คอลัมน์ประจำ

10 ปีของการหายปริศนา เที่ยวบิน เอ็มเอช 370

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 8 - 14 มีนาคม 2567
คอลัมน์ต่างประเทศ
เผยแพร่

ผ่านไป 10 ปีแล้ว สำหรับการหายไปอย่างไร้ร่องรอย ของเครื่องบินของสายการบิน มาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน เอ็มเอช 370 ที่มีผู้โดยสารและลูกเรืออยู่บนเครื่อง 239 คน โดยผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวจีน

เที่ยวบินดังกล่าว ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 777 หายไปจากจอเรดาร์ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2014 ขณะบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย ไปยังกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน โดยข้อมูลจากดาวเทียมพบว่า เครื่องบินได้บินออกนอกเส้นทาง และมุ่งหน้าไปทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย ที่เชื่อว่า เป็นจุดที่เครื่องบิน “ตก”

แม้ว่าจะมีความพยายามในการค้นหาที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การบินโลก ด้วยการค้นหาที่นำโดยออสเตรเลีย ร่วมมือกับมาเลเซีย และจีน ในการค้นหาที่ครอบคลุมพื้นที่ 120,000 ตารางกิโลเมตรในมหาสมุทรอินเดีย แต่ก็ไม่มีใครพบเครื่องบินลำดังกล่าว และปฏิบัติการค้นหาได้ยุติลงในเดือนมกราคม 2017 โดยใช้เงินไปถึง 130.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ!!

ก่อนที่ทางการมาเลเซีย จะให้ “โอเชียน อินฟินตี้” เดินหน้าการค้นหาต่อในปี 2018 พร้อมกับเสนอว่า หากหาเอ็มเอช 370 เจอ จะให้เงิน 70 ล้านดอลลาร์

แต่ปฏิบัติการค้นหาก็ยุติลงในอีกไม่กี่เดือนต่อมา และจบลงด้วยความล้มเหลว เพราะไม่พบอะไรเลย

ขณะที่เศษซากชิ้นส่วนของเครื่องบินบางชิ้น ที่ถูกพบบริเวณชายฝั่งแอฟริกา และบนเกาะกลางมหาสมุทรอินเดีย ได้รับการยืนยันว่า เป็นชิ้นส่วนของเอ็มเอช 370 จริง แต่ก็ไม่ได้มีอะไรคืบหน้าไปกว่านั้น

 

จนถึงตอนนี้ ผ่านไป 10 ปี ก็ยังไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ว่า เครื่องบินเอ็มเอช 370 หายไปไหน และชะตากรรมของคนบนเครื่องบินตอนนี้เป็นอย่างไร

ท่ามกลางทฤษฎีต่างๆ มากมาย ทั้งในช่วงแรกของการสืบสวน ที่มาเลเซียไม่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เครื่องบินลำดังกล่าวจงใจออกนอกเส้นทาง หรือแม้แต่ความผิดปกติของนักบิน ที่เชื่อว่า อาจจะเป็นผู้นำเครื่องบินดิ่งลงมหาสมุทร

โดยในงานรำลึก 10 ปี การหายไปของเอ็มเอช 370 ซึ่งจัดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ใกล้กับกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มีการจุดเทียน 239 เล่ม เพื่อรำลึกถึงผู้ที่อยู่บนเครื่อง 239 คน และบรรดาญาติญาติของผู้ที่อยู่บนเครื่องบิน ยังคงมีความมุ่งมั่นที่อยากจะให้ทางการเดินหน้าการค้นหาต่อไป โดยยังคงมีความหวังว่า บุคคลอันเป็นที่รักของตนจะยังคงมีชีวิตอยู่

โดยแอนโธนี ลก รัฐมนตรีคมนาคมมาเลเซียระบุว่า ได้เชิญโอเชียน อินฟินิตี้ หารือเกี่ยวกับการค้นหาเอ็มเอช 370 ต่อ หลังจากความล้มเหลวในการค้นหาสองครั้งก่อนหน้านี้ และจะพูดคุยกับออสเตรเลียอีกครั้งเกี่ยวกับความร่วมมือในการค้นหา ทันทีที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้โอเชียน อินฟินิตี้ เริ่มการค้นหาอีกครั้ง

ทั้งนี้ วี.พี.อาร์ นาธาน หนึ่งในสมาชิกของกลุ่มวอยซ์ เอ็มเอช 370 ซึ่งภรรยาอยู่บนเครื่องเอ็มเอช 370 ด้วย บอกว่า จริงๆ แล้ว บริษัทโอเชียน อินฟินิตี้ มีแผนที่จะทำการค้นหาเอ็มเอช 370 อีกครั้งเมื่อปีที่ผ่านมา แต่ต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากมีการส่งมอบกองเรือชุดใหม่อยู่ และตอนนี้ก็อยู่ระหว่างเตรียมกลับมาตามหาเอ็มเอช 370 อีกครั้ง

และนาธานมองว่า หนึ่งในข้อเสนอของโอเชียน อินฟินิตี้ ที่บอกว่า “ถ้าไม่พบ ก็จะไม่คิดเงิน” ถือเป็นข้อเสนอที่ดี เนื่องจากแม้ว่าพวกเขาต้องการจะให้มีการค้นหาต่อ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่า รัฐบาลคงไม่สามารถนำเงินหลายพันล้านมาเพื่อใช้ในการค้นหาได้

 

ด้าน โอลิเวอร์ พันเก็ตต์ ซีอีโอของโอเชียน อินฟินิตี้ บอกกับนิว สเตรตส์ไทม์ส ว่า บริษัทมีการยกระดับเทคโนโลยีขึ้นมาตั้งแต่ปี 2018 และตอนนี้บริษัทก็อยู่ในสถานะที่จะสามารถกลับไปค้นหาเอ็มเอช 370 อีกครั้ง โดยมีการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญหลายราย เพื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ในความหวังที่เลือนรางลงเรื่อยๆ สำหรับการตามหาเอ็มเอช 370

ขณะที่ แอนโธนี ลก ปฏิเสธที่จะพูดเรื่องจำนวนเงินที่จะเสนอให้กับทางโอเชียน อินฟินิตี้ ในการค้นหาเครื่องบิน บอกแต่เพียงว่า อยู่ระหว่างการเจรจา และว่า เรื่องเงินไม่ใช่ประเด็นสำคัญ และเขาก็ไม่เห็นอุปสรรคใดๆ ในการค้นหา

ตอนนี้ บรรดาญาติพี่น้องของผู้ที่อยู่บนเครื่องบินเอ็มเอช 370 ได้แต่หวังว่า จะมีการกลับมาค้นหาเครื่องบินลำนี้กันอีกครั้ง แม้ว่าความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิต แทบจะไม่มีเหลือเลยก็ตาม