รายงานพิเศษ / เมื่อ “กองหนุน” U-Turn โดดเดี่ยว “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” มอง คสช. ขาลง-ทางลง “พี่ใหญ่” จับตา “บิ๊กวิชิต-บิ๊กเยิ้ม” ขุนพลปั้นพรรค คสช.

รายงานพิเศษ

เมื่อ “กองหนุน” U-Turn

โดดเดี่ยว “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”

มอง คสช. ขาลง-ทางลง “พี่ใหญ่”

จับตา “บิ๊กวิชิต-บิ๊กเยิ้ม” ขุนพลปั้นพรรค คสช.

หลังเสียงเตือนของป๋าเปรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ว่า กองหนุนของบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใกล้หมดแล้วนั้น ก็พลันทันทีที่ทุกอย่างปรากฏชัดขึ้นๆ ว่า “กองหนุนตู่แทบไม่เหลือแล้ว”

ไม่ใช่แค่กองหนุนบิ๊กตู่ แต่รวมถึงกองหนุนของรัฐบาล และ คสช. ด้วย เพราะอย่าลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์ ก็คือ คสช. และรัฐบาล ในฐานะนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ก็ลดน้อยลง

แบบที่เรียกว่า จากกองหนุนผันไปยืนตรงกลางบ้าง และไปยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามจำนวนไม่น้อย และอีกมากที่กำลังจะย้ายข้าง ผละไปจากบิ๊กตู่ และ คสช.

จนถูกเรียกว่า เป็นรัฐบาล คสช. ขาลง และ “ประยุทธ์ ขาลง” ด้วย หลังนั่งคุมอำนาจเข้าปีที่ 4

โดยเฉพาะหลังการตวาดแกนนำชาวประมง และจับแกนนำต่อต้านโรงไฟฟ้าในช่วงที่ลงพื้นที่ภาคใต้และประชุม ครม.สัญจรที่สงขลา

อย่าลืมว่า พล.อ.เปรม ไม่ได้เป็นอดีตนายกฯ ที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นคนใต้เท่านั้น แต่ยังเป็นประธานองคมนตรีอีกด้วย

สิ่งที่ พล.อ.เปรม พูดออกมา ย่อมต้องมี “ที่มาและที่ไป”

แถมทั้งเป็นช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศตัวเป็น “นักการเมือง” ท่ามกลางกระแสการตั้งพรรคทหาร และพรรคนอมินี เพื่อกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก จึงทำให้นักการเมือง แม้แต่ที่เคยเป็นกองหนุน มองทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช. เป็นศัตรู คู่แข่ง

จึงไม่แปลกที่จะไม่มีใครออกมาช่วยบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม พี่ใหญ่ของ คสช. เลย เมื่อเจอวิกฤตนาฬิกาหรู มาต่อเนื่องตั้งแต่ 4 ธันวาคม 2560

แม้แต่ลุงกำนัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. ที่เคยประกาศตนชัดเจนว่าสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ มาตลอด ก็เงียบ

แม้ว่าจะมีความสัมพันธ์แนบแน่นยาวนานกับ พล.อ.ประวิตร ที่เคยเป็น รมว.กลาโหม ในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมดรีมทีมกับนายสุเทพ ที่เป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ทำหน้าที่ “ดีล” และ “ดูแล” ทหาร และนำกุหลาบแดงไปเชิญ พล.อ.ประวิตร ถึงบ้าน ร.1 รอ.

แต่วันนี้ พี่น้อง 3 ป. ต้องต่อสู้กับกระแสโจมตีเรื่องนาฬิกาอย่างเดียวดาย ช่วยกันเอง ปกป้องกันเอง

จนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเสีย “กองหนุน” เสียคะแนนนิยมไปจากการปกป้องพี่ใหญ่ ไปไม่น้อย

นําไปสู่ความสงสัยกันว่า การที่จู่ๆ พล.อ.เปรม ก็แจ้งยกเลิก ไม่ไปร่วมงานเลี้ยงรับรองวันกองทัพบก เมื่อค่ำ 21 มกราคม ที่ผ่านมานั้น เป็นเพราะป๋าเปรมไม่ค่อยแข็งแรง รับประทานอาหารได้น้อยลง จริงหรือไม่ หรือว่าป๋าไม่อยากมาเจอหน้าใครบางคนบางกลุ่ม หรือไม่

ต้องไม่ลืมคำพูดของ พล.อ.เปรม เมื่อวันปีใหม่ ต่อหน้า พล.อ.ประยุทธ์ และ ครม. ผบ.เหล่าทัพ ว่าจะต้องประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี

ท่ามกลางการจับตามองว่า ในบรรดา “กองหนุน” ที่แทบไม่เหลือนั้น มีสายบ้านสี่เสาเทเวศร์รวมอยู่ด้วยหรือไม่ หรือว่าเปลี่ยนสถานภาพไปแล้ว

“ป๋าเปรมท่านไม่พูดให้ผมเสียหายหรอก แล้วท่านก็สนับสนุนรัฐบาลผมมาตลอด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างมั่นใจในเวลานั้น

แต่ทำยังไงได้ เพราะ พล.อ.ประวิตร นั้นไม่ได้เป็นแค่พี่ชายที่แสนดี เป็นพี่ใหญ่เท่านั้น แต่เป็นผู้มีพระคุณ ที่ดูแลสนับสนุนอุ้มชู พล.อ.ประยุทธ์ มาตลอด

พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีทางเลือกใดๆ เมื่อมีกระแสเรียกร้องให้ใช้มาตรา 44 พักงานพี่ชายของตนเอง นอกจากบอกให้สังคมรอการพิจารณาของ ป.ป.ช. และอย่าไปด่วนตัดสินว่าเป็นการทุจริต

โดยระบุว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว เป็นความบกพร่องส่วนตัว ต้องแยกให้ออกว่าไม่ใช่เรื่องการใช้งบฯ ราชการแผ่นดิน อีกทั้งทาง ป.ป.ช. ก็ไม่ได้เสนอมาให้พักงาน อีกทั้ง พล.อ.ประวิตร ประกาศไว้แล้วว่า ถ้าผิดก็พร้อมที่จะลาออกทันที

ท่ามกลางกระแสข่าวลือเรื่องการลาออก เพื่อไม่ให้สะเทือนถึง พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาล คสช. เพราะ พล.อ.ประวิตร เองก็เครียดไม่น้อย และไม่อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ อึดอัดใจ

แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่ายังไม่มีการลาออกใดๆ การจะลาออกมีกรณีเดียวคือ เมื่อ ป.ป.ช. ชี้มูลว่าผิด

อย่างไรก็ตามได้เกิดกระแสข่าวหนาหูขึ้นว่า พล.อ.ประวิตร หาก ป.ป.ช. ชี้ว่าไม่มีความผิด แต่กระแสสังคมไม่ยอมรับ แม้จะมีการเปิดเผยว่า เสี่ยคราม นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เจ้าสัวคอมลิ้งค์ เพื่อนรักตั้งแต่ ป.1 ร.ร.เซนต์คาเบรียล เป็นเจ้าของนาฬิกาทุกเรือนที่ พล.อ.ประวิตร ใส่ก็ตาม

พล.อ.ประวิตร จะรอจังหวะที่เหมาะสมในการลาออก ในกรณีที่มีตำแหน่งรองรับที่เหมาะสม และสมเกียรติ

เพราะเชื่อกันว่าผลการตรวจของ ป.ป.ช. น่าจะเป็นผลบวกต่อ พล.อ.ประวิตร เพราะลูกสาว 2 คนของนายปัฐวาท ได้ชี้แจงพร้อมนำหลักฐานต่างๆ ที่มีอยู่ และกรุนาฬิกา แจ้งต่อ ป.ป.ช.

แม้นายปัฐวาท เพื่อนรักเพื่อนตายของ พล.อ.ประวิตร จะเสียชีวิตไปตั้งแต่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 แล้ว แต่อย่างน้อยลูกสาวคนหนึ่งของเขา ก็แต่งงานกับนายทหารคนสนิทของ พล.อ.ประวิตร เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ที่ตอนนี้เป็นพันเอกพิเศษแล้ว ที่ก็พร้อมช่วยเหลือ พล.อ.ประวิตร อย่างเต็มที่

อีกทั้งเมื่อมีการเปิดเผยสายสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาของ พล.อ.ประวิตร กับนายปัฐวาท ออกมา ก็ทำให้ผู้คนบางส่วนพอรับฟังได้ เข้าใจมากขึ้น แต่ทว่าคนส่วนใหญ่ยังคงกังขาสงสัยมากมาย

แต่ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร จะอยู่ใน ครม. หรือไม่ หรือต้องลาออก แต่ทว่าภารกิจในการที่จะเป็นกองหนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังต้องดำเนินต่อไป เพื่อดัน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ คนนอก หลังการเลือกตั้งให้สำเร็จ

เพราะตอนนี้ พล.อ.ประวิตร ก็กรุยทางไว้ไม่น้อย ไม่ว่าจะกลุ่มทุน และสร้างพันธมิตรทางการเมือง

รวมทั้งการตั้งพรรคทหาร และพรรคการเมืองที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ได้มีแค่พรรคประชาชนปฏิรูปของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน

แต่ยังจะมีพรรคที่กำลังก่อตัว ที่มีบิ๊กเยิ้ม พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อนรัก ตท.12 ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เชื่อมโยงกับแผนการผลักดันให้ขุดคอคอดกระ หรือคลองไทย ที่มีทุนมหาศาลจากจีนพร้อมสนับสนุน

ไม่แค่นั้น ก็มีนายทหารที่อยู่ในเครือข่ายของบ้านสี่เสาเทเวศร์ และมูลนิธิรัฐบุรุษ เข้ามาช่วยอีกแรงด้วย

ท่ามกลางความเชื่อที่ว่า หลังการเลือกตั้ง ที่แม้จะต้องเลื่อนออกไปในปี 2562 แล้ว พรรคประชาธิปัตย์ก็จะต้องร่วมรัฐบาลฝั่งที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ด้วยนั่นเอง แม้ตอนนี้จะออกมาโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช. อย่างหนักก็ตาม

ไม่แค่นั้น ยังมีพรรคที่กำลังจะก่อตัวขึ้น โดยมี พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ อดีตรอง ผบ.ทบ. อดีตน้องรักของบิ๊กจิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นแกนนำ ร่วมกับอดีต ส.ส.อีสานของพรรคเพื่อไทย

อย่าลืมว่า พล.อ.วิชิต นั้นอยู่กับ พล.อ.ชวลิต มานานหลายสิบปี ก็รู้จักมักคุ้น สนิทสนมนักการเมืองในภาคอีสานไม่น้อย ตั้งแต่สมัยพรรคความหวังใหม่ของบิ๊กจิ๋ว จนมาพรรคเพื่อไทย

จึงมีข่าวการทาบทามตัวอดีต ส.ส.ในอีสานหลายคนมาร่วมอุดมการณ์ ในการสร้างนักการเมืองแบบใหม่ การเมืองแบบใหม่ ประชาธิปไตยไทยนิยม โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ

แต่เป้าหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้น คือเป็นแผนการแบ่งสลายพรรคเพื่อไทย ให้แตกออกเป็นกลุ่มๆ เพื่อไม่ให้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง และจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้

พร้อมๆ กับการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ปิ๊งไอเดีย การปฏิรูปแบบจีน สั่งตั้งทีมงานกว่า 7,800 ชุด ที่เรียกว่า “ทีมขับเคลื่อนแบบบูรณาการ” ลงพื้นที่ไปสำรวจความต้องการประชาชนและช่วยแก้ปัญหาในทุก อบต. ที่ถูกมองว่าเป็นการเตรียมพร้อมรับการเลือกตั้ง

อีกทั้งท่าทีของ พล.อ.วิชิต ตท.9 ที่แม้จะอยู่กับ พล.อ.ชวลิต มาก่อน แต่ในระยะหลังก็มาใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร รุ่นพี่ ตท.6 และ พล.อ.ประยุทธ์ รุ่นน้อง ตท.12 และแสดงออกถึงการสนับสนุนชื่นชม

“ตอนนี้ยังไม่มีอะไร ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ บอกผมคำเดียว ผมจะดำเนินการให้ทันที เพราะมีคนพร้อมสนับสนุนคนดีอย่างท่านอยู่แล้ว” พล.อ.วิชิต ยังคงปฏิเสธ เกี่ยวกับการตั้งพรรค

ไม่แค่นั้น ยังมีสายของบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผช.ผบ.ทบ. ที่ถูกวางตัวเป็น ผบ.ทบ. คนต่อไป ที่ก็ถูกจับตามองว่าเป็นคนช่วยเดินเกมประสานนักการเมืองให้อีกแรงหนึ่งด้วย

ตั้งแต่มีภาพปรากฏร่วมถ่ายภาพกับนักการเมืองตระกูลสะสมทรัพย์ ที่สนามกอล์ฟ กับ พล.อ.ประยุทธ์ และบิ๊กฉัตร พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ เพื่อน ตท.12 ของนายกฯ แม้นายกฯ ยืนยันว่าเป็นการพบโดยบังเอิญ และไม่มีดีลการเมือง

จนทำให้ก่อนหน้านี้ เกิดข่าวลือว่ามี “ดีล” กับพรรคพลังชล ของตระกูล “คุณปลื้ม” หลังจากที่กำนันเป๊าะ นายสมชาย คุณปลื้ม ได้รับการพักโทษ และโยงว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายทหารเสือราชินี ที่เติบโตจาก ร.21 รอ. ชลบุรี พื้นที่ของกำนันเป๊าะ อีกทั้ง พล.อ.อภิรัชต์ ว่าที่ ผบ.ทบ. ก็สนิทสนมกับ นายสนธยา คุณปลื้ม

แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยืนยันว่ากำนันเป๊าะ เข้าหลักเกณฑ์การพักโทษของกระทรวงยุติธรรม ไม่มีดีลอะไรทั้งสิ้น

แต่ก็พลอยทำให้ พล.อ.อภิรัชต์ กลายเป็นตำบลกระสุนตกไปด้วย จากเดิมที่เป็นแค่เป้าหมายของคนเสื้อแดงเท่านั้น แต่ตอนนี้นักการเมือง พรรคการเมือง ที่เคยเป็นกองหนุน คสช. ต่างก็แปรพักตร์กันมาจ้องจับตา พล.อ.อภิรัชต์ อีกด้วย เพราะรู้ในความสำคัญของ พล.อ.อภิรัชต์ ทั้งในฐานะน้องรักนายกฯ มือทำงานลับให้บิ๊กตู่ และเป็นว่าที่ ผบ.ทบ. ในเดือนตุลาคมนี้

ในยาม “ขาลง” เช่นนี้ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีแต่เรื่อง และถูกโจมตี วิพากษ์วิจารณ์ ยิ่งเมื่อต้องยื้อการเลือกตั้งออกไปอีก ก็ยิ่งโดนหนักขึ้นอีก

จึงไม่แปลกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะถึงขั้นสวดมนต์ทุกคืน ให้ คสช. เอาตัวรอดไปให้ได้

ท่ามกลางมวลหมู่ศัตรู ฝ่ายตรงข้ามกันนั้น ไม่เท่าไหร่… แต่มิตรที่กลับไปเป็นศัตรู กองหนุนที่ยูเทิร์น ไปอยู่ฝั่งตรงกันข้ามนี่สิ น่าห่วงกว่า

แถมทั้งทุกวันนี้ การเมืองในยุคเปลี่ยนผ่าน ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน กันมากขึ้นทุกวันๆ