THE LOST KING | ‘ราชาตกบัลลังก์’

นพมาส แววหงส์

“ผู้ชนะเป็นคนเขียนประวัติศาสตร์”

นี่คือวาทกรรมที่เราได้ยินได้ฟังกันบ่อยๆ ซึ่งบอกนัยว่าประวัติศาสตร์ใช่จะเป็นบันทึกข้อเท็จจริงที่ไร้อคติและเป็นกลางเสมอไป

ธรรมดาโลกที่ผู้ชนะย่อมเป็นฝ่ายเสียงดังกว่า แผ่รัศมีเรืองรองกว่า ส่งอิทธิพลให้คัดเลือกข้อมูลเฉพาะที่เชิดชูฝ่ายตนและข่มฝ่ายตรงข้ามเพื่อสร้างความชอบธรรมแก่ฝ่ายตน โดยเฉพาะในยุคสมัยที่ยังไม่มีช่องทางการเข้าถึงและระบบการตรวจสอบและถ่วงดุลยังไม่มีน้ำหนักมากพอ

ตัวอย่างหนึ่งของวาทกรรมข้างต้น อยู่ในประวัติศาสตร์อังกฤษช่วงปลายยุคกลาง เมื่อมีการเปลี่ยนขั้วอำนาจการปกครองประเทศ

ริชาร์ดที่ 3 แห่งราชวงศ์แพลนทาเจเน็ต ถูกสังหารในสมรภูมิบอสเวิร์ธ และเฮนรีที่ 4 แห่งราชวงศ์ทิวเดอร์ขึ้นครองราชย์

บันทึกในรัชสมัยนั้นเข้าข้างฝ่ายครองอำนาจ และป้ายสีให้ริชาร์ดเป็นฝ่ายผู้ร้าย เชกสเปียร์เขียนบทละคร Richard III (ราว 1593) หลังจากพระเจ้าริชาร์ดสิ้นพระชนม์เมื่อ ค.ศ.1485 ระยะเวลาห่างจากเหตุการณ์จริงกว่าร้อยปี และใช้ข้อมูลจากบันทึกที่มีอยู่ในสมัยนั้น

เชกสเปียร์จึงไม่ใช่คนร่วมสมัยของริชาร์ด

ริชาร์ดที่ 3 จากปลายปากกาของนักเขียนบทละครบันลือโลกจากยุคเอลิซาบีธัน จึงเป็นตัวร้ายที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม คดโกง โหดเหี้ยม ไร้คุณธรรม ทำทุกอย่างเพื่อก้าวสู่อำนาจโดยขจัดอุปสรรคขวางหน้าทุกอย่างให้พ้นไป

นอกจากนั้น เชคสเปียร์ยังสร้างแคแร็กเตอร์ของริชาร์ดให้มีร่างกายพิกลพิการเป็นคนหลังค่อม โดยมาจากบันทึกที่ว่าริชาร์ดมีกระดูกสันหลังคดจนทำให้ไหล่เอียงไปข้างหนึ่ง

ประหนึ่งว่าลักษณะทางกายภาพนั้นสะท้อนให้เห็นนิสัยและพฤติกรรม

นั่นคือ “คดในข้อ งอในกระดูก”

พลังของวรรณกรรมอมตะเรื่องนี้ส่งผลมหาศาลในด้านลบต่อชื่อเสียงเกียรติคุณของริชาร์ดที่ 3

จําเนียรกาลล่วงผ่านไปหลายร้อยปี ในศตวรรษที่ 20 เกิดขบวนการกอบกู้ชื่อเสียงและเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่คิงริชาร์ดขึ้น

โดยมีกลุ่มคนที่เห็นว่าข้อมูลในประวัติศาสตร์ยังอาจคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงไปเยอะ จึงมีการก่อตั้งชมรมริชาร์ดที่ 3 (The Richard III Society) ขึ้นเมื่อ ค.ศ.1924

ชมรมนี้มีสมาชิกที่เป็นแฟนคลับของคิงริชาร์ด โดยเรียกตัวเองว่าชาว Ricardian กระจายอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

คราวนี้มาถึงการค้นพบครั้งใหญ่ที่ลานจอดรถของเทศบาลเมืองเลสเตอร์ เมื่อ ค.ศ.2012 ซึ่งทำให้ริชาร์ดที่ 3 ตกเป็นข่าวเด่นข่าวดังไปทั่วโลก

ซึ่งเป็นที่มาของหนัง The Lost King

หนังสร้างจากหนังสือชื่อ The Search for Richard III โดยฟิลิปปา แลงลีย์ ผู้เป็นต้นคิดและแรงผลักดันสำคัญในการขุดค้นหาพระศพของกษัตริย์อังกฤษองค์สุดท้ายของยุคกลาง ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อของยุคกลางกับยุคเรอแนซ็องส์

ฟิลิปปา แลงลีย์ (แซลลี ฮอว์กินส์) ทำงานในบริษัทที่มีหัวหน้ามองข้ามหัวเธอไปส่งเสริมพนักงานที่อ่อนอาวุโสกว่า เธอมีลูกสองคนกับอดีตสามี จอห์น (สตีฟ คูแกน) ซึ่งยังคงมาช่วยดูแลลูกอยู่ด้วย

ฟิลิปปาเป็นโรค ME หรืออาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเรื้อรัง

วันหนึ่ง ฟิลิปปาไปดูละครโรงเรียนของลูกซึ่งเล่นเรื่อง Richard III และเธอรู้สึกว่าริชาร์ดถูกใครๆ ตัดสินด้วยอคติจากลักษณะทางกายภาพในตัว ไม่ใช่จากตัวตนโดยแท้

พระเจ้าริชาร์ด (แฮรี่ ลอยด์) ในรูปลักษณ์ของนักแสดงผู้เล่นบทในละครที่เธอได้ชม ติดตามฟิลิปปาไปเกือบทุกหนทุกแห่ง และบางครั้งเธอก็พูดคุยสนทนากับเขาด้วยซ้ำ อันทำให้เธอดูหลุดโลกยิ่งขึ้นในสายตาคนรอบด้าน แม้แต่ลูกๆ เองก็มองเธอแปลกๆ

บันทึกเก่าแก่บอกว่าหลังจากถูกสังหารอย่างทารุณในสมรภูมิบอสเวิร์ธ พระศพของริชาร์ดก็ถูกประจานโดยโยนทิ้งแม่น้ำ หรือไม่ก็ถูกฝังในโบสถ์ที่เมืองเลสเตอร์

ฟิลิปปาเชื่อว่าเป็นข้อหลัง เธอจึงทำการค้นคว้าหาข้อมูลและเข้าร่วม “ชมรมริชาร์ดที่ 3”

เธอเชื่อว่าพระศพถูกฝังไว้ใต้ลานจอดรถของเทศบาลเมือง เธอจึงขออนุญาตทำการขุดค้นทางโบราณคดี และหาแหล่งทุนสนับสนุนโครงการขุดค้นด้วยตนเอง ท่ามกลางแรงต่อต้านหรือคัดค้านของนักวิชาการบางคน

ปรากฏว่า “ลางสังหรณ์” ของฟิลิปปา ถูกต้องและตรงจุดเผงภายในไม่กี่ชั่วโมงแรกของการลงมือขุด

ขุดลงไปเจอโครงกระดูกของผู้ชาย ซึ่งผลการตรวจคาร์บอนบอกว่าอยู่ในวัยสามสิบปีเศษ มีแนวกระดูกสันหลังคองอโค้งอย่างที่จะทำให้ไหล่เอียงไปด้านหนึ่ง นอนอยู่ในท่าที่ไม่ได้จัดวางให้เรียบร้อย เหมือนจะเป็นการถูกโยนลงไปฝังในหลุมอย่างขอไปที

นั่นคือการค้นพบทางโบราณคดีครั้งสำคัญของศตวรรษที่ 21 แต่ก็ยังต้องรอผลการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่านี่เป็นร่างของริชาร์ดที่ 3 จริงหรือไม่ โดยใช้ดีเอ็นเอของเชื้อสายที่สืบตระกูลต่อมาอีกหลายชั่วรุ่น

และผลการพิสูจน์ยืนยันว่านี่คือพระศพของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ ด้วยความถูกต้องแม่นยำสูงถึง 99.99%

ฟิลิปปา แลงลีย์ตัวจริงเขียนหนังสือเพื่อเล่าเรื่องจากมุมมองของเธอ ซึ่งถูกกีดกัน บดบังรัศมีและ “แย่งซีน” ไปอย่างหน้าตาเฉย

ทำให้นึกถึงหนังน่าดูอีกเรื่อง คือ The Dig (2021) (เรฟ ไฟน์ส, แครี่ มัลลิแกน) เกี่ยวกับการขุดค้นทางโบราณคดีที่ซัตตันฮูในซัฟโฟล์ก เมื่อ ค.ศ.1939 ซึ่งนักวิชาการแย่งกันออกมา “รับหน้า” และกีดกันผู้ริเริ่มขุดตัวจริง ซึ่งไม่มีคุณวุฒิการศึกษามารองรับ

อย่างไรก็ตาม ฟิลิปปา แลงลีย์ตัวจริงก็ได้รับเหรียญตราอัศวินจากควีนเอลิซาเบธ ในเวลาต่อมา และได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชนคนรุ่นหลังต่อมา

…อยากได้คนอย่างเธอมาเป็นแรงบันดาลใจแก่เยาวชนไทยมั่งจังเลย… •

ภาพยนตร์ | นพมาส แววหงส์

THE LOST KING

กำกับการแสดง

Stephen Frears

แสดงนำ

Sally Hawkins

Steve Coogan

Harry Lloyd

Mark Addy