คอลัมน์ประจำ

เรื่องน่าสนใจ ของ IRONMAN

พิศณุ นิลกลัด
ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 23 - 29 กุมภาพันธ์ 2567
คอลัมน์คลุกวงใน
ผู้เขียนพิศณุ นิลกลัด
เผยแพร่

คลุกวงใน | พิศณุ นิลกลัด

Facebook : @Pitsanuofficial

 

เรื่องน่าสนใจ

ของ IRONMAN

 

IRONMAN 70.3 BANGSAEN 2024 มีขึ้นวันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 3 ต่อจากปี 2019 และ 2020

IRONMAN กำลังเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ ในเมืองไทย เพราะนอกจากเป็นการออกกำลังหลายประเภทเพื่อสุขภาพ ยังเป็นกีฬาที่ท้าทาย ที่ต้องอาศัยการทุ่มเท ฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมร่างกายให้ฟิตจัดเพื่อลงแข่งขัน

การแข่งขัน IRONMAN 70.3 BANGSAEN 2024 เริ่มด้วยการว่ายน้ำ 1.9 กิโลเมตร, ขี่จักรยาน 90 กิโลเมตร และวิ่งครึ่งมาราธอน 21.1 กิโลเมตร โดยไม่มีการหยุดพัก

 

การแข่งขัน IRONMAN มีขึ้นเป็นครั้งแรกใน 1978 ที่เกาะโออาฮู ของฮาวาย มีที่มาจากการที่ชมรมนักกีฬา 3 ชมรมในฮาวาย คือ ชมรมวิ่งมาราธอน ชมรมว่ายน้ำ และชมรมขี่จักรยาน

ต่างฝ่ายต่างข่มกันว่านักกีฬาชมรมของตัวเองร่างกายฟิตจัดกว่า แข็งแรงกว่า อึดกว่า

เมื่อเถียงกันไม่เลิกสักที ก็เลยลงความเห็นว่าควรจัดการแข่งขันกีฬา เพื่อพิสูจน์เลยว่า นักกีฬาชมรมไหนฟิตที่สุด โดยนักกีฬาคนไหนที่เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกจะเรียกว่า IRONMAN หรือคนเหล็ก

ในการแข่งขันวันนั้นมีผู้เข้าแข่งขัน 15 คน แชมป์ IRONMAN คนแรกของโลกคือ กอร์ดอน ฮอลเลอร์ (Gordon Haller) ทหารเรือวัย 28 ปี ซึ่งเป็นนักวิ่งมาราธอน รักการขี่จักรยาน และว่ายน้ำ

ดังนั้น การแข่งขันไออ้อนแมนจึงเหมาะกับกอร์ดอน ฮอลเลอร์ อย่างที่สุด โดยทำเวลา 11 ชั่วโมง 46 นาที 58 วินาที

 

ความพิเศษของการแข่งขัน IRONMAN ที่หาในกีฬาอื่นไม่ได้ก็คือ ความรู้สึกภูมิใจในการฝึกซ้อมร่างกายให้พร้อมในการลงแข่งกีฬาถึง 3 ประเภทพร้อมกัน

โดยเฉลี่ย ใช้เวลาฝึกซ้อมสัปดาห์ละ 30 ชั่วโมง โดยระยะทางรวมแต่ละสัปดาห์ในการซ้อมอยู่ที่ว่ายน้ำ 20-25 กิโลมตร ขี่จักรยาน 400-800 กิโลเมตร และวิ่ง 100 กิโลเมตร

ในการแข่งขัน Ironman เป็นการแข่งขันกีฬา 3 ประเภท คือ ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน และวิ่งมาราธอน

กฎหลักๆ ในการแข่งกีฬาแต่ละประเภทที่นักกีฬาเข้าแข่งขันต้องปฏิบัติมีดังนี้

1. ในการแข่งขันว่ายน้ำ นักกีฬาที่เข้าแข่งขันต้องสวมหมวกว่ายน้ำที่ผู้จัดเตรียมให้ ห้ามใส่ตีนกบ ห่วงยาง หรืออุปกรณ์ช่วยในการว่ายน้ำทุกชนิด

สามารถใส่แว่นกันน้ำได้ แต่ห้ามใส่หน้ากากกันน้ำแบบนักประดาน้ำ

2. ในการแข่งขันขี่จักรยาน ต้องเว้นช่วงห่างจากจักรยานคันหน้าอย่างน้อย 7 เมตร หรือประมาณ 4 ช่วงจักรยาน ยกเว้นแต่ตอนจะแซงที่สามารถอยู่ห่างจากจักรยานคันหน้าน้อยกว่า 7 เมตร โดยจะต้องแซงคันหน้าให้ได้ภายใน 20 วินาที

ห้ามทิ้งขยะเรี่ยราดขณะขี่จักรยาน ต้องทิ้งในบริเวณที่ทางผู้จัดกำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งนักกีฬามักจะมีขยะต่างๆ ที่ต้องทิ้ง เช่น ขวดน้ำดื่ม ซองอาหารให้พลังงาน

3. ในการวิ่งมาราธอน นักกีฬาห้ามเดิน หรือคลาน ต้องวิ่งเท่านั้น ห้ามญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ห้ามขี่จักรยาน คนขับรถ หรือวิ่งตามเชียร์ให้กำลังใจ ให้น้ำ ให้อาหาร เพราะนี่เป็นการแข่งขันประเภทบุคคล

และต้องสวมเสื้อวิ่งตลอดเวลา ห้ามถอด