แผงผักที่เป็นกำลังใจ ให้หนุ่มสาวสู้ต่อไป

ท้อฟฟี่ แบรดชอว์https://www.facebook.com/toffybradshawwriter

The Gratitude Diary ขอบคุณที่ทำให้ชีวิตนี้มีความหมาย | ท้อฟฟี่ แบรดชอว์

 

แผงผักที่เป็นกำลังใจ

ให้หนุ่มสาวสู้ต่อไป

 

1

เพิ่งดูสารคดีใน NHK เกี่ยวกับแผงขายผักที่ทำให้หัวใจพองฟูมาครับ

Oshimo Tomato หรือ Tomo เปิดแผงขายผักเล็กๆ ที่อีบิสุ ในย่านออฟฟิศของกรุงโตเกียว

เป็นเรื่องประหลาดมากที่จู่ๆ ก็มีแผงขายผักมาเปิดอยู่ในย่านธุรกิจ

ปรัชญาในการทำธุรกิจของเธอคือ “อร่อย ราคาถูก และสดใหม่”

ที่แผงขายผักของเธอไม่มีพนักงานขาย ลูกค้าจะหยอดเหรียญจ่ายค่าผักที่เธอจัดแยกเป็นชุดๆ ชุดละ 100 เยน โดยแบ่งขายแต่ละชุดในปริมาณพอรับประทานสำหรับคนอยู่คนเดียว ทำให้ซื้อได้ง่าย

ด้วยราคาเพียงเท่านี้ เธอบอกว่าก็ได้กำไรอยู่ได้แล้ว

แผงขายผักของ Tomo ขายดี มีลูกค้าประจำมาซื้ออยู่ตลอด

ไม่ใช่เพียงแค่คุณภาพของผัก แต่เพราะการมีอยู่ของแผงผักของ Tomo คือขุมกำลังใจของลูกค้า

2

Tomo เกิดในครอบครัวเกษตรกร การปลูกผักอยู่ในสายเลือดของเธออยู่แล้ว

เธอเคยทำงานบริษัทอสังหาริมทรัพย์มาก่อน จนกระทั่งเธอมีลูกชาย เธอจึงลาออกเพื่ออุทิศเวลาดูแลลูก และเปลี่ยนมาเปิดร้านขายผักที่เธอปลูกเองและขายเอง

จนกระทั่งวันหนึ่งมีลูกค้าบอก Tomo ว่า เขามีเงินซื้อผักของ Tomo ได้แค่เดือนละครั้งเท่านั้น

แม้ว่าลูกค้าคนนั้นจะทำงานบริษัท แต่ก็มีรายได้น้อยมาก และยังมีค่าใช้จ่ายอีกมากมายที่ทำให้ต้องประหยัด

นั่นทำให้ Tomo รู้ว่า มีหนุ่มสาวมนุษย์ออฟฟิศอีกมากมายที่ต้องลำบาก

เธอนึกไปถึงอนาคตของลูกชายว่าต่อไปเขาจะอยู่อย่างไร

3

4 ปีที่แล้ว Tomo เปลี่ยนจากร้านขายผักมาเปิดแผงขายผักที่ไม่มีคนขายแทนเพื่อลดต้นทุน

เธอปลูกผักเองโดยไม่ใช้สารเคมี ทำให้ไม่มีต้นทุนเรื่องยาฆ่าแมลง

พอต้นทุนน้อย ทำให้ Tomo สามารถขายผักได้ในราคาถูกเพื่อให้เข้าถึงหนุ่มสาวออฟฟิศที่ต้องการดูแลค่าใช้จ่ายได้

คุณภาพของผักที่ทั้งสดและอร่อย บวกกับราคาแค่ถุงละ 100 เยน ทำให้แผงขายผักของ Tomo ขายดีอยู่ตลอด

ลูกค้าพากันมาอุดหนุนและบอกต่อเพราะอยากให้แผงผักของ Tomo อยู่ได้

4

ที่แผงผักของ Tomo มีป้ายที่เขียนด้วยลายมือของ Tomo เขียนว่า

“ถึงคนรุ่นใหม่ทั้งหลาย

เมื่อนานมาแล้ว ฉันย้ายมาจากฮิโรชิม่าด้วยตัวเองโดยไม่มีเงิน และต้องใช้ชีวิตด้วยการกินแต่แตงโมอยู่เป็นเดือนจนผอมแห้งเพื่อประทังชีวิต

ตอนนี้ฉันปลูกผักเหล่านี้เพื่อพวกคุณเอาไว้ที่แผงผักนี้

Tomo อยู่ที่นี่เพื่อคุณ

มั่นใจได้ว่าฉันจะอยู่ที่กับคุณ

ไม่ต้องกังวลถึงเรื่องในอนาคต”

ลูกค้าทุกคนที่มาที่แผงผักอ่านข้อความนั้น

และมันทำให้แผงผักแห่งนี้เป็นมากกว่าแผงผักทั่วไป

 

5

ที่มาของข้อความมาจาก Tomo พบว่าผู้คนรอบตัวกำลังมีความวิตกกังวลกับชีวิตที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

ในฐานะที่ Tomo ผ่านความยากลำบากมา เธอเพียงอยากบอกว่า ทุกปัญหามีทางออก มันจะมีเวลาที่ทุกอย่างคลี่คลายด้วยดี

และแผงผักแห่งนี้จะเป็นพื้นที่เล็กๆ ที่ช่วยให้พวกเขาผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้

อย่างน้อยก็มีผักอร่อยๆ ให้ได้อิ่มท้อง

มีแรงแล้วค่อยสู้กันต่อ

 

6

แม้จะไม่ได้เจอหน้ากัน แต่ลูกค้าของ Tomo ก็เขียนข้อความทิ้งไว้ที่แผงผักเพื่อขอบคุณ Tomo อยู่เสมอ

“คุณ Tomo ขอบคุณมาก ฉันสนุกกับการทำอาหารมากเพราะคุณ คุณทำให้ฉันมีกำลังใจต่อไป”

“คุณเป็นเหมือนแม่คนที่ 2 ของฉัน คุณทำให้ฉันมีแรงก้าวต่อไป”

ฯลฯ

นั่นทำให้ Tomo รู้ว่าสิ่งที่เธอมีความหมาย

 

7

1ในลูกค้าของ Tomo คือ Seino Sena พนักงานบริษัทอายุ 26 ปี ย้ายมาจากโอกินาว่า

เธอมาซื้อผักที่แผงของ Tomo เป็นประจำในช่วงพักกลางวัน

Seino มีรายได้ไม่มาก ผักของ Tomo ที่มีราคาถูกทำให้เธออิ่มท้องได้

Seino ไม่เคยทำอาหารมาก่อน แต่เพราะผักของ Tomo เธอจึงพยายามทำอาหารเองเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่อย่างโตเกียวไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่เพราะเธอต้องฝึกทำอาหารด้วยตัวเอง ทำให้เธอได้โทร.หาคุณยายของเธออยู่บ่อยๆ เพื่อให้คุณยายสอนทำอาหาร

บางครั้ง Seino ซื้อผักมาจากแผงโดยไม่รู้ว่าจะปรุงอย่างไร เธอก็ใช้วิธีปรึกษาคุณยายและฝึกทำไปพร้อมกัน

แผงผักของ Tomo จึงทำให้สายใยความผูกพันของ Seino และครอบครัวที่อยู่ห่างไกลกันยังคงเชื่อมโยงถึงกันได้

ตอนนี้ผักของ Tomo ไม่เพียงแต่หล่อเลี้ยงชีวิตของ Seino แต่ได้หล่อเลี้ยงชีวิตน้องสาวของเธอที่ย้ายจากโอกินาว่ามาอยู่ด้วยกัน

Seino รู้สึกผูกพันกับแผงผักของ Tomo มาก และตั้งใจทำงานเพื่อเธอจะได้มอบสิ่งดีๆ กลับไปให้คนอื่นแบบเดียวกับที่ Tomo ทำ

 

8

ผักที่นำมาขายเป็นผลงานการปลูกของ Tomo และลูกชายชื่อ Satoru วัย 14 ปี

เวลากินข้าว Tomo จะบอกลูกชายเสมอว่า “นี่คือผักที่เราภูมิใจเพราะเราปลูกมากับมือ”

มะเขือม่วงที่ Satoru ปลูกและเก็บเกี่ยวเป็นครั้งแรกกลายเป็นสินค้าขายดีประจำฤดูร้อน

Tomo เขียนป้ายติดไว้ที่มะเขือม่วงที่วางขายว่าเป็นมะเขือม่วงล็อตแรกที่เป็นฝีมือการปลูกของลูกชายเธอ เพื่อเป็นเกียรติให้กับความพยายามของ Satoru

 

9

การปลูกผักทำให้เธอเรียนรู้ถึงการใส่ใจ

Tomo บอกว่า ผักที่เธอปลูกก็เหมือนชีวิตของคนเรา

บางผลอาจจะดูไม่สวยงาม แต่ก็มีแคแร็กเตอร์ของตัวเอง

เธอจึงไม่เคยทิ้งผักของเธอเพียงเพราะมันไม่สวยหรือมีรอยตำหนิ

มันคือความภูมิใจของเธอ

“ก็เหมือนคนเราที่มีความแตกต่าง แต่ทุกคนมีความสำคัญหมด” Tomo บอก

“ฉันอยากให้หนุ่มสาวรุ่นใหม่รู้สึกว่าพวกเขาไม่ถูกลืม และให้รู้ว่าพวกเขามีค่า”

ที่ป้ายที่ Tomo เขียนที่แผงขายผักว่า “Tomo อยู่ที่นี่เพื่อคุณ”

เธอหมายความแบบนั้นจริงๆ