ฟ้า พูลวรลักษณ์ : สงคราม-ศาสนา-ชรา-ตาย

ฟ้า พูลวรลักษณ์

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๒๐๘)

สงครามศาสนาเกิดจากคนกลุ่มหนึ่งเชื่อว่าตนเองสามารถควบคุมอนาคตของโลกเอาไว้ได้

มันเป็นปัญหาที่ยากมาก เพราะเป็นเรื่องของศรัทธา สำหรับชีวิต ศรัทธามีค่าสูงสุด มันอาจมาในรูปของอุดมการณ์ ซ้ายหรือขวา หรือมาในรูปของศาสนา จะเป็นอะไรก็ช่าง

จะให้ไม่มีศาสนา คงไม่ได้ ตราบใดที่มนุษย์ยังเป็นมนุษย์ สิ่งเดียวที่หวังได้ คือมนุษย์มีศรัทธาเพียงแค่พอประมาณ ไม่ไปล่วงล้ำสิทธิของคนอื่น การกำจัดศรัทธามนุษย์ คงทำได้แค่นี้

ประชาธิปไตยที่ดี คือระบบที่ทำให้อสรพิษร้ายสุดนี้ มีพิษสงน้อยลง แต่จะให้มันหายไปไม่ได้ เราไม่มีพลังเพียงพอ

แต่อสรพิษร้ายสุดนี้ มันอาจหมอบลงเพียงชั่วคราว หากมีโอกาสมันก็ผงกหัวขึ้นมาใหม่ พร้อมจะแผดเสียงร้อง พร้อมจะกลับสู่ความเป็นจอมอสรพิษ เหมือนแต่เดิม

เรามีระบบอะไรกันนี่ ทำได้แค่ทำให้มันคลายพิษสงลงชั่วขณะ ทำให้มันเชื่องลงชั่วคราว เพราะมนุษย์เราทำได้แค่นี้เอง

๑คนเก่ง คือคนที่ยิงได้เข้าเป้า

๒ อัจฉริยะ คือคนที่มองเห็น สิ่งที่ไม่มีใครมองเห็น

โลกเราหากจะมีหวัง เราต้องการคนสองแบบนี้ มาช่วยแก้ปัญหา หากแก้ได้ เราก็รอด หากแก้ไม่ได้ เราก็ตาย

คำจำกัดความของมนุษย์คือ มนุษย์คือใครคนหนึ่ง ที่สามารถขยายตัวได้เกินตัวเอง ช่างเป็นคำจำกัดความที่แปลกมาก ไม่เหมือนใครเลย

แต่หากมองให้ดี แสดงว่ามนุษย์จะต้องกลายพันธุ์แน่นอน เรากำลังมุ่งหน้าไปสู่มัน จะโดยรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม มันเป็นการขับเคลื่อนที่เป็นเผ่าพันธุ์ ไม่ได้เกิดจากความต้องการของใครคนใดคนหนึ่ง

คนที่ไม่ยอมกลายพันธุ์ ก็จะสูญพันธุ์ไปเอง พวกเขาจะพบว่าตัวเองไม่มีที่อยู่

แต่คนที่กลายพันธุ์ ก็จะต้องเผชิญหน้ากับปัญหามากมาย

มนุษย์น้อยคน ที่จะแก่ชราอย่างสง่างาม

ความตาย จะเพิ่มทวีขึ้น ในสัดส่วนเดียวกับจำนวนประชากร นั่นหมายถึง ในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด จะมีคนตายมากมาย มันจะเกิดขึ้นกับ

๑ การลี้ภัย

๒ การย้ายที่อยู่อาศัย

๓ การไม่ต่อเนื่อง

๔ ความอดอยาก

๕ เชื้อโรค

๖ สงคราม

ในอดีต หลายประเทศก็เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ คนตายด้วยเหตุเดียวกันนี้ เพียงแต่สมัยนั้น ประชากรบนโลกยังมีน้อย อย่างในอดีต คนจีนมีประชากรเพียงห้าสิบล้านคน ตายไปครึ่งประเทศ ก็ตายไปแค่ยี่สิบกว่าล้านคนเท่านั้นเอง แต่วันนี้ประเทศจีนมีประชากรหนึ่งพันล้านคน หากตายครึ่งประเทศ มันเป็นจำนวนมหาศาล อย่างที่เราคิดไม่ออกเลย

หลายครั้งในประวัติศาสตร์ ประเทศจีนเคยเกิดยุคเข็ญ มีคนตายมากมายถึงครึ่งประเทศ

ทำไมยุคเข็ญครั้งใหม่จะเกิดขึ้นไม่ได้

๑๐

แต่ในความตาย ไม่ว่าจะมากเพียงไหน ขอให้เราสังเกต

๑ ทารกคนใหม่ยังเกิดขึ้นมา

๒ ต้นพืชยังเติบโต

๓ การเมืองยังดำเนินต่อไป

๔ สงครามครั้งใหม่ยังก่อตัว

๕ เช้าวันรุ่งขึ้น เราก็ยังต้องใส่กางเกง ทีละข้าง

๑๑ข้อมูลในอดีตไม่มีความสำคัญ เพราะมันเป็นข้อมูล ที่เปลี่ยนได้ คนที่ไม่เคยแพ้ ไม่ได้หมายความว่า วันนี้จะแพ้ไม่ได้

ฉันจำได้ดี วันที่ญี่ปุ่นเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง ฮิตเลอร์ดีใจมาก เขาบอกว่า นี้คือประเทศที่ไม่เคยรบแพ้ใครเลย ในระยะเวลายาวนานหนึ่งพันปี แต่ใครจะคิดว่า ญี่ปุ่นก็จะมาแพ้ในคราวนี้

๑๒ เป็นความจริงที่ว่า ประเทศอังกฤษ

๑ เป็นประเทศที่สงบในทางธรณีวิทยา

๒ มันไม่เคยถูกบุกมาก่อนเลย นับตั้งแต่ปี 1066

๓ ไม่เคยมีสงครามกลางเมืองตั้งแต่ศตวรรษที่สิบเจ็ด

แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะยามที่มันเกิดขึ้น ข้อมูลในอดีตล้วนไม่มีผล

ใครจะเดาได้ ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศอังกฤษ ในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด

๑๓

ที่จริงแล้ว ความตายไม่มีอะไรน่ากลัวเลย เพราะฉันสังเกต มนุษย์เราเมื่อถึงที่ตาย ก็จะมีเพียงแค่สามอาการเท่านั้น

๑ พิศวง

๒ งงงวย

๓ เฉยเมย

เราอาจจะแตกตื่นมาก ในช่วงเวลาใกล้จะตาย แต่พอถึงจุดที่เรียกว่าความตายจริงๆ เราจะมีทางเลือกน้อยลง และน้อยลงเรื่อยๆ

๑๔บางอย่างความคิดดักหน้าได้ แต่บางอย่างก็ทำไม่ได้

ยกตัวอย่างเช่น การคิดว่า มนุษย์จะเดินทางไปข้างหน้า จนถึงวันหนึ่ง พวกเขาจะรู้สึกว่า ทุกสิ่งที่เรียกว่าปัจจุบันในวันนี้ คืออดีต สิ่งที่เราเรียกว่าของใหม่วันนี้ เช่น ไอโฟนสิบ ในวันนั้นคือของโบราณ

ฉันพยายามจะคิด แต่คิดไม่ออก เหมือนกับว่าในคลื่นความคิดเอง มีที่ว่างบางอย่าง ที่ปิดกั้นตัวมันไว้ ฉันคือคนป่วย

สำหรับฉัน ไอโฟนสิบ ก็ยังเป็นของใหม่อยู่ดี

ความคิดจึงทำงานได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางครั้งมันก็แพ้ตัวมันเอง