จัสติน ทิมเบอร์เลก ซุปตาร์อเมริกัน นำสตูดิโออัลบั้มชุดที่ห้า Man of the Woods ประเดิมการออกจำหน่ายด้วยอันดับ 1 ในชาร์ตบิลบอร์ดสัปดาห์ที่ผ่านมา และยังเข้าไปอยู่อันดับสูงในชาร์ตของอีกหลายประเทศ อาทิ อันดับ 1 ในแคนาดา อันดับ 2 ในอังกฤษ ด้วยยอดจำหน่ายเทียบเท่ากับ 293,000 ชุด เฉพาะตัวอัลบั้มขายไป 242,000 ชุด ถือเป็นผลงานชุดที่ 4 ของทิมเบอร์เลก ที่ขึ้นถึงอันดับหนึ่งในชาร์ตบิลบอร์ด

ปีนี้อายุ 37 ปี อยู่ในวัยรอยต่อของพลังและประสบการณ์

 

จัสติน แรนดอล ทิมเบอร์เลก เกิด 1981 ที่เทนเนสซี โด่งดังจากการเป็นหนึ่งในสองนักร้องนำของเอ็นซิงก์ (NSYNC) บอยแบนด์ที่มียอดขายดีตลอดกาล

จากบอยแบนด์ ทิมเบอร์เลกเติบโตและปรับผลงานให้สอดคล้องกับวัยของตัวเองและเรียกแฟนเพลงให้ติดตามได้อย่างต่อเนื่อง

ทำผลงานเดี่ยวชุดแรก Justified ในปี 2002 มีซิงเกิลดังอย่าง Cry Me a River และ Rock Your Body ทำให้ได้แกรมมี่สองรางวัลแรกไป

อัลบั้มที่สอง FutureSex/LoveSounds ออกในปี 2006 ประเดิมด้วยอันดับ 1 ในชาร์ตอัลบั้มบิลบอร์ด และซิงเกิลดัง SexyBack, My Love, What Goes Around… Comes Around

เฉพาะสองอัลบั้มแรกขายไป 10 ล้านชุด หลังจากผลงานชุดที่สอง หันไปโฟกัสในงานแสดง และนำแสดงในหลายเรื่อง อาทิ The Social Network, Bad Teacher ฯลฯ

กลับวงการดนตรีอีกครั้งในปี 2013 ด้วยผลงานชุดที่สามและสี่ The 20/20 Experience และ The 20/20 Experience – 2 of 2 ในสไตล์ดนตรีนีโอโซล และร็อกจากยุคจาก 60-70 อัลบั้ม The 20/20 Experience กลายเป็นอัลบั้มขายดีที่สุดแห่งปี มีซิงเกิลดังๆ ได้แก่ Suit & Tie และ Mirrors

ส่วน The 20/20 Experience – 2 of 2 มีเพลงดัง ได้แก่ Not a Bad Thing

รวมตลอดเส้นทางการทำเพลง ขายอัลบั้มไปแล้ว 32 ล้านชุด และ 56 ล้านซิงเกิล ถือเป็นหนึ่งในศิลปินที่ผลงานขายดีที่สุด

 

ทิมเบอร์เลก ยังให้เสียงในบทนำของแอนิเมชั่น Trolls เมื่อปี 2016

ซึ่งซาวด์แทร็กอัลบั้มของหนังเรื่องนี้ มีซิงเกิล Can”t Stop the Feeling! เข้าอันดับ 1 ในชาร์ตซิงเกิล

และเป็นเพลงท็อปชาร์ตซิงเกิลที่ห้าของทิมเบอร์เลก

ได้แกรมมี่มาแล้ว 10 รางวัล, เอมมี่ 4 รางวัล, 3 บริตอะวอร์ด และ 9 บิลบอร์ดมิวสิกอะวอร์ด

นิตยสารไทม์ยกย่องให้เป็น 1 ใน 100 ผู้ทรงอิทธิพลของโลกแห่งปี 2007 และ 2013

และยังเปิดธุรกิจส่วนตัว อาทิ Tennman Records, แบรนด์แฟชั่น William Rast, ภัตตาคาร Destino และ Southern Hospitality

นั่นคือปูมประวัติคร่าวๆ ของทิมเบอร์เลก

 

กลับมาที่ผลงานชุดใหม่นี้ หลังจากรายการเวิลด์ทัวร์ The 20/20 Experience และ The 20/20 Experience – 2 of 2 เพื่อโปรโมตผลงานชุดเดียวกันผ่านไป ทิมเบอร์เลกหยุดพักไป 1 ปี แล้วกลับมาโปรดิวซ์อัลบั้มซาวด์แทร็กให้หนังแอนิเมชั่น Trolls ในปี 2016

ในห้วงเดียวกันนั้น เริ่มแย้มๆ ถึงผลงานชุดใหม่ แต่ไม่ได้กำหนดวันออกจำหน่ายอย่างชัดเจน และในการให้สัมภาษณ์ทางวิทยุ ได้กล่าวว่า การเติบโตมาในอเมริกา ทำให้ได้รับอิทธิพลของหลายสิ่งหลายอย่าง อย่างเทนเนสซี เมมฟิสคือบ้านเกิดของร็อกแอนด์โรล แต่ก็เป็นถิ่นฐานของบลูส์ ส่วนแนชวิลล์ที่ไม่ได้อยู่ไกลกัน เต็มไปด้วยดนตรีคันทรี่

นั่นคงเป็นรากฐานในการทำงานชุดนี้ ส่วนในการบันทึกเสียง ผลงานชุดนี้ทิมเบอร์เลกทำงานกับโปรดิวเซอร์หลายคน Timbaland, Danja, The Neptunes, รวมถึง Max Martin

ทิมเบอร์เลกกล่าวไว้ว่าไอเดียในการทำเพลง ก็คือให้มีเสียงเหมือนพื้นที่ที่เขามา มากกว่าดนตรีประเภทอื่นที่เคยทำมา เป็นดนตรีภาคใต้ของอเมริกา แต่ทำให้ทันสมัยมากขึ้น ซึ่งรายชื่อของโปรดิวเซอร์ตอบโจทย์นี้

นั่นคือเรื่องของความตั้งใจ ส่วนผลงานที่ออกมา เป็นดนตรีอาร์แอนด์บี และอิทธิพลของดนตรีคันทรี่และฟังก์

 

เสียงจากนักวิจารณ์ค่อนข้างหลากหลาย บางค่ายให้บี หรือ 3 จากห้าดาว ไปจนถึงระบุว่าเป็นก้าวพลาดก้าวผิดของป๊อปสตาร์ ก่อนให้ 3.8 จากคะแนนเต็มสิบ

บางสำนักบอกว่า มีเหตุผลหลายข้อที่จะชื่นชอบอัลบั้มนี้ รวมถึงการที่มีบีตที่ดีและเป็นเพลงที่เต้นไปด้วยได้

อัลบั้มนี้ เปิดมาด้วย Filthy จากนั้นคือ Midnight Summer Jam, Sauce, ไตเติลแทร็กที่มีบีตครึกครื้น Man of the Woods, Higher, Higher, Wave, Supplies, Morning Light ฟีเจอริ่งสาวอาร์แอนด์บีชื่อดัง อลิเชีย คีย์ส, เพลงดัง Say Something ฟีเจอริ่งซุปตาร์คันทรี่ คริส สเตเปิลตัน, Flannel, Montana, Breeze Off the Pond, Livin” Off the Land, The Hard Stuff และ Young Man

เป็นเพลงป๊อปที่เจือหลายรสชาติ ลงตัวและทันสมัย