ฆ่าฝัง ‘โกหมาด’ เสี่ยไก่ชน หายตัวปริศนาเกือบ 2 เดือน ตร.แกะรอยจากสวีถึงนครฯ ‘เจ๊อ้วน’ เมียหลวงสั่งตาย

ในที่สุดปริศนาการหายตัวนานเกือบจะ 2 เดือน ของ ‘โกหมาด’ หรือนายขนบ สมหวัง เจ้าของสนามชนไก่ ที่ อ.สวี จ.ชุมพร ก็ถูกคลี่คลายลง

พร้อมกับการจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ทั้งหมด

หลังชะล่าใจว่าตราบใดที่ “ไม่เจอศพ ก็ไม่เป็นคดีฆาตกรรม”

จุดฝังศพโกหมาด

ญาติประกาศตามหา ‘โกหมาด’

ย้อนไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ นายสำราญ สมหวัง อายุ 74 ปี ร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า นายขนบ สมหวัง หรือโกหมาด อายุ 56 ปี เจ้าของสนามชนไก่สเตเดี้ยมสวี น้องชายหายตัวไปจากบ้านอย่างลึกลับพร้อมกับรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กท 3424 ชุมพร ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ

น้องเก๋ ภรรยาคนที่ 2 ของโกหมาด เล่าว่า เวลา 20.00 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ โกหมาดโทร.มาหาบอกว่ากำลังจะออกไปขายไก่ ได้คุยกันประมาณ 20 นาที หลังจากนั้นเธอได้ยินเสียงเหมือนโกหมาดกำลังคุยกับใครด้วยอารมณ์โมโห แล้วสายก็ตัดไป เป็นครั้งสุดท้ายที่ติดต่อกันได้

ขณะที่นางวันเพ็ญ ธัญญาพงศ์พานิช อายุ 62 ปี หรือเจ๊อ้วน เมียหลวง ให้ข้อมูลว่าไม่รู้ว่าสามีออกจากบ้านไปตอนไหน

ญาติไล่ตรวจสอบวงจรปิดตามเส้นทางจนพบภาพรถฟอร์จูนเนอร์ขับอยู่ในพื้นที่ จ.นครพนม จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งวันที่ 4 กุมภาพันธ์ หลังหายไป 3 วัน ตำรวจแกะรอยสืบจนเจอรถฟอร์จูนเนอร์ถูกจอดทิ้งไว้ในป่าในพื้นที่ ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม

นายสมชัย รัตนะ หัวโจกทีมอุ้ม-ฆ่า

ตำรวจควบคุมตัวหญิงสาว 2 คน ชาว อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ที่อ้างว่าซื้อรถยนต์คันนี้จากเพจซื้อขายรถยนต์เถื่อนมาในราคา 3 แสนบาท โดยมีคนขายขับมาส่งถึงบ้าน พอเห็นข่าวรู้ว่ารถคันนี้เป็นของโกหมาด ทำให้เกรงว่าจะมีความผิด เลยนำไปจอดทิ้งไว้ในป่าริมฝั่งแม่น้ำโขง

การไปพบเจอรถครั้งนี้ แม้นจะไม่พบตัวโกหมาด แต่ก็พบตัวละครสำคัญคือ นายชัย ชาวนครศรีธรรมราช เป็นคนขายรถให้ ตำรวจสืบสวนต่อจนระบุได้ว่านายชัยที่ว่าคือนายสมชัย รัตนะ อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับโกหมาด ซ้ำยังมีข้อมูลอีกว่านายชัยหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า เสี่ยชัย เป็นขาใหญ่ใน อ.ทุ่งสง เป็นมือปืนรับจ้างที่มีประวัติโชกโชนในพื้นที่นครศรีธรรมราช

ขณะที่การติดตามหาตัวโกหมาดที่ยังสูญหายเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ภายหลัง พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ รอง ผบช.ภ.8 นำทีมพร้อมด้วย พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ์ เลี่ยมสงวน ผบก.กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธร ภ.8 พ.ต.อ.จิโรจน์ สาธุการ ผกก.สอบสวน ภ.จว.ชุมพร พร้อมชุดสืบสวนและตำรวจกองปราบ แกะรอยสัญญาณมือถือของโกหมาดอย่างต่อเนื่อง พบว่าช่วงแรกที่หายตัวไปสัญญาณมือถือไปโผล่ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีและ จ.นครศรีธรรมราช ก่อนจะเดินทางต่อไปยังภาคกลางและโยงไปถึงริมแม่น้ำโขง ที่พบรถยนต์ที่ จ.นครพนม

นายขนบ สมหวัง หรือ โกหมาด

โดยพบสัญญาณมือถือเข้าไปยังพื้นที่ ต.วังหิน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช จึงลงพื้นที่ตรวจสอบหาข่าว ซึ่งในชั้นนี้เจ้าหน้าที่มั่นใจแล้วว่าโกหมาดน่าจะถูกอุ้มฆ่าไปแล้วแน่นอน

24 มีนาคม ชุดสืบสวนพบจุดต้องสงสัยในสวนปาล์มน้ำมัน หมู่ 9 ต.เขาโร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ห่างจากถนนหลักประมาณ 600 เมตร มีร่องรอยการเผาสิ่งของเป็นกองขี้เถ้าขนาดใหญ่ ซึ่งมีชิ้นส่วนรถยนต์ที่เป็นพลาสติกและใยสังเคราะห์ที่ถูกเผาทำลาย

และภายในสระน้ำใกล้จุดต้องสงสัยพบกองขี้เถ้าขนาดความกว้างกว่า 10 เมตร พบซากรถเก๋งถูกชำแหละเป็นชิ้นส่วนจมอยู่ในสระน้ำ จึงสูบน้ำออกจนพบหลักฐานชิ้นส่วนรถเก๋งฮอนด้าซีวิค ทะเบียน กก-3192 สิงห์บุรี ไม่ชัดเจนว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอมหรือไม่

มีข้อมูลจากชาวบ้านว่าช่วงกลางคืนของวันที่ 1 หรือวันที่ 2 กุมภาพันธ์ มีรถยนต์ขับเข้ามาในพื้นที่และเข้าไปขุดดินบริเวณสวนของชาวบ้าน ชาวบ้านจึงจะเข้าไปสอบถามแต่ปรากฏว่าบุคคลที่มากับรถดังกล่าวยิงปืนขู่ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าเข้าไป ก่อนจะล่าถอยออกจากบริเวณดังกล่าว ตำรวจเชื่อว่าเมื่อมีคนพบเห็นกลุ่มคนร้ายจึงเคลื่อนย้ายศพไปจุดอื่น

หลังเจอรถเก๋งถูกเผาทิ้งอำพราง เพียง 2 วัน วันที่ 26 มีนาคม ตำรวจพบหลุมปริศนาขนาดใหญ่ บริเวณหลังโรงเรียนแห่งหนึ่ง หมู่ 11 ต.บางขัน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช พอขุดลงไปปรากฏว่าเจอศพถูกฝัง สภาพศพยังมีเชือกมัดเท้า มัดมือไพล่หลัง มีเทปกาวพันบริเวณใบหน้า สวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงินขาสามส่วน ช่วงกลางลำตัวเปื่อยยุ่ย สันนิษฐานว่าน่าจะถูกน้ำกรดเข้มข้นราดก่อนนำมาฝัง คาดว่าจะเป็นโกหมาด จึงรีบส่งตรวจสอบดีเอ็นเอเพื่อยืนยันตัวบุคคล

 

‘เจ๊อ้วน’ เปิดปากสั่งฆ่า

การหายตัวไปของโกหมาดในครั้งนี้ทั้งญาติพี่น้องและตำรวจต่างพุ่งเป้าไปที่นางวันเพ็ญ ธัญญาพงศ์พานิช หรือเจ๊อ้วน เมียหลวง

ซึ่งก็ไม่ผิดไปจากที่คาดเพราะพลันที่ทราบว่าตำรวจพบศพโกหมาด เจ้าตัวก็ออกมายอมรับว่าเธอเคยว่าจ้างให้นายชัย เพื่อนสนิทของโกหมาด ฆ่าสามีตัวเอง เป็นเงิน 150,000 บาท เพราะทนไม่ได้กับพฤติกรรม 3 คนผัวเมีย ที่ผ่านมาโกหมาดข่มขู่เอาเงินไปเปย์เมียน้อยจนหมด พอไม่ให้ก็โกรธเคยขู่ฆ่าเธอกับลูกสาว

แต่เธอได้สั่งให้นายชัยยกเลิกภารกิจนี้แล้ว เมื่อเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา ไม่คิดว่านายชัยจะลงมือฆ่าจริงๆ เธอเตรียมเข้าคุกแล้ว ไม่ต้องกลัว ไม่หนีไปไหนแน่

พอเจอเจ๊อ้วนซัดทอดไปเต็มๆ นายชัย หรือนายสมชัย รัตนะ อายุ 62 ปี ก็เข้าพบกับตำรวจรับสารภาพว่าตนเองไม่ได้ฆ่าโกหมาด แต่คืนวันเกิดเหตุเจ๊อ้วนโทร.เรียกตนไปหาที่บ้าน และพบว่าโกหมาดถูกลูกน้องเจ๊อ้วนมัดรอไว้แล้ว และให้พรรคพวกตนอุ้มพาใส่รถนำไปฝังดินที่ จ.นครศรีธรรมราช เจ๊อ้วนเป็นผู้บงการและฆ่าโกหมาดเองทุกอย่าง ตนแค่ไปรับศพไปอำพรางเท่านั้น

29 มีนาคม พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ์ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 พร้อมตำรวจกองปราบฯ นำกำลังเข้าตรวจค้นเก็บหลักฐานที่บ้านเจ๊อ้วนใน อ.สวี พร้อมคุมตัวเจ๊อ้วนมาสอบปากคำ แต่ยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหา

ซากรถเก๋งที่ถูกทำลายหลักฐาน

ขณะที่ พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ รอง ผบช.ภ.8 เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจสามารถเก็บพยานหลักฐานได้มาก ไม่ว่ารถยนต์ที่นำไปชำแหละทิ้งในสระน้ำ ศพที่พบในป่าใกล้บ้านของผู้ต้องสงสัย และการตรวจค้นในบ้านของนางวันเพ็ญ ภรรยานายขนบ ก็ได้หลักฐานเพิ่มขึ้นและเพียงพอ ขอเวลารอผลชี้ชัดจากนิติเวชว่าศพที่พบนั้นคือนายขนบ สมหวัง อย่างเดียว ทางตำรวจก็จะขอหมายจับคนร้ายกลุ่มนี้ได้ทันที

31 มีนาคม ศาลจังหวัดหลังสวน ชุมพร ออกหมายจับ 5 ผู้ต้องหาร่วมกันอุ้มฆ่าโกหมาด หลังมีหลักฐานเป็นผลตรวจดีเอ็นเอจากศพยืนยันชัดเจน ประกอบด้วย เจ๊อ้วน หรือนางวันเพ็ญ ธัญญาพงศ์พานิช ผู้จ้างวาน, นายสมชัย รัตนะ ซึ่งเป็นมือปืนที่อุ้มฆ่า, นายสุทีป สังขโชติ, นายพฤหัส เอียดตน และนายวีรภัทร ฤทธิชัย

วันเดียวกัน พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.จักรา เสาวคนธ์ ผกก.สภ.นาสัก ร่วมสั่งการให้ พ.ต.ท.นพรุจ สุกรี รอง ผกก.สส.สภ.นาสัก พ.ต.ท.พรเทพ สถาพรนุวงศ์ สว.สส.สภ.นาสัก พร้อมกำลังชุดสืบสวน สภ.นาสัก นำหมายจับเข้าควบคุมตัวนางวันเพ็ญ หรือเจ๊อ้วน ที่บ้านพัก ขณะที่ผู้ต้องหารายอื่นๆ ก็ทยอยติดตามจับกุมตัว

ตร.84ภ.8ปูพรมค้านหาหลักฐาน ที่นครศรีฯ

หลังถูกจับกุม ทั้งเจ๊อ้วน และนายสมชัย ก็ยังให้การซัดทอดกันไปมาว่าอีกฝ่ายเป็นคนฆ่าโกหมาด

วันรุ่งขึ้นตำรวจคุมตัวเจ๊อ้วนส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดหลังสวน พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยเจ๊อ้วนเผยว่า ตอนนี้สบายใจขึ้นแล้ว หลังจากนี้คงจะได้มีเพื่อนในคุกคงจะไม่ต้องกินยาซึมเศร้า และเมื่อสอบถามเรื่องการประกันตัว เจ๊อ้วนตอบกับนักข่าวว่า ตนเตรียมหลักทรัพย์เพื่อประกันตัวแล้วแต่ขอไม่ประกันตัวดีกว่า ไม่ยื่นประกันเพราะจะได้มีเพื่อนหลังจากโดนทิ้งให้อยู่คนเดียวมาหลายปี อยู่ในคุกน่าจะดีกว่า

ก่อนที่ขอฝากถึงตระกูลสมหวังทุกคน ที่เรื่องมันเป็นแบบนี้เพราะกลัวลูกของตัวเองจะตาย ทำไปโดยฟิวส์ขาดจริงๆ และก็ขอโทษจริงๆ กับทุกคน ถึงรู้ว่าการขอโทษจะไม่ได้ทำให้ฟื้นขึ้นมา ไม่มีอะไรจะทำได้ดีไปกว่านี้ โดยตนเองจะรวบรวมเงินที่เหลือมาช่วยในงานและขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน อีกทั้งเจ๊อ้วนยังยืนยันปฏิเสธเรื่องที่นายชัยซัดทอดนั้นไม่จริงอย่างที่พูด

ชนวนสั่งตายโกหมาด น่าเชื่อว่ามาจากปัญหาครอบครัว เป็นบทเรียนให้รู้ว่า หากหันหน้าเข้าพูดคุยปรึกษา แทนการใช้ความรุนแรงต่อกัน เรื่องราวคงไม่บานปลายเช่นนี้