พร้อมกับตัวอิโมจิที่แสดงความยินดี!

บองนิตในที่นี้ก็มิใช่ใครอื่น แต่คือ พลโทฮุน มานิต ตำแหน่งผู้อำนวยการด้านความมั่นคงและข่าวกรองและเป็นบุตรชายคนรองของสมเด็จฮุน เซน

เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ธี สุวันทา ทำงานให้หน่วยงานลับของรัฐบาลที่คุกคามและป้ายความผิดให้ กึม สกขา และยังเชื่อมโยงถึงคลิปเสียงสรัยมอม สตรีอีกคนที่ ฮุน มานิต ใช้เป็นนกต่อ

แต่ที่เด็ดและเผ็ดร้อนกว่านั้น คือคลิปชุดใหม่ระหว่างฮุน เซน-มานิต และสุวันทา ที่ถูกปล่อยออกมา และเปิดเผยบทสนทนาระหว่างหลาน-ลุง ธี สุวันทา-ฮุน เซนในแผนบ่อนทำลายพรรคฝ่ายค้าน

โดยลุงเซนสัญญาจะให้เงินก้อนใหญ่แก่หลานเป็นรางวัล

 

พลิกสะท้านวงการสายลับระดับชาติอย่างที่ นายกฯ ฮุน เซน ถึงต้องตกตะลึง ปฏิบัติ “ล้วงตับ” ของอีกฝ่าย

แต่ที่ช็อกกว่านั้นคือ สม รังสี ที่ชิงลาออกจากหัวหน้าพรรค จากนั้นก็ส่งสำนวนฟ้องกล่าวหา ฮุน เซน และพวกว่า พยายามบ่อนทำลายสถาบันพรรคการเมือง และคุกคามชีวิตสมาชิกพรรคของตนต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ

แรงกระเพื่อมที่น่าตกใจนี้ ดูจะเป็นครั้งแรกของพรรคฝ่ายค้านที่หันมาเล่นงานพรรครัฐนอกรัฐสภา ชนิดที่สมเด็จฮุน เซน คาดไม่ถึง

อย่างเก็บงำไม่มิดถึงความผิดปกติในกลเกมการเมืองนี้ โดยเฉพาะองค์กรลึกลับของฝ่ายตรงข้ามที่เข้าถึงเครือข่ายทำงานของฝ่ายตน

อย่างผิดวิสัย “นิ่งงัน” ข้อกล่าวหา สมเด็จฮุน เซน กลับปูนบำเหน็จแต่งตั้ง ฮุน มานิต เป็นผู้อำนวยการกิจการภายในพรรคซีพีพีอย่างจะทันทีทันควัน

นับเป็นการสิ้นสุดข้อกังขารับสืบทอดอำนาจการเมืองที่คุลมเครือมานาน

 

มีแต่ ธี สุวันทา เดียวดายที่เธอออกมาโพสต์แจงแฟนเพจของเธอเมื่อไม่กี่วันมานี้ ถึงเหตุการณ์ที่เธอถูกแฮกเฟซบุ๊กตั้งแต่พฤศจิกายนที่ผ่านมา

และกว่าจะกู้คืนมาได้ก็ล่วงไปถึง 2 เดือน ซึ่งระหว่างนั้นได้เกิดข้อความมากมายที่ดึงเธอไปเกี่ยวข้องจนตกเป็นจำเลยสังคมอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่

ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นจริง ต้องยอมรับว่า นี่เป็น “ปฏิบัติการเอาคืน” ของพรรคฝ่ายค้านในรอบ 20 ปีที่เหนือความคาดหมาย

ทำเอา ฮุน เซน ถึงกับเงิบ งงงวยงัน และไปต่อยังไม่ถูก