เบนซ์ ‘GLA’ – ปอร์เช่ ‘Macan’ | 2 รถหรูพลังเบนซินและไฟฟ้า

สันติ จิรพรพนิต

จัดหนักตั้งแต่ต้นปี เมื่อ 2 ค่ายรถหรูบ้านเราทั้งเมอร์เซเดส-เบนซ์ และปอร์เช่ พร้อมใจเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในเวลาไล่เลี่ยกัน

เมอร์เซเดส-เบนซ์ มากับ “GLA 200 AMG Dynamic” คอมแพกต์เอสยูวี

ส่วนปอร์เช่ อวดโฉม “มาคันน์ ใหม่” (The new Macan) รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้ารุ่นที่ 2

ส่วนรุ่นไหนมีดีอะไรบ้าง เราไปดูกัน

เริ่มที่ค่ายดาวสามแฉกปรับโฉมรุ่น “GLA 200 AMG Dynamic” ดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกและภายใน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “DYNAMIC ALL THE WAY”

ภายนอกตกแต่งแบบ AMG Line Package ที่ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับรถสมรรถนะสูงภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG

กระจังหน้า Diamond radiator grille และโลโก้ดาวสามแฉกขนาดใหญ่ตรงกลาง ตกแต่งรอบคันแบบ AMG bodystyling และอุปกรณ์กันกระแทกโครงหลังคา aluminium

ไฟหน้าแบบ LED High Performance และระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist)

ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว พร้อม Sports brake

ระบบช่วงล่าง Comfort suspension แบบ ride-height lowering

รุ่นปรับโฉมยังมาพร้อมการเพิ่มหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า

ห้องโดยสารถูกตกแต่งแบบ AMG Line Interior

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นดีไซน์ใหม่สไตล์สปอร์ตหุ้มหนัง Nappa

แผงหน้าปัดแดชบอร์ดที่แสดงข้อมูลการขับขี่แบบ All-digital instrument display เชื่อมต่อกับหน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลางขนาด 10.25 นิ้ว

เบาะนั่ง Sport seats หุ้มหนัง ARTICO สลับกับ MICROCUT microfibre สีดำ

ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC ใหม่แบบ 2 โซน

ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless charging)

เชื่อมต่อความบันเทิงทั้ง iOS และ Android และระบบปฏิบัติการมัลติมีเดียใหม่ล่าสุดแบบ “MBUX7” ที่มีระบบ AI ช่วยประเมินพฤติกรรมการใช้งานของผู้ขับขี่

ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Ambient lighting) สามารถปรับได้กว่า 64 เฉด

ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบแถวเรียง 1,332 ซีซี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,620-4,000 รอบต่อนาที

เกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ

อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 8.7 วินาที

ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง รองรับน้ำมัน E85

ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ DYNAMIC SELECT

ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน อาทิ ระบบขอความช่วยเหลืออัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP (Electronic Stability Program)

ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system)

ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE

ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)

ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist)

ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist with PARKTRONIC)

ระบบแจ้งเตือนขณะเปิดประตูรถ (Exit Warning) ฯลฯ

GLA 200 AMG Dynamic ราคา 2,580,000 ล้านบาท

ส่วน ปอร์เช่ มาคันน์ มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย “มาคันน์ 4” และ “มาคันน์ เทอร์โบ”

ชุดไฟด้านบนพร้อมไฟส่องสว่างช่วงกลางวัน 4 จุด ฝังอยู่ในปีก โมดูลไฟหน้าหลักพร้อมเทคโนโลยี LED Matrix จะอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าเล็กน้อย

สปอยเลอร์หลังแบบปรับได้ แผ่นระบายความร้อนแบบแอ็กทีฟที่ช่องรับอากาศด้านหน้า และแผ่นปิดแบบยืดหยุ่นบนใต้ท้องรถที่ปิดสนิท

ม่านอากาศด้านล่างโมดูลไฟหน้าและส่วนหน้าแบบต่ำช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศ

ส่วนบริเวณด้านหลัง ขอบด้านข้างและดิฟฟิวเซอร์แบบบานเกล็ดช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของหลักอากาศพลศาสตร์

ภายในเน้นความเรียบหรูและดูไฮเทค พวงมาลัย 3 ก้าน

จุดเด่นสุดไม่พ้นจอแสดงผลรุ่นล่าสุด 3 หน้าจอ ได้แก่ แผงหน้าปัดดีไซน์โค้งขนาด 12.6 นิ้วแบบตั้งลอยได้ และจอแสดงผลส่วนกลางขนาด 10.9 นิ้ว และจอผู้โดยสาร

นับเป็นครั้งแรกที่ผู้โดยสารสามารถดูข้อมูล รวมถึงปรับการตั้งค่าระบบความบันเทิง หรือเลือกรับชมวิดีโอในขณะที่รถขับเคลื่อนอยู่ผ่านทางหน้าจอของตนเองได้

ครั้งแรกสำหรับ Porsche Driver Experience จอแสดงผลบนกระจกหน้าพร้อมเทคโนโลยีเสมือนจริง

เช่น ลูกศรนำทางที่ผสานรวมเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างราบรื่น

ภาพดังกล่าวปรากฏต่อผู้ขับขี่ที่ระยะ 10 เมตร และมีขนาดเท่ากับจอแสดงผลขนาด 87 นิ้ว

ระบบความบันเทิง Android Automotive OS มีระบบสั่งงานด้วยเสียง “Hey Porsche” สามารถแนะนำเส้นทาง รวมถึงสถานีชาร์จพลังงานสูง ใน Porsche App Centre ใหม่

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าระบบ PSM รุ่นล่าสุด ผลิตกำลังสูงถึง 300 กิโลวัตต์ หรือ 408 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตัน-เมตร

เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลา 5.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ส่วนรุ่นเทอร์โบ รีดกำลังสูงสุด 470 กิโลวัตต์ หรือกว่า 639 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,130 นิวตันเมตร

เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 3.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 260 กิโลเมตร/ชั่วโมง

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุรวม 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 95 กิโลวัตต์ชั่วโมง

รองรับการชาร์จไฟกระแสตรง (DC) สูงถึง 270 กิโลวัตต์ ชาร์จแบตเตอรี่ได้ตั้งแต่ 10-80 เปอร์เซ็นต์ ภายในเวลาประมาณ 21 นาที

ส่วนการชาร์จไฟกระแสสลับหรือ AC ในบ้าน ทำได้ถึง 11 กิโลวัตต์

การวิ่งระยะไกลสุดต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง มาคันน์ 4 ทำได้ 613 กิโลเมตร

ส่วนมาคันน์ เทอร์โบ 591 กิโลเมตร ระยะทางเฉลี่ยแบบ WLTP

มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวถูกควบคุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นระบบแบบเรียลไทม์

ทำงานเร็วกว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อทั่วไปประมาณ 5 เท่า สามารถตอบสนองต่อการลื่นไถลได้ภายใน 10 มิลลิวินาที

มาคันน์ 4 ราคาเริ่มต้นที่ 5.39 ล้านบาท

และ มาคันน์ เทอร์โบ เริ่มต้นที่ 7.79 ล้านบาท •

 

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]