นับเป็นการสูญเสียอีกครั้งสำหรับวงการบันเทิงไทย

สำหรับอุบัติเหตุสลด ที่คร่าชีวิตน้องอิน-ณัฐนิชา อดีตดาราเด็กชื่อดัง

ที่ชนะใจคนดูทุกเพศทุกวัย ด้วยความน่ารักจากในภาพยนตร์โฆษณา จนกลายเป็นประโยคเด็ดที่ร้องตามกันได้ทั้งบ้านทั้งเมือง

และแม้จะโตขึ้นมา ก็ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง มีผลงานอยู่มากมาย

แต่แทนที่จะไปได้ไกลกว่านี้ ก็ต้องสะดุดลง เมื่อเกิดอุบัติเหตุเก๋งบีเอ็มฯ ที่น้องอินขับมา เสียหลักตกข้างทางฟาดเข้ากับต้นไม้ ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

ทิ้งปริศนาไว้ว่าเธอมาที่จุดดังกล่าวเพื่อเหตุใด?

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ก็จะเป็นอุทาหรณ์ให้คนที่อยู่ข้างหลังระมัดระวัง ขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

รวมทั้งเป็นงานใหญ่ของผู้รับผิดชอบเส้นทางดังกล่าว จะต้องปรับปรุงไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำขึ้นมาอีก

เพราะตั้งแต่ต้นปี จุดที่น้องอินเกิดอุบัติเหตุ นับเป็นศพที่ 4 แล้ว

และหวังว่านี่จะเป็นศพสุดท้าย

สลด “น้องอิน” ชนดับ

อุบัติเหตุสลดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 7 เมษายน โดย พ.ต.ท.วัลลภ เมืองลอย สารวัตรสอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งอุบัติเหตุรถเก๋งตกข้างทางพุ่งชนต้นไม้มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณถนนกาญจนาภิเษก ตะวันตก ฝั่งขาออก ก่อนหลัก ก.ม.ที่ 79 มุ่งหน้าสระบุรี ต.เชียงรากร้อย อ.บางปะอิน

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์-1 สีขาว ทะเบียน 5 กบ 5248 กทม. พุ่งตกลงไปข้างถนน สภาพพังยับเยินเนื่องจากฟาดกับต้นไม้ข้างทาง ส่วนด้านท้ายของรถฉีกหลุดออกมา

บริเวณที่นั่งคนขับพบศพ น.ส.ณัฐนิชา เชิดชูบุพการี หรือน้องอิน อายุ 21 ปี นักแสดงชื่อดัง สภาพศพถูกอัดก๊อบปี้จากประตูด้านข้าง เข้าไปถึงตัวถัง กรอบประตูและม่านนิรภัยฉีกขาด เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างง้างตัวถังรถจึงเอาศพออกมาได้ พบบาดแผลที่ศีรษะและตามร่างกายหลายแห่ง จึงนำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

ทั้งนี้ จากการสอบสวนพบว่า น้องอินเพิ่งเดินทางกลับจากเที่ยวงานซัมเมอร์บีช เฟสติวัล พัทยา เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเกิดฝนตกถนนลื่น จึงทำให้รถเสียหลักพุ่งตกลงข้างทางแล้วไปชนต้นไม้อย่างจัง ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบรอยเบรกเลย และคาดว่าน่าจะใช้ความเร็วค่อนข้างสูง

ขณะที่นางลัดดา อุตตวัฒน์ แม่น้องอิน ที่เดินทางมาหลังทราบข่าวร้าย ระบุว่าคุยกับลูกสาวครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 01.00 น. วันที่ 7 เมษายน ซึ่งลูกบอกว่ากลับจากเที่ยวจากพัทยามาถึงคอนโดมิเนียมย่านบางนาแล้ว แต่ไม่รู้ว่าลูกมาทำอะไรที่อยุธยา

พร้อมเปิดใจว่าต่อไปนี้ไม่รู้จะอยู่อย่างไร เพราะมีกัน 2 คนแม่ลูก พ่อก็แยกทางไปตั้งแต่ยังเด็ก ตั้งแต่เล็กลูกก็ทำงานช่วยเหลือตัวเอง

สำหรับรถคันที่เกิดเหตุเพิ่งซื้อมาได้ไม่นาน ให้น้องใช้ทำงาน เพราะรถคันเก่าใช้มานานแล้ว น้องอินกำลังจะเปิดธุรกิจเกี่ยวกับความงาม บอกแม่ว่าถ้ามีเงินมากกว่านี้จะซื้อบ้านใหม่ แล้วจะได้ย้ายออกจากคอนโดฯ มาอยู่กับแม่

“แล้วตอนนี้แม่จะอยู่อย่างไร”

เป็นคำรำพันของแม่ผู้สูญเสีย

เผยขับไปหาเพื่อนทอม

ขณะที่นักแสดงดัง บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่สนิทสนมกับครอบครัว เปิดเผยว่า ต้องขอออกมาบอกสาเหตุที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง เพื่อจะได้ชี้แจงให้สังคมสิ้นสงสัย ว่าทำไมน้องอินถึงไปอยู่ที่จุดเกิดเหตุ ทั้งที่โทรศัพท์บอกแม่ว่าถึงคอนโดฯ ย่านบางนา และจะได้ยืนยันได้ว่ากรณีนี้คืออุบัติเหตุที่ไม่มีการเสพสุราหรือสิ่งมึนเมามาเกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ตนคุยกับเพื่อนน้องอิน ทั้งเบล ที่เป็นผู้ชาย และเป็นแฟนเก่าน้องอิน รวมทั้งแฟนคนปัจจุบันคือน้องไทม์ ที่เป็นทอม ซึ่งรู้จักกันมาก่อน แต่ไทม์ไปเรียนอังกฤษจึงห่างไป เมื่อกลับมา น้องอินก็ห่างกับเบล แล้วมาคบน้องไทม์

วันเกิดเหตุอินอยู่ที่พัทยา แล้วโทรศัพท์หาไทม์ บอกว่าเบื่อมาก อยากไปหาไทม์ แต่ไทม์บอกว่าถ้าเที่ยงคืนแล้วไม่ต้องมา มันดึกไป อินก็ถามไทม์ว่าจากพัทยาไปอยุธยากี่กิโล น้องไทม์ก็บอกว่า 200 กว่ากิโล อินบอกว่าชั่วโมงกว่าก็ถึงแล้ว แต่ไทม์บอกว่าเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้อง 3 ชั่วโมง ถ้าออกจากพัทยา 4 ทุ่มก็ถึงหลังเที่ยงคืน งั้นอย่ามาดีกว่า

แต่น้องอินไม่ยอม ก็ขับรถมา โดยตอนที่แม่โทรหาอินตอน 01.17 น. ถามว่าน้องอินอยู่ไหน น้องอินบอกอยู่คอนโดฯ ทั้งที่กำลังไปอยุธยา จนเกือบตี 2 น้องอินก็ยังไม่ถึง บอกกับไทม์ว่าอีก 50 กิโล ไทม์เองก็บอกว่าฝนตกหนักมาก ถ้ายังอยู่กรุงเทพฯ ก็ไม่ต้องมา ให้ตีรถกลับ แต่อินก็บอกว่าจะถึงแล้ว ยังไงก็ขอเจอ เพราะคิดถึง

ระหว่างนั้นทั้งคู่ก็โทรศัพท์หากันตลอด จนเริ่มมีปากเสียง จนกระทั่งตี 2 ครึ่งเริ่มคุยไม่รู้เรื่อง น้องอินบอกว่าให้วางสาย เดี๋ยวเจอกันค่อยคุย พอวางสายไป 1-2 นาที ไทม์ก็โทร.หาอินอีก น้องอินบอกว่ากำลังรีบขับรถ แล้วก็วางสายไป

จนกระทั่งตี 3 ไทม์พยายามโทร.หาอิน โทร.เป็น 10-20 รอบก็ไม่มีคนรับ จึงเชื่อว่าน่าจะเกิดอุบัติเหตุในช่วงดังกล่าว แต่ประกอบกับเป็นไหล่ทาง ฝนตกหนัก จนไม่มีใครมาเจอ มาพบเหตุก็เช้าเสียแล้ว

ดูจากที่เกิดเหตุแล้วไม่พบรอยเบรก น่าจะขับมาเร็ว เจอกับฝนตกหนัก ถนนลื่น ยืนยันว่าไม่ได้กินเหล้า ไม่ได้ง่วงนอน

อย่างไรก็ตาม แม่ของน้องอินก็ออกมาให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่าเรื่องราวดังกล่าวน่าจะมีความคลาดเคลื่อน ครอบครัวไม่มีใครรู้จักสาวทอม

และให้หยุดขุดคุ้ยได้แล้ว ขอให้น้องจากไปอย่างสงบ

เป็นคำร้องขอครั้งสุดท้าย

ล้อมคอก-ติดป้ายเตือน

สําหรับที่จุดเกิดเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ได้สั่งการให้เพิ่มไฟแสงสว่างตรงจุดเกิดเหตุ พร้อมติดป้ายเตือน เนื่องจากถนนเส้นนี้มีรถที่มาจากทางด่วนอุดรรัถยา และจากถนนสาย 347 ไหลมารวมกัน

ส่วนกรณีการเกิดอุบัติเหตุของน้องอิน อาจเกิดจากคอสะพานหรือไม่ก็ผิวถนนไม่เรียบ เพราะช่วงทางลงจากต่างระดับก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร จะมีคอสะพาน อาจทำให้รถของน้องอินนั้นเหินคอสะพานก็เป็นได้

ทั้งนี้ ตรงบริเวณจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่ต้นมกราคม มาจนถึงปัจจุบันน้องอินเป็นรายที่ 4 แล้วที่เสียชีวิต หากเฉลี่ยต่อปีการเกิดอุบัติเหตุในจุดนี้จะอยู่ที่ประมาณ 20-30 ครั้งต่อปี มีทั้งรับแจ้งและไม่ได้รับแจ้ง ส่วนผู้เสียชีวิตนั้น ต่อปีแล้วประมาณ 5-10 ราย

ด้านนายรุ่ง บัวใหญ่ รักษาการ ผอ.แขวงทางหลวงปทุมธานี นายเอนก จันทร์สมบัติ หน.หมวดทางหลวงลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี พร้อมเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงลาดหลุมแก้ว เดินทางมาตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย เสริมป้ายเตือนระวังอุบัติเหตุและลดความเร็ว

พร้อมระบุว่า เนื่องจากช่วงนี้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเดิม จึงต้องป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนให้มากขึ้น ทั้งนี้บริเวณที่เกิดเหตุมีรถสัญจรจำนวนมาก และก่อนจุดเกิดอุบัติเหตุ 100 เมตรเป็นสะพานโค้งขนาดเล็ก มีโอกาสทำให้รถยนต์ที่ขับผ่านมาด้วยความเร็วเหินกับคอสะพาน จนทรงตัวไม่อยู่ควบคุมไม่ได้จึงพุ่งไปชนขอบแท่งแบร์ริเออร์ฝั่งขวาและต้นไม้ที่อยู่ริมถนนฝั่งซ้าย จากรายงานพบว่าจุดดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

ป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียอีก

ย้อนอดีตดาราเด็กชื่อดัง

สําหรับน้องอิน เข้าวงการตั้งแต่อายุประมาณ 4 ขวบ เป็นดาราเด็กที่โด่งดังจากภาพยนตร์โฆษณาค่ายโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่งในชุด “เก๊กฮวยถ้วยใหญ่ๆ” และท่าชักแหง็กๆ ที่สร้างความประทับใจในความน่ารัก

ก่อนมีผลงานการแสดงทั้งละครทีวีและภาพยนตร์หลายเรื่อง อาทิ บท “มดตะนอย” ในละครแก้วตาหวานใจ ทางช่อง 7 เมื่อปี 2546 และอีกหลายเรื่อง จากนั้นก็หายหน้าจากวงการไปเรียนต่อ จนปัจจุบันศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

เริ่มกลับมารับงานแสดงทางช่อง 3 โดยที่เพิ่งออกอากาศไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา เป็นซีรี่ส์ชุด “Bangkok Ghost Stories” ตอนดีเจคลื่นแทรก รับบท “ฟ้า” และที่กำลังจะออกอากาศภายในปีนี้เป็นซีรี่ส์ชุด “My Hero” วีรบุรุษ สุดที่รัก เรื่อง เส้นสนกลรัก ของค่ายชลลัมพี รวมถึงเคยมีผลงานเพลงกับค่ายโซนี่มิวสิค

นอกจากนี้ ยังทำธุรกิจส่วนตัวขายของออนไลน์ด้วย

โดยศพของน้องอินถูกนำมาจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต มาบำเพ็ญกุศลที่ศาลา 3 วัดราชสิงขร ถนนเจริญกรุง สวดพระอภิธรรมตั้งแต่วันที่ 8-10 เมษายน ฌาปนกิจในวันที่ 11 เมษายน

ท่ามกลางความอาลัยของครอบครัวและเพื่อนฝูง

ส่ง “น้องอิน” สู่สุคติ