กาละแมร์ พัชรศรี : ยอดขายทะลุเป้า เอาไงดี

ในช่วงเดือนมกราคมนี้ ฉันได้รับเชิญไปพูดให้กับแผนกเซลส์ของหลายที่มาก

โดยให้เหตุผลว่า ต้องการให้ฉันไปพูดให้กำลังใจ ปลุกไฟในตัวเขา ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิต ทั้งในด้านสุขภาพ การงาน ชีวิต เพื่อให้มียอดขายที่เพิ่มมากขึ้น

อย่าลืมนะว่าฉันเป็นคนที่เคยบอกกับตัวเองว่า “ฉันขายของไม่เป็น”

ฉันบอกกับตัวเองอย่างนี้มาตลอดชีวิต ฉันพูดไม่เก่ง (จริง ฉันบอกกับตัวเองและคนอื่นอย่างนั้น) ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี ฉันเกรงใจเขาจะให้มาขายอะไร ไม่กล้า อาย ไม่ๆๆๆ

ตัดภาพมาตอนนี้ นังนี่เจื้อยแจ้ว สนุกกับการขายของ นั่งตอบไลน์ลูกค้า มีความสุขมากกกกกกกก

และยิ่งในวันที่ฉันต้องไปเจอกับเหล่าแม่ค้าออนไลน์ ฉันสัมผัสได้ถึงพลังในตัวของพวกเขา ความคึกคัก ความกระตือรือร้น แววตาที่มุ่งมั่น ความตั้งใจ และฉันรู้สึกว่าเหมือนเราเจอเพื่อน

พอมาขาย Powerballs by Kalamare ฉันได้สัมผัสถึงความรู้สึกของคนขายของมากขึ้น จากที่เมื่อก่อนยังนึกไม่ออกว่าตัวเองจะขายอะไรดี

พอมาคิดย้อนไปในวัยเด็กที่ชอบเล่นขายของ เอาไข่ในบ้านมาทำขนมครก จุดไฟจริงๆ ทำน้ำตำจากหญ้าบ้าง ดอกอัญชันบ้าง แล้วมาขายเพื่อนแถวบ้าน เราชอบมากเวลามีคนมาต่อแถว สั่งนั่นนี่กันโวยวายไปหมด เพราะนั่นหมายถึงลูกค้าแน่นร้าน

เราเคยเล่นสนุกกับมันมาก่อนนี่นา แล้วเราก็เคยทำมันมาแล้วนี่นา แล้วทำไมเราจะทำไม่ได้

พอเราต่อมันติดกับเรื่องในวัยเด็กที่เราเคยเล่นสนุกกับมัน คราวนี้ก็ถึงเวลา “เล่น” แล้วค่ะ

 

เมื่อเราเล่น เราจะไม่นึกว่าต้องได้กำไรเท่าไหร่ ต้องมีใครมากำหนดเป้าให้เรา ไม่ต้องกลัวใครมาด่าว่าหรือตัดสิน เราสนุกกับมัน เจอปัญหาอะไรเราก็ถือว่ามันท้าทาย แก้กันไป แต่ไม่เครียดหรือปวดหัวจนเกินเหตุ

สิ่งสำคัญที่สุดคือ เรารู้จักของที่เราขายเป็นอย่างดี!

เพราะเราชอบมัน รักมัน หลงใหลมัน กินมันมาตลอดชีวิต รู้เลยว่าแบบไหนอร่อย แบบไหนใส่อะไร และรสชาติไหนที่ถูกใจเรามากที่สุด เหมือนเราและมันรู้จักกันในทุกเหลี่ยมมุม ข้อดีของของเราคืออะไร คนที่กินเขาจะได้อะไร ความดีงาม ประโยชน์โภชผลมันคืออะไร ใส่ของแบบไหนถึงออกมาใช่ที่สุด

รักเหมือนลูก…

ยิ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เราทำเองด้วยแล้ว เราต้องรู้ทุกขั้นตอนของมัน ทุกองค์ประกอบ เราต้องลงไปทุกรายละเอียด และแม้แต่คุยกับลูกค้า เพราะเสียงสะท้อนของเขาคือกระจกเงาของเรา ให้เราได้ไปปรับปรุงผลิตภัณฑ์เราให้ดีขึ้น

แต่ถ้าเราเป็นนักขายเฉยๆ ไม่ได้เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ เราก็ต้องเข้าไปนั่งแทนใจเจ้าของว่าเขาต้องการอะไร

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ของที่คนอย่างฉันจะขาย ก็ต้องได้รับการเลือกสรรแล้วว่าฉันชอบมันจริงๆ ฉันใช้มันจริงๆ ไม่ใช่ขายอะไรก็ได้ สำหรับฉันมันผิดจรรยาบรรณ…

ฉันมีคนที่ดูฉันอยู่ รอฟังเรื่องราว ฉันไม่สามารถที่จะทรยศ หักหลัง หรือโกหกหลอกลวงเพื่อให้ได้เงิน ฉันทำไม่ได้

ฉันจะมาหลอกลวงคนที่เขารักเรา ชอบเราเพียงเพราะฉันได้เงิน ฉันทำไม่ได้จริงๆ

ไม่เช่นนั้นความน่าเชื่อถือที่เรามีมาตลอดการทำงาน 21 ปีมันจะอยู่ถึงวันนี้ได้อย่างไร

 

สิ่งที่ฉันจำใส่หัวไว้ตลอดการทำงานสื่อคือ เราต้องให้เกียรติคนดู เราจะไม่ดูถูกคนดู ฉันคิดเสมอว่า ทุกคนที่ดูอยู่ ติดตามอยู่ เขาเป็นเหมือนญาติของเรา

บางคนดูเราตั้งแต่เรียน แต่งงานมีลูกมีเต้า เขาก็เข้ามาบอกเรา

และแม้ว่าฉันจะไปโผล่ที่ช่องทางไหน เขาก็ยังตามไปดูเรา

สิ่งที่ฉันกำลังจะบอกคือ เราต้องมีความจริงใจให้เขา ไม่โกหก ไม่ตอแหล เพราะถ้าเขาไม่เชื่อ ก็คือไม่เชื่ออีกต่อไป

ดังนั้น สำหรับฉันแล้ว ฉันไม่ได้มีเทคนิคการขายอะไรที่มันซับซ้อน ฉันแค่บอกในสิ่งที่ฉันชอบ ในสิ่งที่ฉันกิน ฉันใช้ และเมื่อมันดี เราชอบมัน เราก็อยากบอกต่อกับคนอื่นเท่านั้น

เรานำเสนอสิ่งดีให้เขาด้วยความปรารถนาดี เขาจะซื้อหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่ดุลพินิจของเขา

แต่ในการใช้ชีวิต หรือทำอะไรก็ตาม เราก็ต้องมีเป้าหมายที่วางไว้ ตราบใดที่เรายังไม่ถึงเป้า เราจะกัดไม่ปล่อย เราจะไม่เหยาะแหยะและล้มเลิกกลางคัน เราจะทำให้สุดลิ่มทิ่มประตู ให้มันรู้กันไปว่าถ้าทำให้สุดแล้วมันจะไปหยุดที่ตรงไหน

เอาจริงๆ นะ ฉันไม่เก่งกว่าใคร ฉันแค่เป็นคน “ใจสู้ มีวินัย และทำจริง” เท่านั้นเอง!

จะรับไปเป็นคำขวัญวันเด็กปีหน้าไหมคะท่านนายกฯ ยกให้ ไม่ขายค่ะ!!??