มาดามหลูหลี : Canola – คุณย่านักสู้

มาดามหลูหลี[email protected]

ภาพเกาะเชจูที่เห็นบ่อยๆ คือ ภาพทุ่งดอกไม้สีเหลืองกับภูเขาฮัลลาซาน ทุ่งดอกไม้สีเหลืองสวยกว้างสุดตา คือดอกคาโนลา (Canola) หรือดอกเรป (Rapeseed) หรือดอกยูแซ ในภาษาเกาหลี ใช้ผลิตเป็นน้ำมันคาโนลา เพื่อปรุงอาหาร และดอก ก้าน ใบยังใช้ทำอาหารรับประทานได้

ภาพยนตร์เรื่อง Canola ที่เล่าเรื่องราวของย่ากับหลานสาว ซึ่งอาศัยอยู่บนเกาะเชจู ซึ่งน่าจะมีชีวิตที่ดำเนินไปอย่างปกติสุข แต่เรื่องราวกลับไม่เป็นเช่นนั้น

ยอนยูจองเป็นกเยชุน คุณย่าที่เสียลูกชายไป เหลือหลานสาวฮเยจีตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่คอยพูดจาชวนย่าคุยให้คนแก่ไม่เหงา

ย่ากเยชุนมีอาชีพเป็นนักดำน้ำจับหอยเป๋าฮื้อ หรือที่เรียกว่า “ฮันยอ” เป็นอาชีพเฉพาะของผู้หญิงที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษเป็นพันปี

ขณะที่ย่าทำงาน ฮเยจีจะอยู่ในสายตาเสมอ ถ้าฮเยจีวิ่งเล่นในทุ่งดอกยูแซ ความสูงของต้นยูแซทำให้มองไม่เห็นเด็กหญิงตัวน้อยๆ ย่ากเยชุนก็จะร้องเรียก มีเสียงเล็กๆ ของหลานสาวขานตอบให้ย่าสบายใจ

หากวันหนึ่ง ที่ตลาดสดซึ่งผู้คนจอแจ อยู่ๆ หลานที่เดินตามต้อยๆ ได้หายไปจากสายตาของย่า ย่าวิ่งตามหาหลานตัวน้อยไปทั่วตลาดด้วยหัวใจสลาย เป็นภาพที่ต้องหลั่งน้ำตา…

 

12 ปีผ่านไป มีเจ้าหน้าที่มาแจ้งย่ากเยชุนว่า พบหญิงสาวที่ได้ตรวจดีเอ็นเอดูแล้ว เหมือนฮเยจีหลานสาวย่าที่หายไป

ย่ากเยชุนดีใจมากๆ ย่าเดินกระย่องกระแย่งไปรับหลานด้วยหัวใจพองโต เพราะเวลาที่ผ่านไปนอกจากได้พรากความแข็งแรงของย่าไปแล้ว ช่วงเวลาแห่งความเสียใจและรอคอยอย่างคาดหวัง ได้กัดกร่อนหัวใจของย่าจนเหนื่อยล้า

ฮเยจี (คิมโกอึน) ยืนถ่ายภาพกับย่ากเยชุนอย่างงงๆ ย่าที่อยากจะยิ้มแต่ยิ้มไม่ออก มีแต่น้ำตาของความดีใจบนใบหน้าของย่า

ชีวิตของฮเยจีที่เกือบจะหมดอนาคต เพราะต้องดิ้นรนหาเงินเลี้ยงชีพตัวเองอย่างง่ายๆ และผิดๆ วันๆ ใช้เวลาอยู่กับจอเกมคอมพิวเตอร์กับเพื่อนและมาเฟียชอลฮันที่รับบทโดยรยูจูนยอลที่ท่าทางหน้าตากวนมาก

วัยรุ่นอย่างฮเยจีที่เคยมีชีวิตอิสระ ได้มีชีวิตใหม่ในบ้านที่อบอุ่น มาอยู่กับคนแก่อย่างย่ากเยชุนซึ่งรักเธอมากมาย ย่ายังมองเห็นหลานสาวเป็นเด็กตัวเล็กๆ เหมือนเมื่อ 12 ปีที่แล้ว เวลากินข้าวจะแกะปลาป้อนหลาน เวลาทำงานก็อยากให้หลานอยู่ในสายตาเพราะกลัวหาย เมื่อฮเยจีอาบน้ำในครัว ย่าก็บอกว่าไม่ต้องใส่กลอน ย่าจะได้ทำอาหารไปด้วย

ฮเยจีไม่คุ้นชินกับเรื่องราวเหล่านี้ ไม่รู้ว่าเพราะเธอจำไม่ได้ หรือว่าไม่เคยรู้

 

บ้านของย่าที่เกาะเชจูเป็นบ้านแบบฮันอก (Hanok) บ้านโบราณแบบเกาหลีที่ทรงคุณค่า พร้อมที่ดินอันมีมูลค่า ซึ่งมีนายทุนอยากได้ มีนายหน้ามาติดต่อให้ย่าขายหลายครั้ง แต่ย่าไม่อยากขาย เพราะย่ารอให้หลานสาวกลับมา มันเป็นบ้านแห่งความทรงจำ

หากเมื่อฮเยจีกลับมาแล้ว ย่ากลับต้องการขาย เพื่อเอาเงินไปซื้ออพาร์ตเมนต์ให้หลานอยู่อย่างสุขสบาย กับความสะดวกต่างๆ ที่เอื้ออำนวยสำหรับคนรุ่นใหม่ ย่ามองไปข้างหน้าและทำทุกอย่างเพื่อหลานสาวที่รัก

ฮเยจีเคยคิดจะขโมยเงินเก็บของย่าไปช่วยเพื่อนที่โซล โดยไม่รู้ว่าเงินเก็บนี้ย่าเก็บไว้ให้เธอ

เมื่อฮเยจีเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยม ในชั่วโมงศิลปะ ครูให้เธอวาดภาพอะไรก็ได้ ฮเยจีคิดว่าตัวเองทำไม่ได้จนหมดชั่วโมงเรียน เธอใช้ลิปสติกวาดภาพอย่างใจ กลับได้ภาพที่งดงามจนครูเลือกให้เธอเป็นตัวแทนเข้าประกวด

เธอมีพรสวรรค์ในการวาดมาแต่เด็ก เป็นอีกเรื่องที่ฮเยจีไม่เคยรู้…

 

Canola หรือดอกยูแซที่มีประโยชน์มากมาย เหมือนคุณย่ากเยชุนแห่งเกาะเชจู ย่าผู้แข็งแกร่ง แม้จะสูงวัยยังสามารถดำน้ำงมหอยเป๋าฮื้อ หาเลี้ยงชีพและดูแลหลานสาวด้วยสองมือของตัวเอง

ช่วงเวลาที่ฮเยจีหายไป 12 ปี ย่าต้องอยู่อย่างเหงาเศร้า เดียวดายและอดทนรอคอย โดยไม่รู้ว่าจะได้พบหลานสาวที่รักอีกหรือไม่ การได้พบฮเยจีอีกครั้งเหมือนของขวัญอันล้ำค่า ซึ่งฮเยจีไม่เคยรู้

เรื่องราวที่เกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง เหมือนชีวิตคนเรามักต้องเจอะเจอกับเรื่องเลวร้ายซ้ำๆ ซึ่งควรจะเกิดเรื่องดีๆ ซ้ำๆ บ้าง…

 

Canola ได้ดาราอาวุโสยอนยูจอง รับบทคุณย่ากเยชุน อย่างยอดเยี่ยมมาก เป็นดาราที่ติดตามดูอย่างชื่นชม แสดงได้ดีสุดฝีมือ ไม่ว่าจะเป็นบทอะไร ทั้งคุณนายไฮโซ หรือชาวบ้านยากจน คุณย่าอ่านขาดทุกบท ทำให้คนดูเสียน้ำตาทุกครั้ง

คิมโกอึน ดาราหน้าใสเหมือนวัยรุ่น ที่โด่งดังจาก Goblin และ Cheese in the Trap มาแสดงเป็นฮเยจีหลานสาว เป็นนักแสดงมืออาชีพ คนรุ่นใหม่ที่แสดงได้สมบทบาท ไม่ว่าจะเป็นบทอะไร อย่างไม่กลัวเปลืองตัว เช่นเรื่อง A Muse หรืออีกหลายๆ เรื่อง

และสำหรับ Canola เป็นการรวมยอดฝีมือของผู้หญิงสองคนสองวัยที่น่าชื่นชม ชอบบทสนทนาของหลานสาวกับย่า ว่า

“ย่าขา…ทะเลกับท้องฟ้าอันไหนใหญ่กว่ากันคะ”

“ทะเลสิ…เพราะท้องฟ้าอยู่ในทะเล”

ย่าจึงเป็นทั้งท้องฟ้าและทะเล ที่จะอยู่ในใจฮเยจีตลอดไป