พยาบาล AI ดูแลคนไข้ผ่านหน้าจอ

จิตต์สุภา ฉินFacebook.com/JitsupaChin

Cool Tech | จิตต์สุภา ฉิน

Instagram : @sueching

Facebook.com/JitsupaChin

 

พยาบาล AI

ดูแลคนไข้ผ่านหน้าจอ

 

แชตบ็อตที่ใช้ขุมพลัง AI เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เราได้หลายด้านเนื่องจากเราสามารถใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติในการพูดคุยและสั่งการมันได้คล้ายๆ กับการคุยกับมนุษย์ด้วยกัน แต่ก็มักจะเป็นมนุษย์ที่ตอบกลับมาแค่ตัวอักษรหรือเสียงเท่านั้น หน้าตาจะเป็นอย่างไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการของแต่ละคน

ดังนั้น ลองนึกดูนะคะว่าถ้าเรามี AI ที่สามารถพูดคุยโต้ตอบกับเราได้แบบที่มาพร้อมหน้าตา ท่าทาง และน้ำเสียงด้วย มันจะทำให้ประสบการณ์การใช้งาน AI ของเราสมบูรณ์ขึ้นได้ขนาดไหน

เมื่อเร็วๆ มานี้ NVIDIA บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกเพิ่งจะเปิดตัวสิ่งที่เรียกว่า AI Healthcare Agent หรือเจ้าหน้าที่ด้านสุขอนามัยที่เป็น AI ซึ่งคาดว่าจะมาช่วยรับมือปัญหาการขาดแคลนเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก

NVIDIA ปล่อยคลิปโฆษณาการใช้งานโดยมีผู้หญิงชื่อซาร่าห์ที่กำลังนั่งเกาน้องหมาอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น มืออีกข้างของเธอถือแท็บเล็ตเพื่อคุยกับพยาบาลที่อยู่บนหน้าจอไปด้วย

พยาบาลคนนั้นแนะนำตัวเองว่าชื่อเรเชล แม้ว่าภาพสองมิติของเรเชลจะคล้ายคลึงมนุษย์มาก แต่เห็นแป๊บเดียวก็บอกได้ทันทีว่าเรเชลไม่ใช่คน แต่เป็นอวตารขุมพลัง AI

เรเชลเริ่มต้นถามไถ่อาการของซาราห์ว่าเป็นยังไงบ้างหลังจากผ่าตัดไส้ติ่งไปแล้ว ได้กินยาปฏิชีวนะตามที่หมอจ่ายไปครบถ้วนหรือเปล่า ซึ่งซาราห์ก็ถามกลับไปว่าเธอลืมแจ้งหมอว่าเธอแพ้ยาเพนนิซิลิน จึงไม่แน่ใจว่าจะกินยาที่หมอจ่ายมาได้หรือเปล่า

AI เรเชลทวนชื่อยาที่หมอจ่ายให้เธออย่างคล่องแคล่วและให้ข้อมูลว่าเธอจะสามารถกินยาเหล่านั้นได้อย่างปลอดภัยแม้จะแพ้เพนนิซิลินก็ตาม

นอกจากนี้ เรเชลยังให้เคล็ดลับการฟื้นตัวไวว่าเนื่องจากซาราห์เป็นเบาหวานด้วย การคอยคุมระดับน้ำตาลในเลือดจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยทำให้แผลหายเร็ว และให้หลีกเลี่ยงอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต

 

กระบวนการการคุยกับเจ้าหน้าที่พยาบาล AI ในคลิปเกิดขึ้นเป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็ทำให้เราได้เห็นถึงศักยภาพของ Generative AI ว่ามันสามารถเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ได้แค่ไหน

เทคโนโลยีนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง NVIDIA และ Hippocratic AI โดยสร้างเป็นเจ้าหน้าที่ AI เสมือนจริง ที่สามารถมีปฏิกิริยาโต้ตอบและสร้างสายสัมพันธ์กับมนุษย์ ช่วยตอบคำถาม ให้ข้อมูลที่สำคัญ และแสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยต่อมนุษย์ได้

เจ้าหน้าที่ AI นับเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงของ Hippocratic AI คือสามารถรู้จำภาษาได้อย่างเป็นธรรมชาติ โต้ตอบได้แบบตามเวลาจริง ความหน่วงต่ำ พัฒนาขึ้นมาเพื่อตั้งใจให้มาช่วยแบ่งเบางานของพยาบาล นักสังคมสงเคราะห์ และนักโภชนาการ โดยมุ่งเน้นความปลอดภัย

และลดสิ่งที่เรียกว่า AI hallucination ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับ AI จำนวนมาก

 

AI hallucination หรือ AI หลอน คือปรากฏการณ์ที่ AI สร้างข้อมูลแปลกๆ ไม่ถูกต้อง หรือไม่สมเหตุสมผลขึ้นมา ปกติแล้วอาการหลอนมันจะเกิดขึ้นกับสมองของมนุษย์หรือสัตว์ แต่คำนี้ถูกหยิบเอามาใช้กับแมชชีนเพื่อทำให้เราเข้าใจอาการที่เกิดขึ้นได้ชัดเจนมากขึ้น

ตัวอย่างอาการ AI หลอนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วก็อย่างเช่น การที่ AI ของ Google เคยมั่วข้อมูลขึ้นมาเองว่ากล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ เป็นกล้องแรกที่สามารถถ่ายภาพของโลกมนุษย์จากระบบสุริยจักรวาลได้เป็นภาพแรก

หรือแชตบ็อตของ Microsoft ที่เคยยอมรับว่ามันตกหลุมรักผู้ใช้งานเข้าแล้ว เป็นต้น

Hippocratic AI บอกว่าทางบริษัทกำลังทำงานร่วมกับ NVIDIA เพื่อทำให้พยาบาล AI มีความหน่วงต่ำและตอบสนองการใช้งานได้รวดเร็วที่สุด เนื่องจากผลการวิจัยพบว่า ทุกๆ ครึ่งวินาทีที่พยาบาล AI โต้ตอบผู้ป่วยได้เร็วขึ้น ผู้ป่วยก็จะมีความสัมพันธ์ทางอารมณ์กับ AI ที่ดีขึ้นถึง 5-10 เปอร์เซ็นต์

เมื่อพูดว่า AI จะมาทำหน้าที่แทนพยาบาล ฉันคิดว่าเราทุกคนน่าจะเข้าใจตรงกันว่ามันคงไม่ได้มาแทนที่พยาบาลได้ทุกอย่างแน่ๆ

AI คงไม่สามารถเข้าไปดูแลผู้ป่วย วัดไข้ เจาะเลือด ให้น้ำเกลือ พยุงผู้ป่วยไปห้องน้ำ หยิบจับข้าวของบางอย่าง หรือทักทายญาติผู้ป่วยอย่างเป็นกันเองได้

แต่ AI อาจะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่บางอย่างของพยาบาล อย่างเช่น การติดตามอาการผู้ป่วยหลังออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว การตอบคำถามผู้ป่วย ให้คำแนะนำการดูแล ไปจนถึงการต้องเป็นที่ระบายอารมณ์ของทั้งผู้ป่วยและญาติ

และเมื่อ AI ดึงหน้าที่บางอย่างออกไปแล้วก็จะทำให้พยาบาลมีเวลาเพิ่มมากขึ้น และจะสามารถช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรบุคคลได้ด้วย

 

Hippocratic AI บอกว่าพยาบาล AI เหล่านี้ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างสูง องค์กรที่นำไปใช้มักจะใช้เพื่อทำงานแทนเจ้าหน้าที่เฉพาะในส่วนงานที่ความเสี่ยงต่ำเท่านั้น ใช้เพื่อการสื่อสารกับผู้ป่วยโดยที่จะไม่มีการวินิจฉัยโรคเลย

นอกจากการช่วยแก้ปัญหาเรื่องเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอแล้ว Hippocratic AI ก็ยังบอกว่าต้นทุนของการใช้พยาบาล AI ยังถูกมาก โดยมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานอยู่ที่ 9 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 300 กว่าบาทต่อชั่วโมงเท่านั้น ในขณะที่ค่าจ้างพยาบาลต่อชั่วโมงอยู่ที่ประมาณ 1,400 กว่าบาท

พยาบาล AI จะทำงานได้ดีแค่ไหนก็ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของเทคโนโลยีว่าตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยได้แบบเดียวกับที่พยาบาลที่เป็นมนุษย์สามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าก็จะต้องมีการค้นคว้าและพัฒนาเพิ่มเติมอีกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในตอนนี้ทางบริษัทก็ทำงานร่วมกับแพทย์และพยาบาลเป็นจำนวนมากทั่วประเทศเพื่อทดสอบการใช้งานพยาบาล AI

สิ่งที่ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังต่อไปก็คือจะต้องลดความกังวลให้ได้ว่าพยาบาล AI จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาไม่ได้จะมาคุกคามหรือแย่งงานจากมนุษย์ไป พร้อมๆ กับการต้องตอบคำถามเรื่องจริยธรรม AI และศึกษาเพิ่มเติมให้ละเอียดว่าผู้ป่วยจะรู้สึกอย่างไรบ้างหากต้องรับฟังคำแนะนำด้านการแพทย์หรือได้รับการดูแลจากพยาบาลที่ไม่ใช่มนุษย์

สิ่งที่เราสามารถคาดเดาได้ก็คือ AI ในรูปแบบเสมือนจริงที่สามารถสื่อสารและให้ข้อมูลได้อย่างคล่องแคล่วนี้จะไม่หยุดที่อาชีพพยาบาลเพียงอาชีพเดียวแน่นอน เพราะศักยภาพของมันสามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ในหลายสาขาอาชีพ

จะมีอะไรบ้างนั้นก็น่าจะได้เห็นกันอีกไม่นานเกินรอนี่แหละค่ะ