เจ๊ศรี-ทักษิณ

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

ตอนที่เห็นข่าวคุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับไปเยี่ยมบ้านที่เชียงใหม่

และมีโปรแกรมไปตลาดวโรรส

ผมรู้เลยว่าคนหนึ่งที่เขาต้องไปแวะหา คือ “เจ๊ศรี” หรือ “เจ๊อรุณศรี” เอเย่นต์หนังสือพิมพ์ที่มีแผงอยู่ในตลาดวโรรส

เพราะทั้งคู่ผูกพันกันมายาวนาน

ผมรู้จัก “เจ๊ศรี” เอเย่นต์หนังสือพิมพ์รายใหญ่ของเชียงใหม่มาประมาณ 20 กว่าปี

เจอกันครั้งแรกตอน “มติชน” เลี้ยงเอเย่นต์ภาคเหนือ

จากนั้น ก็ได้พบกันเรื่อยๆ ตอนที่ผมเป็นผู้จัดการสำนักพิมพ์มติชน

ไปจัดงาน “แฮปปี้บุ๊กเดย์” ที่เชียงใหม่เมื่อไรก็จะไปเยี่ยมเยียน “เจ๊ศรี” ทุกครั้ง

“เจ๊ศรี” กับ “เฮียชิน” สามี เป็นแฟนคอลัมน์ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ

ผมเคยนำเรื่อง “เจ๊ศรี-เฮียชิน” มาเขียนลงคอลัมน์ครั้งหนึ่ง ถึงความอินดี้และโรแมนติกของคู่นี้

ทั้งคู่เป็นเอเย่นต์หนังสือพิมพ์มายาวนานตั้งแต่ยุคสิ่งพิมพ์เฟื่องฟู ฐานะดีแค่ไหนก็ยังใช้ชีวิตแบบสมถะมาก

สมัยก่อนใช้รถไดฮัทสุรุ่นเก่า ตอนนี้เปลี่ยนเป็นรถเวสป้า

ไม่ยอมใช้รถเก๋ง

“อินดี้” มาก

“เฮียชิน” เป็นคนรักเสียงเพลง ทุกคืนจะต้องเล่นอิเล็กโทนให้ “เจ๊ศรี” ฟังทุกคืนก่อนนอน

ตั้งแต่แต่งงานกันจนถึงวันนี้

ตอนนี้ “เจ๊ศรี” อายุ 83 ปีแล้วครับ

“โรแมนติก” มาก

ผมไม่ได้เจอ “เจ๊ศรี” มาหลายปีแล้ว แต่ยังโทรศัพท์คุยกันอยู่เรื่อยๆ

ไม่แปลกที่ผมจะทายล่วงหน้าได้ว่าคุณทักษิณจะไปเยี่ยม “เจ๊ศรี” ที่ตลาดวโรรส

เพราะทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2503

หรือ 63 ปีมาแล้ว

 

ตอนนั้นคุณทักษิณอายุ 17 ปียังเรียนอยู่ที่เชียงใหม่

ส่วน “เจ๊ศรี” อายุ 23 ปี

มีคนจัดทัวร์ไปเที่ยวสิงคโปร์ 15 วัน นั่งรถร้อนจากเชียงใหม่ไปกลับสิงคโปร์

เป็นการเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกของทั้งคู่

“เจ๊ศรี” เหมือน “พี่สาว” ที่ดูแลน้องๆ ในทริปนั้น จึงรู้จักคุ้นเคยกัน

หลังจากนั้น “ทักษิณ” ก็เข้ากรุงไปเรียนโรงเรียนเตรียมทหารและต่างประเทศ

ทุกครั้งที่คนในตระกูลชินวัตรไปซื้อของที่ตลาดวโรรส “เจ๊ศรี” จะถามถึง “น้องชาย” ที่ชื่อ “ทักษิณ” เป็นประจำ

จนวันหนึ่ง ตอนที่ “ทักษิณ” เป็นรองนายกรัฐมนตรีสมัยอยู่พรรคพลังธรรม เขามาเดินตลาดวโรรส

และเข้ามาที่แผงหนังสือพิมพ์ พอเห็นหน้าก็จำกันได้

“ต่อไปมาเชียงใหม่ ผมจะแวะมาหาพี่ศรีทุกครั้ง”

เขาสัญญา

จากนั้น ทุกครั้งที่ “ทักษิณ” กลับบ้านที่เชียงใหม่ ถ้าว่างเขาจะแวะมาหา “พี่ศรี”

เช่นเดียวกัน ตอนมาหาเสียงที่เชียงใหม่

“ทักษิณ” จะมาตลาดวโรรส

และแวะหา “พี่ศรี” ทุกครั้ง

ส่วน “เจ๊ศรี” ก็กลายเป็น “แฟนคลับ” ของนักการเมืองชื่อ “ทักษิณ”

เธอจะเลือกพรรคที่ “ทักษิณ” ให้การสนับสนุนมาตลอด

ไม่ว่าจะเป็นพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน หรือพรรคเพื่อไทย

วันที่ “ทักษิณ” โดนรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549

เป็นวันที่ “เจ๊ศรี” เศร้าที่สุด

เธอเก็บโทรทัศน์ใส่กล่อง

เลิกดูข่าวทีวี

เพราะไม่อยากเห็นหน้าคนที่เธอไม่ชอบ

“เจ๊ศรี” ติดตามข่าวเฉพาะในหนังสือพิมพ์และวิทยุเท่านั้น

ไม่เคยดูโทรทัศน์มานานเกือบ 20 ปี

 

ตอนที่พรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลมาหาเสียงที่เชียงใหม่

ทุกคนแวะมาหาเสียงที่ตลาดวโรรส

มานั่งคุยกับ “เจ๊ศรี” ด้วย

“เจ๊ศรี” ต้อนรับ “ธนาธร-ปิยบุตร” และ “พิธา” เป็นอย่างดี

เหมือนคนร่วมอุดมการณ์เดียวกัน

แต่เธอบอกทุกคนอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมาว่าแม้จะรักแค่ไหน จะชอบแค่ไหน

“แต่เจ๊ทรยศนายกฯ ทักษิณ ไม่ได้”

ยังไงเธอก็เลือก “เพื่อไทย”

คนในตลาดวโรรสรู้ดีว่าทุกครั้งที่ใครชวน “เจ๊ศรี” คุยเรื่อง “ทักษิณ”

เธอจะพูดไปน้ำตาคลอไปด้วยความคิดถึง

จนมีญาติ “ทักษิณ” คนหนึ่งมาคุยกับ “เจ๊ศรี” และจัดการให้เธอได้เดินทางไปต่างประเทศ พร้อม “คนรักทักษิณ” กลุ่มหนึ่ง

เพื่อไปพบ “นายกฯ ในดวงใจ”

เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ “เจ๊ศรี” ได้เจอ “ทักษิณ”

หลังจากต้องออกจากเมืองไทยไปตั้งแต่ปี 2551

นี่คือ ความประทับใจที่สุดครั้งหนึ่งของเธอ

เจอกันทีไรก็จะเล่าเรื่องนี้ทุกครั้ง

ไม่แปลกที่ “เจ๊ศรี” จะดีใจมากเมื่อ “ทักษิณ” ได้กลับบ้าน

เธอเฝ้ารอว่าเมื่อไร “นายกฯ ในดวงใจ” จะมาเชียงใหม่

เพราะเขาเคยสัญญาว่ามาเชียงใหม่เมื่อไร

จะมาเยี่ยม “พี่ศรี” ที่ตลาดวโรรส

 

แล้ววันนั้นก็มาถึง

“เจ๊ศรี” สั่งให้ลูกน้องเช็ดเก้าอี้พลาสติกให้สะอาดตั้งแต่เช้า

ใครจะมานั่งคุยด้วยที่ร้าน

เธอไม่ยอมให้นั่งคุย

เพราะเก้าอี้ที่มีอยู่ตัวเดียวในร้าน

เตรียมไว้สำหรับ “ทักษิณ” นายกฯ ในดวงใจคนเดียว

“ทักษิณ” มาถึงตลาดวโรรสพร้อมกับกองทัพสื่อมวลชน

เขาตรงไปที่แผงหนังสือเก่าๆ พื้นที่ไม่ถึง 10 ตารางเมตรทันที

ทั้งคู่โผกอดกันด้วยความคิดถึง

หลังจากทักทายกันพักหนึ่ง “เจ๊ศรี” ก็นำของที่เตรียมไว้มอบให้กับ “ทักษิณ”

น้ำผึ้ง 2 ขวด

ส้มมงคลในถุงสีแดง 4 ลูก

“บอกนายกฯ ว่าตอนแรกจะเตรียมไข่เยี่ยวม้าที่ท่านชอบไว้ด้วย แต่ไข่เยี่ยวม้าซื้อได้ทั่วไป ให้ท่านไปก็จะถือหนักเปล่าๆ” เจ๊ศรีเล่าให้ฟัง

นอกจากนั้นเธอยังเอาหนังสือ Thailand on the world stage หรือ “ประเทศไทยบนเวทีโลก” ที่รวบรวมสุนทรพจน์ของ “ทักษิณ” ช่วงปี 2546-2551 มาอวดด้วย

เป็นหนังสือที่ “พงศ์เทพ เทพกาญจนา” อดีตรองนายกรัฐมนตรี มอบให้ “เจ๊ศรี” ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2551

หนังสือเล่มนี้เธอเก็บไว้นานถึง 15 ปี ตั้งใจนำมาอวดเจ้าของหนังสือในวันนี้

ในเวลาสั้นๆ “เจ๊ศรี” ทั้งโชว์รูปที่ถ่ายคู่กับ “ทักษิณ” ในวันก่อน

หยิบนิตยสาร “มติชนสุดสัปดาห์” เล่มใหม่ที่หน้าปกรูป “ทักษิณ” มาอวด

ส่วน “นายกฯ ในดวงใจ” ของเธอเรียกลูกๆ มาไหว้ “พี่ศรี”

ก่อนจะลาจากกัน “ทักษิณ” บอกว่าช่วงสงกรานต์จะมาหา “พี่ศรี” อีกครั้ง

“วันนี้คนเยอะ”

ส่วน “เฮียชิน” สามีสุด “อินดี้” ของ “เจ๊ศรี” ไม่ปรากฏตัวต่อสื่อ

เขาแอบอยู่นอกร้าน รอจังหวะที่ “ทักษิณ” เดินออกมา

ขอจับมือ 1 ครั้ง

แค่นั้นเขาก็พอใจแล้ว

 

“เจ๊ศรี” กลายเป็น “คนดัง” ในชั่วพริบตา

เพราะทุกสื่อลงรูป “เจ๊ศรี” กับ “ทักษิณ”

ทุกคนอยากรู้ว่าเธอมีความสำคัญอย่างไร ทำไมอดีตนายกฯ ผู้กุมชะตาการเมืองไทยจึงต้องมาหา

“เจ๊ศรี” บอกว่ามีทั้งนักข่าวมาขอสัมภาษณ์ที่แผงหนังสือพิมพ์ หรือโทรศัพท์มาคุยด้วย

ส่วน “เฮียชิน” ถูกอำจากเพื่อนๆ ในตลาด

“เฮียปล่อยให้ผู้ชายมากอดเมียตัวเองได้อย่างไร”

วันที่โทรศัพท์คุยกับ “เจ๊ศรี” เสียงของเธอมีความสุขมากเวลาเล่าเรื่อง “ทักษิณ” นายกฯ ในดวงใจ

สิ่งที่ “เจ๊ศรี” อยากได้มากที่สุด คือ รูปถ่ายคู่กับ “ทักษิณ” ในวันนั้น

เพราะภาพที่เห็นคือ ภาพในหน้าหนังสือพิมพ์

เธอเปิดดูคลิปหรือรูปถ่ายในโทรศัพท์ไม่เป็น

ผมบอก “เจ๊ศรี” ว่าจะขอให้ “มติชนสุดสัปดาห์” ช่วยอัดรูปนี้ให้

แจ้ง “อู” บรรณาธิการ “มติชนสุดสัปดาห์” ไป

เขาบอกว่าเพื่อความรวดเร็ว

ลงปกเล่มนี้ให้เลยดีกว่า

ให้ “เจ๊ศรี” เซอร์ไพรส์

 

ตอนที่คุยกับ “เจ๊ศรี” มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมลืมถาม

ผมอยากรู้ว่าเมื่อวันนี้ “ทักษิณ” กลับเมืองไทยแล้ว

“เจ๊ศรี” จะยอมเปิดโทรทัศน์ดูข่าวหรือยัง? •

 

ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ | หนุ่มเมืองจันท์