ยุทธการ 22 สิงหา เปิด ปฏิบัติการ ไทยคู่ฟ้า 26 สิงหาคม ยึดทำเนียบ

สาระนิยาย Psy ฟุ้ง

 

ยุทธการ 22 สิงหา

เปิด ปฏิบัติการ ไทยคู่ฟ้า

26 สิงหาคม ยึดทำเนียบ

 

นับแต่เดินทางออกนอกประเทศเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เป็นต้นมา สถานการณ์ของรัฐบาล สถานการณ์ของพรรคพลังประชาชน ก็อยู่ในสถานะ “รับ” ในทางการเมือง

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย “รุก”

ไม่เพียงแต่รุกโดยตรงโดยการเคลื่อนกำลังจากสะพานมัฆวานรังสรรค์เข้าไปล้อมอยู่โดยรอบทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น

หาก ป.ป.ช.ยังพุ่งปลายหอกเข้าใส่ นายสมัคร สุนทรเวช

นั่นก็เห็นได้จากมติจัดตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน นายเผชิญ ขำโพธิ์ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ NBT ฐานละเว้นและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากกรณีมีผู้ร้องเรียนรายการ “ความจริงวันนี้”

โดยกล่าวหาว่า มีเนื้อหาใส่ร้ายบุคคลอื่นและไม่เปิดโอกาสให้บุคคลนั้นได้ชี้แจงข้อเท็จจริง อันเป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวและสิทธิความเป็นมนุษย์

“ความจริงวันนี้” มี นายวีระ มุสิกพงศ์ ดำเนินรายการ

มี นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้รับเชิญเข้าร่วมในฐานะเป็นแขกเจ้าประจำของรายการ

นายสมัคร สุนทรเวช กล่าวผ่าน “สนทนาประสาสมัคร” ว่า

“ความจริงวันนี้” พูดจาดีมาก พูดดีมีเหตุผล เรียบร้อย ไม่ดูถูกดูหมิ่นใครและกล้าเชิญให้มาชี้แจง แต่ก็ไม่มีใครมาชี้แจง แต่ถ้าเอาเถอะ ป.ป.ช.จะอ้างอย่างนี้ก็เอารายการอย่างนี้เรียกว่า “ทำดีอัปรีย์กินหัว”

ไม่ว่า “สนทนาประสาสมัคร” ไม่ว่า “ความจริงวันนี้” ล้วนเป็นรายการของสถานีโทรทัศน์ NBT

 

ในวันที่ 14 สิงหาคม 2551 พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลง

กองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ประกาศสืบจับฉบับที่ 353/2551

สืบจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พร้อมติดรูปถ่ายและข้อมูลส่วนตัว

ซึ่งจะนำประกาศสืบจับแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศเพื่อสืบจับกุม

ทั้งนี้ เป็นการออกประกาศสืบจับเนื่องจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ออกหมายจับบุคคลทั้งสองที่ไม่ไปรายงานตัวต่อศาลในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก

อีก 2 วันต่อมามีการประชุมพรรคพลังประชาชน กลุ่ม ส.ส.ไม่พอใจในการออกประกาศสืบจับอันเป็นข่าวครึกโครม ได้เคลื่อนไหวล่ารายชื่อประมาณ 200 คนเพื่อให้ นายสมัคร สุนทรเวช ชี้แจงในที่ประชุมพรรค

การประชุมพรรคพลังประชาชนในวันที่ 19 สิงหาคม นายสมัคร สุนทรเวช ใช้เวลาชี้แจง 15 นาที ความเคลื่อนไหวต่างๆ ก็หยุดลง

เป็นการหยุดเฉพาะ “ภายใน” แต่ “ภายนอก” กลับเป็นเชื้ออย่างดีทางการเมือง

 

สปอตไลต์ไม่ว่าจาก “ภายใน” ประเทศ ไม่ว่าจาก “ภายนอก” ประเทศย่อมฉายจับไปยังบทบาทและการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

เพราะสัมผัสได้ในการรุกอย่างต่อเนื่อง

เริ่มจากเปิดแผน “ดาวกระจาย” ไปตามกระทรวง ทบวง กรมและจุดสำคัญหลายจุดเพื่อเป็นการกดดัน

แต่เป้าหมายอย่างแท้จริงย่อมเป็น “ทำเนียบรัฐบาล”

ในเบื้องต้นอาจย้ายจากฐานที่มั่นเดิม คือ สะพานมัฆวานรังสรรค์ หน้าสหประชาชาติ เข้ามาปิดล้อมอยู่โดยรอบทำเนียบรัฐบาล

อาจยังไม่ประสบความสำเร็จ ต้องถอยกลับสะพานมัฆวานรังสรรค์

จากเดือนกรกฎาคมก้าวเข้ามายังเดือนสิงหาคม 2551 ยิ่งเพิ่มความมุ่งมั่นขึ้นเป็นทวิทวีคุณ โดยเฉพาะนับแต่วันที่ 26 สิงหาคม

รับรู้กันเป็นอย่างดีในความสำคัญของวันที่ 26 สิงหาคม

หากมองจากต่างประเทศ นั่นก็ย่อมสัมพันธ์กับ “ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” หากมองจากความรับรู้ของพันธมิตรประชาธิปไตยเพื่อประชาชน ก็สัมพันธ์อยู่กับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อย่างแนบแน่น

เป็นความสัมพันธ์ตั้งแต่ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 เป็นความสัมพันธ์ตั้งแต่ประกาศจัดตั้งขึ้นเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างเป็นรูปขององค์กรทางการเมือง

วันที่ 26 สิงหาคม 2551 จึงทรงความหมายในเชิงความคิด ทรงความหมายในเชิงจิตวิญญาณ

จึงต้องศึกษา “กระบวนท่า” ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

 

วันที่ 26 สิงหาคม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยใช้แผน “ปฏิบัติการไทยคู่ฟ้า” เข้ายึดหน่วยราชการ 6 แห่ง

1 ทำเนียบรัฐบาล

1 สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 NBT 1 กระทรวงคมนาคม 1 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

1 กระทรวงการคลัง 1 กรมประชาสัมพันธ์

เริ่มต้นจากบุก NBT ตามมาด้วยบุกกระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กรมประชาสัมพันธ์

ก่อนที่จะมารวมตัวและยึดทำเนียบรัฐบาล

ที่สถานีโทรทัศน์ NBT เป็นการบุกในช่วงเช้ามืด เข้าทุบกระจก ทำลายทรัพย์สิน และพยายามเชื่อมสัญญาณระหว่าง ASTV เข้าไปยังแม่ข่ายของ NBT

แต่ไม่สามารถเชื่อมสัญญาณได้

เพราะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมรวมทั้งสิ้น 85 คน พบอาวุธหลายรายการจึงได้นำไปควบคุมตัว

ขณะเดียวกัน เครือข่ายพันธมิตรฯ ในส่วนภูมิภาคก็เปิดยุทธการดาวกระจาย

ปิดถนนสายสำคัญ 3 สาย อันเป็นประตูไปสู่ภาคเหนือ ภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์ พิษณุโลก ได้แก่ จุดตัดทางหลวงหมายเลข 115 พิจิตร กำแพงเพชร บริเวณสี่แยกปลวกสูง ต.บ้านนา อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร

ได้แก่ บริเวณถนนมิตรภาพขาขื้น หลักกิโลเมตรที่ 195-196 ริมเขื่อนลำตะคอง ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

ได้แก่ ถนนเพชรเกษมช่วงกิโลเมตรที่ 492-493 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร

 

หากพิจารณาจากแต่ละเป้าหมายในการบุกเข้ายึด หากพิจารณาจากแต่ละเส้นทางที่ส่งคนเข้าไปปิดกั้น

นี่มิได้เป็นกลยุทธ์ “การเมือง” อย่างโดดๆ หากเป็นกลยุทธ์ “การทหาร”

อย่าได้แปลกใจหากภายในพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมิได้มีแต่เพียงนักเคลื่อนไหวที่เป็นพลเรือน หากแต่ยังมีทหารอย่าง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อันมีสายสัมพันธ์แนบแน่นอยู่กับ จปร.7 และบ้านสี่เสาเทเวศร์

หากมองไปยังกรมประชาสัมพันธ์ หากมองไปยังสถานีโทรทัศน์ NBT อาจเป็นยุทธภูมิเก่าทุกครั้งที่มีการยึดอำนาจ

เพราะนี่คือกระบอกเสียง เพราะนี่คือช่องทางการโฆษณา

ขณะเดียวกัน หากมองผ่านการยึดกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

อาจเห็นสายสัมพันธ์แต่ละเส้นทางแห่งการเคลื่อนไหว

กระนั้น เป้าหมายอันเป็น “หัวใจ” อย่างจริงแท้แน่นอน คือการบุกเข้ายึดทำเนียบรัฐบาลให้ได้ภายในวันที่ 26 สิงหาคม

ผลก็คือรัฐบาลไม่สามารถอยู่ใน “ทำเนียบรัฐบาล”

 

ผลก็คือ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต้องย้ายการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกจากตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ไปยังกองบัญชาการกองทัพไทย แจ้งวัฒนะ

นับแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2551 เป็นต้นมา นายสมัคร สุนทรเวช ก็ไม่สามารถกลับเข้าไปทำงานในทำเนียบรัฐบาลได้เลยจนกระทั่งพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเดือนกันยายน 2551

นี่คือการรุกโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นี่คือการถอยของรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช

นี่คือการถอยของพรรคพลังประชาชน การถอยของ นายทักษิณ ชินวัตร