ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 30 มีนาคม - 5 เมษายน 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | อัญเจียแขฺมร์ |
เผยแพร่ |
หลายปีก่อนในงาน “จวบจุมครัวซาร์” อย่างโอฬาริกก่อนที่ฮุน เนียง บิดาจะถึงแก่มรณกรรมนั้น พบว่า มีสมาชิกตระกูลฮุนไม่ต่ำกว่า 200 ชีวิตในจำนวน 3 รุ่นเจเนอเรชั่น
ผ่านไป 10 ปี ดูเหมือนสมาชิกตระกูลฮุน รวมเขย-สะใภ้และญาติทั้งสองฝ่าย พบว่า ขยายทั้งจำนวนและปริมาณ เฉพาะหลานสมเด็จฮุน เซน นั้นก็ปาเข้าไป 20 คนแล้ว
ไม่กี่ปีก่อน เพื่อนฉันคนหนึ่งก็เปรยว่า กำลังร่วมหอลงโรงกับหลานสมเด็จ นับเป็นเรื่องที่ทำให้ต่อมจินตนาการของฉันพลันเกิดการขยายตัว เมื่อพบว่า ราว 2 ทศวรรษมานี้ เถือกเถาเหล่ากอสมเด็จฮุนได้รับการรับรองและถูกจดจำทุกลำดับชั้นทางสังคม โดยเฉพาะทายาทรุ่นหลานที่กำลังเป็นหนุ่มฉกรรจ์
โดยระหว่าง พ.ศ.2544-2555 นั้น พวกเขาต่างร่วมกันก่อคดีต่างๆ อย่างที่สมเด็จลุงฮุน เซน ต้องออกมาปกป้องจนอ่อนใจ
ความสัมพันธ์ชั้นสายโลหิตนี้ แรกเลย สมเด็จฮุน เซน ซึ่งแยกพี่น้องออกจากวงการเมืองและการเป็นสมาชิกระดับกรรมาธิการของพรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) ทั้งหมด โดยยกเพียงตำแหน่ง “ผู้ว่าราชการจังหวัด” กำปงจามและสวายเรียง ต่อพี่ชายทั้งสองหลายวาระจนเลยอายุราชการไปหลายปี
การวางตัวพี่น้องไว้ที่การเมืองท้องถิ่นเช่นนั้น ด้านหนึ่งเพื่อคานอิทธิพลสมเด็จเจีย ซิม, ซอ ผู้ทรงอิทธิพลทั้ง 2 จังหวัดมาก่อนตลอดหลายทศวรรษ
ขณะที่ฮุน เนง เมื่อพ้นจากผู้ว่าการแล้ว ยังเป็น “ประธานความมั่นคงแห่งชาติ”
ขณะที่ฮุน ซาน พี่ชายอีกคน ก็มีตำแหน่งสำคัญด้านปราบปรามยาเสพติดและความมั่นคงแห่งชาติ
เห็นได้ชัดว่า การจัดสรรระเบียบบริหารราชการแผ่นดินในห้วงที่ผ่านมา ฮุน เซน ยังผนึกอำนาจผ่านญาติพี่น้องของตน รวมทั้งชั้นหลาน
โดยฮุน เซียงเฮง สมรสกับสก โสเพียก ลูกสาวอดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ขณะที่ฮุน กิมเลง ก็แต่งกับเนต ซาเวิน ซึ่งมีตำแหน่งด้านความมั่นคงนั้น
ทั้ง 2 เป็นทายาท 1 ในพี่ชาย 2 คนของสมเด็จฮุน เซน ซึ่งล้วนแต่เป็นใหญ่ในกระทรวงมหาดไทย แลโครงข่ายนี้ ยังมีบุตรเขยดี วิเจีย ในฐานะ ส.ส. นั่งแท่นเป็น “รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ”
เบ็ดเสร็จคือ ตั้งแต่ชั้นพี่ชาย (ชาน/เนง) ลูกชาย (มานิต) หลานชาย (ฮุน เจีย/ฮุน เซียงเฮง) ลูกและหลานเขย (ดี วิเจีย/เนต ซาเวิน) ล้วนแต่ผนึกกำลังคุมงานด้านความมั่นคงทั้งสิ้น!
ทำไมกองงานดังกล่าวจึงมีความหมายมากมายต่อสมเด็จฮุน เซน นัก?
เมื่อย้อนกว่า 30 ปีที่ผ่านมา โดยเมื่อสิ้นสมัยเขมรแดงนั้น นิม จันดารา ได้รับคำสั่งให้ออกตามหาพี่น้องของนายจนได้พบกับฮุน ซีนาท หญิงม่ายผัวตายและเสียลูกไปในคราวเดียวกัน
ฮุน เซน ดีใจมากต่อข่าวดังกล่าว แต่ที่ทำให้เขาสบอารมณ์ไปกว่านั้น คือการที่เขากำลังมองหาตัวตายตัวแทนทำงานด้านจารกรรมและความมั่นคง และควรจะเป็นคนที่ใกล้ชิดตนเท่านั้น ซึ่งการนี้ทำให้เขาตบแต่งนิม จันดารา กับฮุน ซีนาท ซะ
นั่นเป็นครั้งที่เขา ฮุน เซน ใช้วิธีสร้างวงศ์วานและเครือข่ายทางการเมืองอย่างมีนัยยะ และอย่างเป็นลำดับเรื่อยมา
อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ได้นำพาให้ฮุน เซน ได้พบกับฮก ลองดี ที่สามารถเพิ่มศักยภาพความทะยานทางการเมืองอย่างสำเร็จ
เพื่อกันความผิดพลาดในหลักการเดียวกันกับนิม จันดารา ฮุน เซน จับฮุน มานิต แต่งลูกสาวเพื่อน ฮก ลองดี ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ รวมทั้งการที่จันดาวี-วิเจีย ที่ต่างเปลี่ยนนามสกุลจาก “ฮก” เป็น “ดี” หลังบิดาเสียชีวิต
ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นการ “ดองญาติ” ที่ไขว้กันไปมา
และถือเป็นวิธีสถาปนาความมั่นคงทางอำนาจที่ปลอดภัยสูงสุด
อีกด้านหนึ่ง จึงเป็นธรรมดาที่จะพบว่า บรรดาทายาทที่ 2 ของตระกูลฮุนนี้ ล้วนมีความหลายหลากทางอาชีพและวิถีความเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะในยุคที่พวกเธอเขายังหนุ่มและยังสาว
เรื่องราวฉาวโฉ่ของบรรดาลูกๆ หลานๆ จอมแสบสันต์ของสมเด็จฮุน เซน กลุ่มนี้จึงมีให้เห็นมาตลอดโดยเฉพาะระหว่างปี 2544-2553
เริ่มจากนิม โสเพีย-นิม จันทนา พี่น้องลูกๆ ของฮุน ซีนาท และนิม จันดารา ซึ่งขณะนั้นเป็นทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงและรัฐมนตรีประจำสำนักในกระทรวงต่างประเทศ ได้ใช้อาวุธปืนไรเฟิลยิงคู่กรณีเสียชีวิต อีกคดีขับรถเร็วจนทำให้เหยื่อเสียชีวิต
ไม่เท่านั้น นิม ปิเซ็ย หลานฮุน เซน อีกคนหนึ่ง ก็เคยกราดยิงนักเที่ยวในคลับบาดเจ็บสาหัส
ฟากยึม เปา บุตรฮุน เซียงนี พี่สาวฮุน เซน ก็เคยสร้างวีรกรรมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติในคลับแห่งหนึ่ง
ส่วนฮุน โต กับฮุน เจีย ลูกพี่ชายก็ไม่น้อยหน้า สองศรีพี่น้องมีคดีกราดยิงคู่ปรับในร้านใจกลางเมือง ยิงคู่กรณีในคลับกลางกรุง ส่งองครักษ์ส่วนตัวทำร้ายนักข่าวและ ส.ส. และอีกหลายคดี รวมทั้งข้อกล่าวหาว่าฟอกเงินจากสื่อเมืองจิงโจ้ (2552)
เมื่อพลิกดูวิถีของหลานๆ ฮุนกลุ่มนี้ ก็เห็นถึงความมั่งคั่งร่ำรวยและความมีอภิสิทธิ์ชน เช่นกรณี ฮุน จันทา ซึ่งไม่ประกอบอาชีพการงาน นอกจากท่องเที่ยวต่างแดน ช้อปปิ้งกระเป๋าแบรนด์เนม รถยนต์ราคาแพง ตลอดจนมีบ้านหรูหราในต่างประเทศและอื่นๆ นี้
เผยถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยความเป็นเป็นผู้มีอันจะกินไม่ต่างจากกรณีฟอกเงินของบรรดาออกญาทั้งห้าทั้งหกของสมเด็จฮุน เซน บางคน ซึ่งทายาทของพวกเขาเกือบจะทั้งหมดล้วนมีวิถีในแบบเดียวกัน
โดยในกลุ่มหลานๆ ฮุน เซน นั้น ต่อมาได้ชื่อว่าเป็นนักลงทุนนำเข้ารถยนต์ราคาแพง และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์นำสมัย ส่วนฮุน โต ซึ่งเติบโตมากับธุรกิจผับ บาร์ ยาเสพติดและการพนัน นอกจากนี้ เขายังมีภรรยาและลูกๆ ซึ่งพำนักในต่างแดนอันเป็นวิถีปกติชนของเศรษฐีเขมรทั่วไปในเวลานี้
อันต่างจากสมาชิกฮุนรุ่นแรก ที่พวกเขาค่อนข้างจะระมัดระวังในการดำเนินชีวิต และเป็นปกติของพี่น้องตระกูลฮุนที่จะปกปิดสถานะของตนออกจากระบบตรวจสอบของสาธารณะ ที่ไม่สามารถเข้าถึงประวัติและฐานข้อมูลทั่วไป
ตัวอย่าง บิดาฮุน โต-เจีย-จันทา นั้น บ้างกล่าวว่าคือฮุน เนง แต่อีกสายหนึ่งก็กล่าวว่าเป็นทายาทของฮุน ซาน ซึ่งเป็นพี่ชายคนโตของฮุน เซน และเป็นอดีตผู้ว่าฯ เขตสวายเรียง
ทั้งหมดล้วนแสดงให้เห็นถึง “ความเป็นบุคคลชนชั้นพิเศษ” ที่พึงปกป้องออกจากความเป็นสาธารณชนในกลุ่มสมาชิกตระกูลฮุนทั้งหมด
ไม่เพียงเท่านั้น ในบางครั้งเพื่อหยุดการขุดคุ้ยประวัติทางเสื่อมเสีย สมเด็จฮุน เซน เคยอาจถึงขั้นใช้อิทธิพลการเมืองเข้าแทรกแซงในบางกิจการระหว่างประเทศ เช่นกรณีฮุน โต เป็นต้น
ในวีรกรรมหลานฮุนทั้งหมดที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นตายโดยไม่เจตนา (2547) คือนิม โสเพีย ที่ถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปีแต่รอลงอาญา ขณะที่ฮุน เจีย ที่ร่วมกับฮุน โต (2545) คดียิงคู่อริบาดเจ็บสาหัสได้รับการยอมความ ฮุน เจีย ยังฉาวต่อในคดีใช้ยาเสพติดและทำร้ายภรรยา (2553) แต่อีกด้าน เขาก็ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นนายพันตำรวจเอกในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
มีแต่หลานเขยนอกไส้-ไท พานี เท่านั้นที่ถูกริบตำแหน่ง “นายพลจัตวา” คืนกองทัพ โทษฐานที่เปิดบ่อน “ไก่ชน” จนสมเด็จขายหน้า
ฟากครอบครัวของสมเด็จฮุน เซน เอง บุตรชายคนสุดท้องคือฮุน มานี นั้น สมรสกับยิม ฌายลิน บุตรี ทั้งสองมีลูกด้วยกันถึง 4 คน
สมเด็จฮุน เซน นั้นได้ชื่อว่านิยมให้ศักดิ์ยศแก่อีกฝ่ายอย่างเสมอกัน โดยเฉพาะพ่อตาแม่ยายของลูกชายนั้น เขามักจะมอบตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนัก เช่นกรณีสะใภ้คนโต เพชร จันมุนี บิดาของเธอเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักในกระทรวงแรงงาน ส่วนยิม ฌายลิน บิดาของสะใภ้รองก็ประจำกระทรวงพัฒนาชนบท
โดยสำหรับยิม ฌายลิน นั้น ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “สะใภ้คนโปรด” ของสมเด็จรานีที่มักเอ็นดูพาเธอออกงานเป็นครั้งคราว แต่แรกทีเดียวนั้น ตั้งแต่ฮุน มานี ยังศึกษาที่ออสเตรเลียและชีวิตในต่างแดนที่ดูจะสงบงาม ที่เริ่มต้นในคนทั้งสองซึ่งต่างถูกจับคู่แต่งงานกัน
ต่อเมื่อสมเด็จบิดาดึงมาเล่นการเมืองและดูแลงานในพรรคด้านกิจกรรมเยาวชนนั้น ฮุน มานี ดูจะเริ่มเข้ายุ่งจัดกับการทำงานมวลชน แม้เขาเองบางครั้งจะโพสต์ถ้อยคำหวานในเฟชบุ๊กส่วนตัวจนเป็นที่ทราบกันว่า ฮุน มานี ที่คุณหญิงแม่บุน รานี เอ็นดูและสนิทสนมกับพี่สาวฮุน มานา นั้น เป็นผู้ชายโรแมนติก
โดยนัยที ฮุน มานี มักสาธยายสาเหตุที่เขาเริ่นต้นชีวิตคู่เร็วกว่าเพื่อนคนอื่นๆ คำตอบก็คือ นั่นเป็นเพราะเขาได้พบคนที่ใช่ และมัน “ใช่เลย” ที่เขาไม่จำเป็นต้องอธิบายคำใด
ทว่า อีกด้านหนึ่ง ก็พบว่า บ่อยครั้งทีเดียวที่การรวมตัวในคนครอบครัวฮุนนั้น สะใภ้ยิม ฌายลิน มักจะฉายเดี่ยวเนื่องจากฮุน มานี มักจะยุ่งงานและจัดสรรเวลาไม่ได้
ดูเหมือนเกือบสุดท้ายที่ทั้งคู่ออกสื่อถ่ายภาพร่วมกัน คืองานฉลองปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ของสมเด็จบุน รานี ซึ่งหลายปีมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุที่ฮุน มานี (และมานิต) ไม่ใช่โปรไฟล์เบอร์หนึ่งของทายาทตระกูลฮุน ประพฤติชีวิตคู่ของเขาและภรรยาจึงไม่ถูกจับตามองเช่นกรณีพลโทฮุน มาเนต พี่ชายกับภรรยา ดังจะเห็นผ่านทางเฟชบุ๊กส่วนตัวฮุน มาเนต ที่คนทั่วไปสามารถสัมผัสถึงความสมถะเรียบง่าย ในครอบครัวของคนคู่นี้
จนเกิดกรณีที่เฟชบุ๊กฮุน มานี ถูกกลุ่มแฮ็กเกอร์เข้าไปจารกรรม แล้วนำไทม์ไลน์และแชตทั้งหลายของเขามาตีแผ่
เผยให้เห็นถึงภายใต้ท่าทีที่สมบูรณ์แบบและเคร่งครัด ตามแบบฉบับทายาทตระกูลฮุนนักการเมืองนั้น
ฮุน มานี มีความนอกรีตพิสดารที่ปิดบังอำพรางมากคนหนึ่ง