ถ่ายสวย

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

จะถือเป็นโชคดีของชีวิตก็ได้

เพราะตั้งแต่เกิดมา ผมไม่เคยป่วยถึงขั้นนอนโรงพยาบาลเลย

เคยแต่นอนเฝ้าไข้คนอื่น

ผ่าตัดเล็ก-ผ่าตัดใหญ่ก็ไม่เคย

MRI ก็เพิ่งทำครั้งแรกตอนตรวจการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจเมื่อวันก่อน

ทำประกันชีวิตมาตั้งแต่เริ่มต้นทำงาน

จ่ายเบี้ยประกันอย่างเดียวมากว่า 30 ปี

แต่ไม่เคยเคลมประกันอะไรเลย

ดังนั้น เมื่อหมอเอกพจน์ตรวจพบอะไรผิดปกติบางอย่าง แล้วเห็นว่าต้องส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารและลำไส้

“เขาจะให้ยานอนหลับ ตอนส่องกล้องพี่จะไม่เจ็บอะไรเลยครับ ตื่นมาก็เสร็จเรียบร้อย”

คุณหมออธิบายแบบ “โรแมนติก” มาก

เหมือนมานอนเล่นที่โรงพยาบาล

เขาไม่รู้ว่าผมไม่เคยผ่าตัด ไม่เคยถูกวางยานอนหลับ หรือนอนโรงพยาบาลเลย

แต่ผมเป็นคนเชื่อหมอครับ

เอาไงก็เอากัน

คุณหมอผุสดี ที่รับหน้าที่ส่องกล้องบอกว่า 3 วันก่อนส่องกล้อง ห้ามกินผักและผลไม้ที่มีกาก

ให้มานอนพักก่อนสัก 1 คืน

เพราะจะส่องกล้องตอนเช้า

จากนั้นก็เริ่มอธิบายขั้นตอนอย่างละเอียด

ผมจะต้องกิน “ยาถ่าย” เพื่อล้างลำไส้ให้สะอาดตั้งแต่ตอนเย็น

ถ้ายังไม่สะอาด

พยาบาลจะสวนตอนเช้าอีกครั้งหนึ่ง

เวลาส่องกล้อง ภาพจะได้เคลียร์ ไม่มีอะไรบัง

คุณหมอเล่าไปเรื่อยๆ แบบสบายๆ

ส่วนผมฟังด้วยความหวาดเสียว โดยเฉพาะเรื่องการสวนตอนเช้า

ผมไม่เคยสวนมาก่อน

เคยแต่ไปสวนที่เมืองจันท์

รู้เพียงว่าเขาต้องสอดอะไรบางอย่างเข้าทางก้น

แล้วปล่อยน้ำยาเข้าไป เพื่อให้ถ่ายได้สะดวกคล่องก้น

แค่คิดก็อะจึ๊ยแล้วครับ

คุณหมออธิบายขั้นตอนต่อไปว่าจะให้ยาสลบทางสายน้ำเกลือ

“คุณจะหลับไปเลย หมอจะส่องกล้องทางปากก่อน แล้วค่อยส่องทางก้น เจอก้อนเนื้อตรงไหนก็จะตัดออกมาเลย”

จะมีการขูดกระเพาะนิดหนึ่ง เพื่อดูว่ามีเชื้ออะไรที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งหรือเปล่า

เรื่องราวเริ่มหวาดเสียวขึ้นเรื่อยๆ

แต่อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด

เมื่อทำใจกับประสบการณ์ใหม่ของชีวิตได้แล้ว

ผมก็เริ่มตั้งสติคิดหารายได้จากการเจ็บตัวครั้งนี้

วางแผนว่าต้องเก็บรายละเอียดเรื่องไหนเพื่อเอามาเขียนเรื่อง

เจ็บตัวทั้งทีต้องมีเรื่องเขียน

เรื่องที่น่าสนใจคือ ตอนล้างลำไส้

และการให้ยานอนหลับ

ตั้งใจจะเก็บข้อมูลอย่างละเอียดว่าช่วงที่วูบหลับมีอาการอย่างไรบ้าง

ต้องสนุกแน่เลย

 

ผมขอเข้าห้องพักตอนประมาณบ่าย 3

ก่อนขึ้นห้องพัก เขาให้ตรวจ ATK ก่อน

ช่วงโควิดผมตรวจ ATK บ่อยมากจนเป็นเรื่องปกติ

แต่ผมจะเลือกตรวจแบบน้ำลาย ไม่เคยตรวจแบบแยงจมูกเลย

เสียว…ครับ

เข้าโรงพยาบาลครั้งนี้ ผมจึงเตรียม ATK แบบน้ำลายไปเอง

กะสบายๆ เหมือนเดิม

แต่พยาบาลเธอไม่ยอมครับ บอกว่าเป็นกฎของโรงพยาบาล ต้องตรวจแบบแยงจมูกด้วย ATK ของโรงพยาบาลเอง

ถือเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย

เรียบร้อยครับ

รอดโควิดมาตั้งนาน ไม่นึกว่า “จมูก” ของผมต้องมาเสียความบริสุทธิ์ในวันนี้

ขึ้นห้องพัก พยาบาลเอา “ยาถ่าย” มาให้

เป็นน้ำใสๆ ในขวดน้ำ 500 ม.ล.

จำนวน 4 ขวด

“ดื่มให้หมดภายใน 2 ทุ่มนะคะ”

ผมยิ้ม นึกในใจ แค่ 4 ขวด พอไหว

“ดื่มเสร็จแล้ว จะเอามาให้อีก 4 ขวดค่ะ”

โห…คืนนี้ผมต้องดื่มให้หมดตั้ง 8 ขวด

พยาบาลบอกว่าหลังจากดื่ม ผมจะเข้าห้องน้ำถ่ายหลายครั้งหน่อย

มันจะใสขึ้นเรื่อยๆ

และสั่งด้วยว่าการถ่ายครั้งสุดท้ายก่อนจะนอน ให้กดเรียกพยาบาลมาพิสูจน์หลักฐานด้วยว่าลำไส้สะอาดแล้วหรือยัง

เรื่องนี้ก็นอกเหนือความคาดหมาย

เคยคิดว่ามีแต่ถ่ายรูปให้คนอื่นดู

แต่นี่เราต้องถ่ายท้องให้พยาบาลดูด้วย

ไม่เป็นไร ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว

“ถ้าใสสะอาด พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องสวนค่ะ” พยาบาลให้ความหวัง

หลังจากดื่ม 4 ขวดแรก

ผมก็เข้าห้องน้ำเป็นพักๆ

เป็นการใช้พลังงานในการถ่ายน้อยมาก

นั่งปั๊บไหลปรื๊ดเลยครับ

ภาพถ่ายที่ออกมาเริ่มใสกระจ่างขึ้นเรื่อยๆ เหมือนใช้แอพพ์ถ่ายรูป

หมด 4 ขวดแรก

ต่ออีก 4 ขวด

ประมาณ 4 ทุ่ม หลังจากถ่ายมา 7 รูปแล้ว

ผมคิดว่าครั้งที่ 8 น่าจะเป็นการถ่ายครั้งสุดท้ายก่อนนอน

กดกริ่งเรียกพยาบาลมา

เขินนิดๆ แต่ความหน้าด้านมีมากกว่า

เธอเดินเข้าไปพิสูจน์หลักฐานแป๊บเดียว

และกล่าวประโยคที่ผมประทับใจที่สุด

“สวยแล้วค่ะ เกือบสวยงามแล้วค่ะ”

เป็นการเลือกใช้ภาษาที่งดงามมาก

เรียกสิ่งที่คนรู้สึกว่าสกปรก ด้วยคำที่ไพเราะ

แต่…

“ถ้าให้ดี พรุ่งนี้สวนอีกครั้งนะคะ”

โห…นึกว่ารอดแล้ว

 

คืนนั้น “เต้ย” น้องชายชวนไปกินอาหารญี่ปุ่น

กินเสร็จแล้ว ผมนึกขึ้นได้ว่าหมอห้ามกินผักและผลไม้

รีบโทร.ถามน้องว่าเมนูที่กินไปมีผักบ้างหรือเปล่า

…งงใช่ไหมครับ ว่าทำไมแอบไปกินอาหารญี่ปุ่นได้

ผมฝันครับ

เป็นความฝันที่ชัดเจนมาก

แสดงว่าจิตประหวัดแต่เรื่องส่องกล้อง

ตื่นเช้าอาบน้ำเรียบร้อย พยาบาลบอกให้เตรียมตัว “สวน”

นอนตะแคงซ้าย

เธอเอาวาสลินทาเบาๆ

แล้วเสียบ…

เสียความบริสุทธิ์เรียบร้อยไปอีกช่องทางหนึ่ง

บีบน้ำยาเข้าไปเรื่อยๆ

จากนั้นให้วิ่งเข้าห้องน้ำ

ภาพถ่ายที่ออกมาสมใจคุณพยาบาล

เธอชมด้วยศัพท์เดิม

“สวยงามมากค่ะ”

บุรุษพยาบาลเข็นเตียงไปที่ห้องส่องกล้อง

พยาบาลติดเครื่องมือบนตัวเสร็จ คุณหมอผุสดีก็เริ่มปฏิบัติการ

“เดี๋ยวหมอจะให้ยานอนหลับนะคะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง”

ผมรีบตั้งสติ เตรียมสังเกตปฏิกิริยาของร่างกายตอนเจอ “ยานอนหลับ”

ไม่เห็นมีอะไรเลย

ไม่มีอะไร

แล้วภาพก็ตัดครับ

ไม่มี “คอนเทนต์” อะไรจะเล่าเลย

ผมตื่นมาอีกทีกระบวนการส่องกล้องก็เสร็จเรียบร้อย

คุณหมอบอกว่าเจอก้อนเนื้อในลำไส้และกระเพาะอาหาร 7 ชิ้น

ตัดทิ้งเรียบร้อย

แต่ไม่มีชิ้นไหนที่มีปัญหา

“สบายใจได้ค่ะ”

“แล้วต้องส่องกล้องทุกปีเลยหรือปล่าครับ”

คุณหมอบอกว่าถ้าจะเกิดก้อนเนื้อใหม่ขึ้นมา ภายใน 3 ปีจะยังไม่มีปัญหา

“อีก 3 ปีค่อยส่องใหม่อีกครั้ง”

ครับ อีก 3 ปีเจอกัน

คราวนี้ผมจะต้องสังเกตให้ได้ว่าช่วงให้ “ยานอนหลับ”

ผมหลับไปตอนไหน

สัญญาว่าอีก 3 ปีจะเล่าให้ฟังครับ •

 

 

ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ | หนุ่มเมืองจันท์