ในประเทศ/คสช. ปลื้ม พรรค ‘นอมินี’ พรึบ!! จับตา ‘พรรค กปปส.’ หัวเรือใหญ่ ‘บิ๊กตู่’ กรุ้มกริ่ม ขอดูนโยบาย

ในประเทศ

คสช. ปลื้ม พรรค ‘นอมินี’ พรึบ!!

จับตา ‘พรรค กปปส.’ หัวเรือใหญ่

‘บิ๊กตู่’ กรุ้มกริ่ม ขอดูนโยบาย

ว่าที่พรรคการเมืองต่าง ‘เป่าปี่ตีกลอง’ มากขึ้นหลัง คสช. อนุญาตให้พรรคการเมืองใหม่ไปจดจัดตั้งพรรคตั้งแต่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ผ่าน 1 สัปดาห์ เกือบ 50 พรรคแล้ว
แน่นอนว่ามีทั้งว่าที่พรรคที่ ‘เอาจริง’ และกลุ่มชิมลาง ‘สนามการเมือง’ ก่อน ที่สำคัญแทบทุกพรรคต่างประสานเสียงไม่ปิดประตู ‘นายกฯ คนนอก’ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ เพราะรัฐธรรมนูญ 2560 ระบุไว้ว่า การได้มาซึ่งนายกฯ จะมีทั้งในบัญชีที่เสนอพรรคละ 3 คน เป็นแคนดิเดตนายกฯ และเปิดช่องให้มี ‘นายกฯ คนนอก’ ได้
ซึ่งทุกพรรคที่ ‘เอาจริง’ ต่างไม่อยากตกรถขบวนนี้ และโอกาสที่จะได้เก้าอี้ในสภาก็มีสูงมากขึ้น ด้วยกลไกระบบการเลือกตั้ง รธน.2560 ที่ออกแบบมาอย่างดี ทั้งระบบพรรคเดียว และระบบ 2 พรรคใหญ่

สิ่งที่น่าจับตาคือการเกิดขึ้นของพรรค ‘ร่างทรง’ หรือ ‘นอมินี’ ของ คสช. ที่แม้จะไม่เปิดตัวอย่างตรงไปตรงมา แต่หากดูแบล๊กกราวด์ และบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้ว ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับ คสช. ไม่มากก็น้อย
โดยเฉพาะ ‘พรรคประชาชนปฏิรูป’ นำโดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิก สปช. ที่ไปยื่นขอจัดตั้งพรรคกับ กกต. เรียบร้อยแล้ว ยังคงยืนยันสนับสนุน ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ต่อไป
ก่อนหน้านี้ นายไพบูลย์เคยเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ควรอยู่ในบัญชีรายชื่อ แต่ควรจะมาเป็น ‘นายกฯ คนนอก’ เพราะถ้าอยู่ในบัญชีรายชื่อตั้งแต่แรก จะไม่เป็นกลางได้
นายไพบูลย์วางแผนไว้ว่า ถ้าเข้าไปในสภาได้ จะรวมเสียง ส.ส. และ ส.ว. ให้ได้ 375 เสียง เพื่อปูทาง ‘บิ๊กตู่’ เป็น ‘นายกฯ คนนอก’ แน่นอนว่า แนวทางของนายไพบูลย์ก็สามารถเดินเคียงข้างกับกลุ่ม กปปส. ที่กำลังปูทางตั้งพรรคอยู่ได้

อีกพรรคที่น่าสนใจ ‘พรรคพลังชาติไทย’ นำโดย พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ หากย้อนดูโปรไฟล์จะพบว่าเคยเป็นอดีตนายทหารประจำสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตคณะทำงานเตรียมการปฏิรูปเพื่อคืนความสุขให้คนในชาติ (คสช.)
ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าว พล.ต.ทรงกลด เกี่ยวข้องกับ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม อีกทั้ง พล.อ.ประวิตรเคยตกเป็นข่าวกำลังรวมฐานเสียงภาคอีสานด้วย ซึ่ง พล.อ.ประวิตรเคยชี้แจงแล้วว่าไม่รู้จัก พล.ต.ทรงกลด
นายวีระ รักธรรม ว่าที่โฆษกพรรค ชี้แจงว่า พล.ต.ทรงกลดเคยเป็นคณะทำงานด้านการปฏิรูปประเทศ คสช. และเป็นหัวหน้าคณะทำงานรับเรื่องร้องเรียนของประชาชน จึงทราบปัญหาของประชาชนจึงเป็นที่มาของการตั้งพรรคการเมือง
“ส่วนจะเป็นพรรคนอมินี สืบทอด ต่อท่อของ คสช. หรือไม่ เราดำเนินการตามครรลองประชาธิปไตยลงสู่การเลือกตั้ง ประชาชนทั้งประเทศจะเป็นผู้ตัดสิน ว่านโยบายของพรรคที่นำเสนอนั้น จะได้รับการยอมรับหรือไม่” นายวีระกล่าว

ส่วนกลุ่มที่ยัง ‘ไม่รู้ใจตัวเอง’ อย่าง กปปส. ยังคงไม่สามารถยืดอกยืนยันได้ว่าจะตั้งพรรคหรือไม่ แม้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ปธ.มูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ จะพูด ‘ย้อนแย้ง’ นายธานี เทือกสุบรรณ น้องชาย อดีตแกนนำ กปปส. ที่ประกาศตั้งพรรคไปแล้ว
ก่อนหน้านี้ เทพเทือกประกาศชัดเจนว่า กปปส. จะไม่ตั้งพรรค ซึ่งภารกิจของ กปปส. ชุมนุมต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต้านระบบทักษิณ ต่อสู้คัดค้านการเลือกตั้ง ที่ไม่มีการปฏิรูปประเทศ ซึ่งจบลงไปแล้วตั้งแต่ 22 พฤษภาคม 2557 อีกทั้ง กปปส. ไม่ใช่องค์กรถาวร เมื่อเสร็จภารกิจก็กลับที่ตั้งเดิม
แต่ทว่า นายธานีออกตัวว่า จะตั้งพรรค กปปส. โดยใช้ชื่อว่า ‘พรรคมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข’ และมีรายงานว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสารก่อนไปจดจัดตั้งกับ กกต. ช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้
ต้องจับตาดูท่าทีหลังจากนี้กลุ่ม กปปส. จะทำอย่างไรต่อไป หลังนายสุเทพ พี่ใหญ่ กปปส. เล่นเกมแทงกั๊ก ไม่ให้ ‘ผูกมัดตัวเอง’ ในอนาคต ว่าจะลงสนามการเมืองพรรคใดหรือไม่ อยู่ที่สถานการณ์และประชาชน และยืนยันสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เช่นเดิม
“ผมเองก็ดูว่าประชาชนทั้งหลายเขาคิดอย่างไร แล้วผมก็มีความคิดของผม แต่ไม่ต้องการออกมาชี้นำประชาชน เป็นเรื่องของพี่น้องประชาชนที่เขาจะคิดอ่านดำเนินการ แล้วก็ถึงเวลาว่าผมตัดสินใจอย่างไรผมก็จะดูสถานการณ์ ดูความตั้งใจของบรรดาพี่น้องประชาชนเป็นหลัก” นายสุเทพกล่าว

ขณะที่ ‘บิ๊กตู่’ กล่าวถึงกรณี ‘กปปส.’ ที่เคยประกาศสนับสนุนจะไม่ตั้งพรรค ยังคงขอบคุณเช่นเดิม ไม่ว่ากลุ่มใดที่บอกว่าจะสนับสนุนตน เพราะทำอย่างอื่นไม่ได้ และมองว่าเรื่องนี้ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล ที่จะรักใครชอบใคร ถ้ารักใครชอบใครก็เชียร์คนนั้น แน่นอนว่า ยังเร็วไปที่ พล.อ.ประยุทธ์จะตอบรับหรือปฏิเสธ หากมีคนมา ‘ทาบทาม’ หรือ ‘เสนอชื่อ’ ในเวลาช่วงนี้
“ผมเองยังไม่ได้พิจารณาในเรื่องนี้เลยว่าจะเป็นอย่างไร ไปอย่างไร ใครจะมาขอ ยังไม่เห็นมีใครมาติดต่อผมเลย เห็นแต่พูดกันผ่านสื่อเท่านั้น แล้วถ้าขอมา ผมจะรับหรือเปล่าก็ไม่รู้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
“วันนี้ยังไม่รู้ ผมจะต้องดูนโยบายของแต่ละคนแต่ละพรรคการเมือง โดยต้องคิดแบบประชาชน และประชาชนเองก็ต้องคิดแบบนี้ โดยต้องดูทั้งนโยบายพรรค คนที่อยู่ในพรรค ว่าเป็นอย่างไร มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน มีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม รอบรู้แค่ไหน”
พล.อ.ประยุทธ์แจง

จากนี้ไปต้องจับตาดูกลุ่ม กปปส. ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร แต่เรื่องนี้ก็ทำให้ ‘พรรคประชาธิปัตย์’ เจองานใหญ่ หากกลุ่ม กปปส. ไปตั้งพรรคจะดึงทั้ง ‘ลูกพรรค’ และ ‘ฐานเสียง’ ไปด้วยหรือไม่
แต่ก็มีการมองว่าจะเป็นการ ‘แยกกันแล้วร่วมกันตี’ หรือไม่ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ตอบแบ่งรับแบ่งสู้ ว่า ทุกพรรคที่ตั้งขึ้นใหม่ย่อมแย่งฐานเสียง เพราะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ประชาชน
สิ่งที่ต้องดูอีกคือ ‘สมาชิกพรรค’ จะเลือกอยู่ ปชป. หรือจะไปร่วมกับ กปปส. แม้นายสุเทพจะยังคงยืนยันไม่ตั้งพรรค แต่นายสุเทพก็ถือว่ามี ‘บารมี’ ในพรรคไม่น้อย
ซึ่งแน่นอนว่าทั้ง 2 กลุ่ม ก็ยังมีจุดร่วมกัน คือ ค้านพรรคเพื่อไทยและระบบทักษิณ สานต่องาน ‘ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี’ ได้ต่อทันที

อีกพรรคที่ชื่อคุ้นหู กลับมารีโนเวตใหม่ คือ ‘พรรคพลังธรรมใหม่’ นำโดย นพ.ระวี มาศฉมาดล อดีตแกนนำเครือข่ายปฏิรูปพลังงาน (กคป.) เคยเป็นแนวร่วม กปปส. ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แม้จะไม่ประกาศชัดดัน ‘บิ๊กตู่’ ขึ้นเป็นนายกฯ คนนอกหรือไม่ แต่ก็ยืนยันจะเลือกคนดีเป็นนายกฯ โดยผ่านขั้นตอนเลือกจากรายชื่อของแต่ละพรรคก่อน ซึ่งพรรคก็ไม่ได้ปฏิเสธการได้มาซึ่ง ‘นายกฯ คนนอก’
อีกทั้ง ‘พรรคเพื่อชาติไทย’ นำโดยนางอัมพาพันธ์ ธเนศเดชสุนทร ภรรยาคนสุดท้ายของ ‘บิ๊กจ๊อด’ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีต ผบ.สส. และอดีต ปธ.รสช. ที่เสนอเป็น ‘โซ่ข้อกลาง’ ระหว่างฝ่ายปฏิวัติกับฝ่ายประชาธิปไตย ส่วนการจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเป็น ‘นายกฯ คนนอก’ หรือไม่นั้น ถ้าเป็นทหารแล้วมาตามแนวทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็สามารถทำได้
พร้อมร่อนจดหมายแจงความสัมพันธ์กับ ‘บิ๊กแดง’ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. เต็งหนึ่ง ผบ.ทบ.คนต่อไป ที่จะต้องมารับภารกิจช่วง ‘เลือกตั้ง’ ด้วย
“ข้าพเจ้ามีความสัมพันธ์เชิงครอบครัวกับ ‘เสธ.แดง’ โดยมี ‘บิ๊กจ๊อด’ เป็นสื่อสัมพันธ์ อดีตของการเป็นครอบครัว ย่อมมีเรื่องสดชื่นร่วมมือร่วมกิจกรรมกันเป็นอย่างดี และมีความคิดที่ต่างกันบ้างเป็นเรื่องเล็กน้อย
แต่ทั้งหมดเป็นอดีตที่เป็นความทรงจำที่ดีต่อกัน และเชื่อว่าเรื่องที่คิดไม่ตรงในอดีต คงถูกลบเลือนหายไปหมดแล้ว
ปัจจุบันเชื่อว่าทั้งข้าพเจ้าและ ‘เสธ.แดง’ มีแนวความคิดตรงกันในเรื่องชาติบ้านเมืองและประชาชนว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนอยู่กันอย่างมีความสุข” นางอัมพาพันธ์แจง
นับจากนี้ต้องดูกันว่า ‘พรรคเครือข่ายสีแดง’ จะออกมาจดจัดตั้งเมื่อใด เพราะแน่นอนว่าฟากฝั่ง ‘เพื่อไทย-เสื้อแดง’ ก็ต้องเดินหมากไม่ต่างจาก ‘กองทัพ-กปปส.’ และ ‘ประชาธิปัตย์’ เพราะระบบตาม รธน. เปิดโอกาสให้พรรคขนาดกลางได้เก้าอี้มากขึ้น
แต่ก็มีรายงานว่าตอนนี้ทางฟากฝั่ง ‘เพื่อไทย-เสื้อแดง’ ก็เตรียมตั้งพรรคลูกไว้อย่างน้อย 3 พรรคแล้ว เพื่อเดินหมากสู้กับอีกฟากฝั่ง
เพียงแค่ ‘เริ่ม’ ก็ ‘ร้อน’ แล้ว!!