คอลัมน์ประจำ

‘อดิศร’ ถอย เผชิญปัญหา ‘สุขภาพ’ ‘วิสุทธิ์’ คุม ปธ.วิปรัฐบาล วางมิชชั่นคุมเกมสภา

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 1 - 7 มีนาคม 2567
คอลัมน์ในประเทศ
เผยแพร่

ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามหนังสือคำสั่งนายกรัฐมนตรี ปรับปรุงองค์ประกอบในคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร หรือวิปรัฐบาล

โดยแต่งตั้งให้ “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ทำหน้าที่ประธานวิปรัฐบาลคนใหม่

แทน “อดิศร เพียงเกษ” ภายหลังยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ

พร้อมกับให้ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานวิปรัฐบาลคนที่หนึ่ง

สรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานวิปรัฐบาลคนที่สอง

ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานคนที่สาม

และเพิ่มให้ ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นวิปรัฐบาล

โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้การดำเนินการเรื่องที่เกี่ยวกับสภาผู้แทนราษฎรและรัฐสภาเป็นไปอย่างมีระเบียบแบบแผนตามระบบรัฐสภา ตลอดจนการประสานงานกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกรัฐสภา และพรรคการเมืองด้านนิติบัญญัติให้เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 

ทั้งนี้ ต้องยอมรับตำแหน่ง “ประธานวิปรัฐบาล” มีบทบาทสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าตำแหน่งฝ่ายบริหารประเทศ เพราะเปรียบเสมือน “มือประสานสิบทิศ” ทำหน้าที่คอยควบคุม ดูแล และกวดขัน บรรดาสมาชิกพรรคการเมืองเดียวกัน หรือพรรคร่วมรัฐบาลให้มาร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อให้พรรคการเมืองหรือพรรคร่วมรัฐบาล มีเสียงโหวตสนับสนุนเพียงพอเพื่อลงมติ ป้องกันมิให้เกิดการเสียเปรียบในการลงคะแนนเสียงต่างๆ หาก ส.ส.เข้าประชุมสาย ลา หรือโดดประชุม

ขณะเดียวกันต้องทำหน้าที่ประสานงานกับผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยเฉพาะการเจรจาและร่วมมือในการพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญ รวมทั้งคอยรับแรงกระแทกและแรงปะทะจากฝ่ายต่างๆ อีกด้วย

ยิ่งรัฐบาลชุดนี้ เป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มาจากพรรคการเมืองหลายพรรค เก้าอี้ “ประธานวิปรัฐบาล” จึงมีบทบาทสำคัญที่ต้องคอยควบคุมเสียงของสมาชิก ส.ส. ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ให้เกิดการแตกแถว

ดังนั้น บุคคลที่จะเข้ามารับหน้าที่นี้ ไม่ใช่ใครจะเข้ามาเป็นก็ได้ แต่ทว่า มือต้องถึงด้วย ต้องรู้จักการเจรจา การต่อรอง แบบประนีประนอม มากกว่าโจมตีหรือสาดโคลนใส่ฝ่ายตรงข้าม

 

ฉะนั้น เมื่อ “อดิศร เพียงเกษ” มีปัญหาสุขภาพ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ประธานวิปรัฐบาลได้อย่างเต็มที่

จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตัวบุคคลที่มีความพร้อม และมีความเหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่แทน เพื่อประสานงานและขับเคลื่อนงานนิติบัญญัติ ระหว่างรัฐบาลกับสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นไปด้วยความราบรื่น ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายรัฐบาล โดย “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี จึงมอบหมายตำแหน่งสำคัญนี้ให้กับ “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ”

แน่นอนว่า หากเอ่ยชื่อ วิสุทธิ์ ไชยณรุณ แวดวงการเมืองไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นนักการเมืองรุ่นใหญ่ของพรรคเพื่อไทย (พท.) เคยเป็นอดีต ส.ส.พะเยา 5 สมัย เป็น ส.ส.ที่มีประสบการณ์ทางการเมืองสูง เคยได้รับตำแหน่งสำคัญเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในสมัยรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

อีกทั้งสมัยทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เคยได้รับฉายาจากสื่อมวลชนประจำรัฐสภา ให้เป็น “ดาวเด่น” ประจำปี 2555 เนื่องจากเวลาทำหน้าที่ประธานควบคุมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะได้รับคำชมถึงความเป็นกลางทั้งจากพรรคฝ่ายค้านและรัฐบาล ทำหน้าที่ผ่อนหนักผ่อนเบา ช่วยให้อารมณ์การประชุมที่กำลังดุเดือดลดลงได้

ปัจจุบัน “วิสุทธิ์” เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ และทำหน้าที่เป็นประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย รวมทั้งประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์)

และอีกหนึ่งบทบาทสำคัญที่รอท้าทายความสามารถ นั่นคือ ประธานวิปรัฐบาล นั่นเอง

 

“วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” ระบุถึงการรับตำแหน่งประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ว่า จะขอความร่วมมือสมาชิกให้ประชุมวิสามัญคณะต่างๆ ในวันจันทร์ อังคาร หรือวันศุกร์ ไม่ให้ประชุมวันพุธ หรือวันพฤหัสบดี ที่เป็นวันประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อไม่ให้ ส.ส.เสียสมาธิในการประชุมสภา วิ่งเข้าๆ ออกๆ ห้องประชุม อยากให้ ส.ส.อยู่ในห้องประชุม ให้ความสำคัญการประชุมสภา ที่เป็นหน้าที่หลักให้ประชาชน 2 วันคือ วันพุธ และวันพฤหัสบดี ให้อยู่ร่วมประชุมเต็มที่ คอยผลักดันสนับสนุนกฎหมายฝ่ายรัฐบาล

“วิสุทธิ์” ระบุด้วยว่า อยากแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบว่า วันพุธ-วันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นวันประชุมสภา ขอร้องประชาชนอย่าได้เชิญ ส.ส.ไปเป็นประธานงานใดๆ ทั้งสิ้น เพราะหน้าที่ของ ส.ส.คือประชุมสภา และยังมีหน้าที่ในชั้นกรรมาธิการสามัญและกรรมาธิการวิสามัญประจำสภาด้วย

ฉะนั้น วันพุธ วันพฤหัสบดีจะยุ่งมาก สภาอาจจะมีการโหวตญัตติหรือข้อกฎหมายสำคัญต่างๆ ที่จะต้องบังคับใช้กับคนไทยทุกคน หาก ส.ส.ถูกเชิญไปต่างจังหวัดในช่วงเวลาดังกล่าว จะถือว่าการทำหน้าที่ในสภาไม่สมบูรณ์

เพราะฉะนั้น อย่าเชิญผู้แทนฯ ไปงานบวช งานบุญ งานแต่งเลย ส่งพร้อมเพย์มาให้ผู้แทนฯ ก็ได้ เขาก็ดูแลอยู่แล้ว อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ เราอยากให้ผู้แทนฯ อยู่ในสภา เชื่อมั่นว่าผู้แทนฯ สมัยใหม่มีความรับผิดชอบ ซึ่ง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลก็มีความพร้อมในการทำหน้าที่เป็นองค์ประชุม จึงไม่เกรงเรื่องสภาล่ม เชื่อมั่นว่ามีความพร้อม เพราะทำความเข้าใจหลายครั้งแล้ว?

“อดีตอาจจะมีบ้างเรื่องของสภาล่ม แต่สมัยนี้องค์ประชุมโดยเฉพาะ ส.ส.รุ่นใหม่ๆ เข้ามาในสภามากขึ้น มีความรับผิดชอบมากและประชาชนก็มีความเข้าใจ และผู้แทนฯ ส่วนมากก็แจ้งไปยังในพื้นที่ว่าไม่สามารถไปงานอื่นได้ในวันพุธ พฤหัสบดี ต้องทำหน้าที่ในสภา จึงไม่มีสภาล่มอีกแน่นอน อย่างไรก็ตาม ในการประชุมวิปรัฐบาลทุกครั้งเราได้มีการชี้แจงประเด็นสำคัญว่าอาทิตย์นี้มีประเด็นอะไร และเชื่อมั่นว่า วิปทุกพรรคจะนำเสนอไปยังพรรคตัวเอง จึงมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าจะคุมเสียง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลได้”

“วิสุทธิ์” ยังย้ำด้วยว่า การอภิปรายของวุฒิสภา เชื่อมั่นว่า รัฐบาลสามารถชี้แจงได้ ทีมของคณะรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายก็ได้เตรียมความพร้อมที่จะชี้แจง จึงไม่น่ากังวล ไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายของวุฒิสภาหรือของฝ่ายค้าน

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ คงต้องรอดูว่า “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” กับบทบาท “ประธานวิปรัฐบาล” จะท้าทายความสามารถมากน้อยแค่ไหน เพราะมีศึกใหญ่ที่รอทดสอบและพิสูจน์ฝีมือ นั่นคือ การอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567

และญัตติเปิดอภิปรายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เพื่อสอบถามปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน