อาชญากรรม : พลิกคดี “เสก โลโซ” จาก “ยิงปืนขึ้นฟ้า” จ่อฟัน “ยาเสพติด” โวย ตร.-ถูกท้าฟ้องกลับ

เป็นเรื่องอื้อฉาวส่อบานปลายไม่เลิก

สำหรับกรณีของร็อกสตาร์ชื่อดัง เสก โลโซ ที่มีจุดเริ่มต้นที่การยิงปืนขึ้นฟ้าในวัด โดยอ้างว่าแก้บนที่ได้ลูกชาย

พร้อมไลฟ์เฟซบุ๊กโชว์จนลือลั่น

ตามมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินคดี

ด้วยการขออนุมัติหมายจับโดยพลัน

แทนที่จะยอมมอบตัว ต่อสู้คดีตามกระบวนการในทันที

นักร้องดังกลับเลือกที่จะหลบหน้าหลบตา แต่ยังคงเคลื่อนไหวในออนไลน์ในลักษณะตอบโต้ดุเดือด

นำมาซึ่งการนำกำลังบุกจับอย่างดุเดือดคาบ้านพัก

แต่ก็ยังไม่จบ เมื่อผลตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง และเมื่อตรวจสอบโดยละเอียดก็พบสารเสพติด

จ่อถูกคดียาอีกข้อหา

ขณะที่เสกเองก็เปิดบ้านแถลงโวยว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ พร้อมขู่ฟ้องกลับ

จนฝั่งตำรวจต้องออกมาท้าว่าถ้าเห็นว่าผิดก็ให้ฟ้องได้ทันที และยืนยันว่าผลตรวจยาเสพติดที่ตรวจนั้น มีมาตรฐานโลก

ให้ไปพิสูจน์ที่ศาล!??

จึงต้องติดตามดูกันต่อไปว่าเรื่องราวจะจบลงที่จุดใด

เสกโวยทำเกินกว่าเหตุ-ปัดเสพยา

หลังจากที่ เสก โลโซ หรือ นายเสกสรร ศุขพิมาย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดอรินทราช นำโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมอาวุธครบมือ บุกเข้าจับกุมคาบ้านพักย่านวัชรพล เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 31 ธันวาคม 2560

ก่อนจะคุมตัวไปสอบสวนที่ บช.น. แล้วแจ้งข้อหาความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน และหลบหนีการจับกุม

สุดท้ายได้ประกันตัวที่ศาลมีนบุรี โดยยื่นหลักทรัพย์ 1.5 แสนบาท ต่อด้วยการอายัดตัวไปส่งศาล จ.นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีในความผิดที่ยิงปืนในวัด ซึ่งเสกก็ได้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 1.5 แสนบาทเช่นกัน

แต่วิบากกรรมก็ยังไม่จบ เมื่อผลการตรวจปัสสาวะออกมามีสีม่วง!!?

เมื่อตรวจโดยละเอียดก็พบสารเมทแอมเฟตามีน ซึ่งอยู่ในกลุ่มยาเสพติดประเภทยาไอซ์ หรือยาบ้า และสารเอ็มดีเอ็มเอที่อยู่กลุ่มประเภทยาอี

จ่อถูกดำเนินคดียาเสพติดต่อ

แต่หลังจากที่เสกตั้งหลักพักผ่อนได้ระยะหนึ่ง ช่วงบ่ายวันที่ 7 มกราคม ก็เปิดบ้านพักย่านวัชรพลที่ถูกตำรวจบุกจับ เพื่อแถลงเคลียร์ทุกประเด็น

โดยกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า วันที่เกิดเรื่องคือวันที่ 28 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันตากสินมหาราช ตนไปยังวัดเขาขุนพนม อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ว่าเป็นวัดที่พระเจ้าตากทรงผนวช เพื่อไปเล่นคอนเสิร์ต

หลังจบคอนเสิร์ต ก็ยิงปืนสลุต เพื่อแก้บนที่ได้ลูกชายตามที่บนไว้นานแล้ว จำนวน 10 นัด เนื่องจากพิจารณาแล้วว่ารอบข้างเป็นภูเขา ไม่มีผู้คน หลังยิงก็แจ้งเจ้าอาวาสให้ทราบ ท่านก็ไม่ได้แปลกใจเพราะมีคนมายิงแก้บนเป็นประจำ

แต่พอมีข่าวออกไปก็ถูกออกหมายจับ จึงพยายามประสานตำรวจ ว่าจะไปมอบตัวหลังเล่นคอนเสิร์ตวันเคาต์ดาวน์ที่พัทยา แต่ตำรวจไม่ยอมจึงเก็บตัวอยู่ที่บ้าน ไม่ออกไปเล่นคอนเสิร์ต เพราะไปก็ถูกจับอยู่ดี

จนกระทั่งมีตำรวจมาที่บ้าน อ้างว่ามีหมายจับ จึงให้ลูกน้องไปบอกว่าจะเข้าบ้านก็ต้องมีหมายค้น ตำรวจหายไปแค่ชั่วโมงเดียวก็กลับมาอ้างว่ามีหมายค้น แต่ตนไม่เชื่อเพราะเวลาแค่ 1 ชั่วโมง แถมยังเป็นวันหยุดสิ้นปี จึงไม่ให้เข้าบ้าน

แต่ก็ถูกปีนบ้านเข้ามาเคาะประตูห้องแล้วทุบประตูบ้านตนพังเสียหาย ล่าสุดช่างบอกค่าซ่อมอยู่ที่ 58,000 บาท

ถือว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ ตนแค่ยิงปืนแก้บน หากมีช่องทางก็จะฟ้องร้องดำเนินคดี เพราะบ้านตนไม่ใช่สวนลุมพินี ใครจะมาเดินเข้าแล้วออกไปง่ายๆ ไม่ได้

เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป

ตร.ท้าฟ้อง-ยันผลฉี่มีมาตรฐาน

นอกจากนี้ ร็อกเกอร์คนดังยังชี้แจงถึงประเด็นฉี่ม่วงว่า ยืนยันว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมานานแล้ว แต่ที่ฉี่ม่วงเพราะตนกินยานอนหลับและยารักษาอาการไบโพลาร์จากโรงพยาบาลวิชัยยุทธ นอกจากนี้ ยังมีเสริมสมรรถภาพทางเพศ

ยิ่งไปกว่านั้นในการค้นบ้านก็ไม่พบยาเสพติดและอุปกรณ์เสพ ทั้งนี้ ข้องใจผลตรวจที่อ้างว่ามีสารเสพติด และพร้อมต่อสู้ในชั้นศาล

หลังการแถลงข่าวของเสกเพียงวันเดียว วันที่ 8 มกราคม พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. ก็แถลงตอบโต้ ระบุว่าการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดนั้น เจ้าหน้าที่ใช้กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาตรวจสอบ

ที่ผ่านมาก็ใช้วิธีการตรวจเดียวกันนี้ในการตรวจสารเสพติดในปัสสาวะมามากกว่า 1 ล้านคน ทุกครั้งก็ได้ผลที่แม่นยำ และทั่วโลกก็ใช้วิธีการเดียวกัน

กรณีที่เสกอ้างว่าไม่ได้เสพยาเสพติด แต่กินยานอนหลับและยารักษาโรคไพโบลาร์นั้น กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ก็สามารถตรวจสอบได้เช่นกัน ว่าปัสสาวะที่เป็นสีม่วงมาจากการใช้สารเสพติด หรือยารักษาโรค

ส่วนที่เสกจะฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่เข้าตรวจค้นบ้านพักนั้นเป็นสิทธิสามารถทำได้ แต่ตนขอชี้แจงว่าการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการเข้าจับกุมเสก เจ้าหน้าที่ก็ทำตามขั้นตอนของกฎหมายทุกขั้นตอน มีเหตุมีผล ที่จะใช้วิธีการเพื่อความปลอดภัย ในการเข้าไปดำเนินการต่างๆ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ท้ายที่สุดไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ตรงนี้เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด

ยืนยันตำรวจทำอย่างตรงไปตรงมา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาทุกขั้นตอน ไม่ได้ทำเพื่อตำรวจเอง แต่ทำเพื่อความปลอดภัยของประชาชน เพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมทั่วถึง หากเสกยิงปืนขึ้นฟ้า แล้วตำรวจไม่ขออนุมัติออกหมายจับ ไม่จับกุม ตำรวจก็จะเป็นจำเลยของสังคมว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีนี้จึงแสดงให้เห็นว่าใครก็ตามที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ตำรวจก็ปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน

ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย

ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ระบุว่า เสกควรหยุดเคลื่อนไหวได้แล้ว เป็นศิลปินก็ควรเป็นแบบอย่างให้เยาวชน ไม่ใช่มาต่อล้อต่อเถียงรายวัน ส่วนเรื่องการโพสต์โซเชียลของเสก ก็ให้พนักงานสอบสวนพิจารณาดูว่าเข้าข่ายมีความผิดหรือไม่อย่างไร ถ้าพบว่ามีความสุ่มเสี่ยงหรือมีความผิดก็ต้องดำเนินการ เรื่องนี้ บก.ปอท. ดูอยู่แล้ว

เป็นคำตอบโต้จากฝั่งตำรวจ

ย้อนนาทีบุกจับนักร้องดัง

สําหรับที่มาของคดีอลเวงนี้เกิดจากเมื่อ กลางดึกวันที่ 29 ธันวาคม หลังจากเล่นคอนเสิร์ตที่วัดเขาขุนพนม ก็พกปืน ไลฟ์สดทางเฟซบุ๊กยิงปืนขึ้นฟ้า 10 นัด

จนกลายเป็นคำถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการอย่างไร เมื่อประกาศเป็นนโยบายให้เข้มงวดกวดขันกับการยิงปืนขึ้นฟ้า

ในที่สุดพนักงานสอบสวน สภ.พรหมคีรี ก็ต้องยื่นขออนุมัติหมายจับ

ล่วงมาวันที่ 31 ธันวาคม ตำรวจ สน.คันนายาว และชุดสืบสวน บช.น. ก็เข้าจับกุมเสกที่บ้านพักย่านวัชรพล

แต่เจ้าตัวไม่ยินยอม ขังตัวเองไว้ในห้องนอน พร้อมประกาศหากใครเข้ามาก็จะยิงทันที

ส่งผลให้ต้องใช้ชุดอรินทราชเข้าปฏิบัติการ โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ มาควบคุมเอง เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบเสกกำปืนขึ้นลำรออยู่

ดีที่เสกยอมวางมือ และให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวแต่โดยดี

ขณะที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปสอบสวน และแจ้งข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เพิ่มจากคดีที่ จ.นครศรีธรรมราช

และเมื่อตรวจสอบปัสสาวะ ก็พบมีสารเมทแอมเฟตามีน ซึ่งอยู่ในกลุ่มยาเสพติดประเภทยาไอซ์ หรือยาบ้า และสารเอ็มดีเอ็มเอที่อยู่ในกลุ่มประเภทยาอีอยู่ด้วย

ไม่จบแค่นี้ เมื่อหลังจากจับกุมดำเนินคดี ดันมีรูปเสกถ่ายรูปร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างสนิทสนม มีทั้ง พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว ที่นำกำลังจับกุม

เป็นเหตุให้ พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 ก็มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.สิงห์ ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.บก.น.2 เนื่องจากผิดวินัย ขัดคำสั่ง ผบ.ตร. ที่ห้ามถ่ายรูปหรือภาพเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมอยู่กับผู้ต้องหา ซึ่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นอกจากนี้ ยังมี พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ ผกก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และ พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย สวป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ที่อยู่ในภาพนั่งกินข้าวร่วมกับเสก ฉลองได้ประกันตัวที่ จ.นครศรีธรรมราช ถูกย้ายมาประจำ พร้อมตั้งกรรมการสอบวินัยด้วย

เป็นเรื่องราวที่มากสีสันจากร็อกสตาร์เมืองไทย