กาละแมร์ พัชรศรี : จังหวะชีวิตที่ต้องรักษาไว้

การดำเนินชีวิตของคนเราต้องมีจังหวะ

แม้จังหวะแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน แต่เราก็ต้องรักษาจังหวะเราไว้ แม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตก็ตาม เพราะเมื่อเสียจังหวะแล้วไม่รีบกลับมา มันจะกลับมายาก ใช้เวลาฝึกอีกนาน หรืออาจจะไม่สามารถทำมันได้ตลอดชีวิตเมื่อปล่อยเวลาให้นานเกินไป จากที่เราเป็นคนที่มีจังหวะจะโคนในชีวิต ทั้งในทางรูปธรรมและนามธรรม เราก็จะลืมว่าเราเคยทำมันอย่างไร

ในทางรูปธรรม เวลาที่เรามีชีวิตดีๆ ใจเราดี ความคิดเราดี การกระทำเราก็ดี การพูดจาเราจะมีจังหวะจะโคน น้ำเสียงมั่นใจ เว้นวรรคตอนถูกต้อง อ้าปากพูดเคลียร์ไม่ลิ้นเปลี้ย ลิ้นห่อหรือพูดอยู่ในลำคอ เล่าเรื่องอะไรก็เล่ารู้เรื่องด้วยมาดที่มั่นคง มั่นใจ พูดออกอย่างลื่นไหลไม่ติดขัด บุคลิกภาพดี อกผาย ไหล่ผึ่งสู้หน้าคน สบตาคน มีรอยยิ้ม

เวลาเดินก็เดินอย่างมั่นใจ มาดมั่น รู้ว่าเป้าหมายว่าเราจะเดินไปในทิศทางไหน ตัดสินใจอะไรมันจะใช่ ฉับๆๆๆ มันจะรู้โดยสัญชาตญาณขึ้นมาเลยว่า เราควรต้องทำอะไร อย่างไรต่อไป

แต่ถ้ามันเสียจังหวะ ทำอะไรมันก็ไม่ถูก ไม่ใช่ไปเสียหมด เหมือนโดมิโนล้ม แล้วล้มต่อกันเป็นทอดๆ จากที่เคยทำดีทำได้ พอใจมันเสียปุ๊บมันจะเริ่มไปไม่เป็น มันจะเริ่มงงๆ ไม่มั่นใจว่า เอ๊ะ ทำถูกไหม ทำอย่างนี้ดีหรือเปล่า ทำแล้วผลจะเป็นยังไงนะ คือเสียความมั่นใจไปทุกอย่าง ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเคยทำได้และทำได้ดี

แล้วก็ไปโทษว่าช่วงนี้ดวงตก ดวงซวย ทั้งๆ ที่ดวงมันขึ้นอยู่กับเราเป็นส่วนใหญ่ ดวงหรือจะสู้ใจเราเอง ถ้าใจเราแข็งๆ ฝืนๆ มัน แม้เกิดเรื่องผิดพลาดในชีวิต เราก็พลิกขึ้นมาเป็นเรื่องดีได้ บวกได้ มันอยู่ที่เราจะเอากับมันอย่างไรต่างหาก

 

เทคนิคการรักษาจังหวะในชีวิตให้ดีคือ “ต้องมีวินัย”

มันเป็นคำง่ายๆ ไม่ได้เก๋ไก๋ ทันสมัย แปลกประหลาดให้ร้องโอ้โห โอ้หาอะไร แต่มันเป็นคำที่ดูง่ายๆ ใช่ไหม แต่เวลาทำมันโคตรยาก

ครึ่งค่อนชีวิตที่ผ่านมาบอกได้เลยว่า เพราะ “วินัย” ทำให้เราเป็นเราทุกวันนี้ ทำให้เราได้อะไรดีๆ ในชีวิตมากมาย เพราะเราลงมือทำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แบบไร้ข้ออ้าง แบบไร้ข้อกังขา แบบไร้ขีดจำกัดในชีวิต แบบไม่มาตั้งคำถามให้เสียเวลาแต่ลงมือทำๆๆๆๆ จนรู้ จนเข้าใจ จนแตกฉาน จนอยู่กับมันได้ จนหลอมรวมเป็นมัน จนทำมันสำเร็จ เพราะวินัยแท้ๆ

ฉันบอกเสมอว่าฉันไม่ได้เก่งกว่าใคร ฉันแค่ทำไม่หยุดเท่านั้น

อยากมีอาชีพแบบนี้ เขาต้องทำกันอย่างไร อยากอ่านข่าว อยากเป็นพิธีกร ลงมือทำๆๆๆๆ ซ้อมๆๆๆๆ ลงสนามให้เยอะ งานไกลงานใกล้ งานฟรี งานได้เงินน้อย งานอะไรลงมือทำหมด เพราะทุกเวทีคือสนามให้เราได้พัฒนาตัวเองทุกๆ วัน ไม่มีอีโก้ ไม่เกี่ยงงาน พร้อมเรียนรู้ ถามไถ่ ลงมือทำแล้วปรับปรุงตัวเอง ไม่ท้อ ไม่เบื่อ ไม่บ่น ไม่บ้าบอ ไม่ดราม่า ไม่จับกลุ่มนินทา ไม่อิจฉา ไม่มีพรรคพวก

ใช้ฝีมือเข้าสู้อย่างเดียว

บอกตัวเองทุกครั้งเวลาลงมือทำอะไร ทำให้สุด เอาสักตั้งสิวะ ให้รู้ว่ามันจะไปสุดที่ตรงไหน

 

อยากเป็นนักเขียน อ่านๆๆๆ แล้วก็ลงมือเขียนๆๆๆ เขียนทุกวัน เขียนให้คนที่ทำงานอ่านเล่นๆ เขียนลงสมุดบันทึก เขียนรักษาจังหวะไว้ เขียนจนถึงทุกวันนี้กรูก็ยังเขียน! (ฮา) ไม่สนว่าได้เงินเท่าไหร่ แต่เรามีเรื่องที่อยากบอก อยากเขียน เราก็ลงมือเขียน

อยากมีหุ่นดี อยากสุขภาพดีก็ลงมือทำ ออกกำลังกายมันเข้าไป ไม่ต้องไปคิดมาก ไม่ต้องไปตั้งคำถามเยอะ อันนี้จะดีไหม เล่นแล้วจะขาใหญ่รึเปล่า ลงมือทำเลยมันจะหมดคำถาม มัวแต่ถามมรึงก็ไม่ทำ เชื่อสิ!

วันไหนจะขี้เกียจ สะบัดหัวแต่งตัวใส่รองเท้าออกไปทำเลย ไม่ต้องคิดนาน คิดนานแล้วจังหวะเสีย ทำๆ มันไปเลย เดี๋ยวเครื่องก็ติดเอง

กินอาหารก็เหมือนกัน กินพังก็มีแต่ไม่ปล่อยให้ไหลยาว มันเสียจังหวะ ไหลยาวแล้วกู้กลับยากละ กินบ้างนิดๆ หน่อยๆ พอให้หายอยาก แล้วพอมันรักษาวินัยไว้ได้ ผลตอบแทนที่เราได้รับ มันน่าภูมิใจเสมอ

แล้วไม่ต้องพูด ไม่ต้องประกาศ ไม่ต้องไปเวิ่นในเฟซบุ๊ก ไม่ต้องไปขอกำลังใจจากใครทั้งนั้น ชีวิตมรึง มรึงควรตัดสินใจเองไหม รู้ตัวเองดีที่สุดไหม ต้องการแค่ว่า “สู้ๆ นะ” “เราเคียงข้างเสมอนะ” ต้องการการซัพพอร์ตเพราะเราไม่มั่นใจในสิ่งที่เราทำเหรอ

 

ลงมือทำไปเลย มัวแต่ฟุตเวิร์ก เล็งอยู่นั่นล่ะ แล้วคิดว่าจะเจ็บไหม จะยังไงต่อ ลองต่อยก่อนไหม เจ็บเดี๋ยวก็รู้ว่าครั้งต่อไปจะต้องทำอย่างไร แต่ต้องไม่ท้อ ไม่ถอยเท่านั้น เรียนรู้แล้วไปต่อ

อย่าทำตัวเหยาะแหยะมันเสียจังหวะ มันปวกเปียก มันเละเทะ มันย้วย มันอืด มันง่อย มันดูอ่อนแอ ขี้แพ้ตลอดเวลา แล้วถ้าเป็นอย่างนี้ไปนานๆ กว่าจะขุดขึ้นมาได้ นานมะ!?

เวลาไฟลุก ไฟติด จังหวะดีๆ ลงมือทำมันเลย แม้วันใดที่เหนื่อย เบื่อ ท้อ เราก็ยังคงต้องรักษาจังหวะเราไว้ มีสติกับจังหวะของเรา รู้ตัวเสมอ ไม่เห่อตามใคร รู้จักตัวเองมากๆ

แล้วเราจะสนุกกับจังหวะที่เราสร้างสรรค์ด้วยตัวของเราเอง…