หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๒๑๓)

ฟ้า พูลวรลักษณ์

บทความพิเศษ | ฟ้า พูลวรลักษณ์

 

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๒๑๓)

 

อารยธรรม แบบที่หนึ่ง

เชี่ยวชาญในการใช้พลังงานทุกรูปแบบบนโลก

สามารถควบคุมสภาพอากาศ

สามารถขุดมหาสมุทร

สามารถดึงพลังงานจากใจกลางโลก

พวกเขาสามารถใช้พลังงานของดาวเคราะห์ทั้งดวง

อารยธรรมแบบนี้ ต้องการความร่วมมือร่วมใจระดับดาวเคราะห์

มันข่มทุกศาสนา ทุกนิกาย ทุกชาตินิยม ให้นิ่งสงบ

หมดพิษสง

มีทางเป็นไปได้

เรามองเห็นสุดขอบฟ้า

แต่ยังไปไม่ถึง

ต้องใช้เวลา อีกเป็นศตวรรษ

เพราะเราเป็น อารยธรรมแบบ ศูนย์ ที่กำลังคลานไปสู่ อารยธรรมแบบ หนึ่ง

 

อารยธรรมแบบที่สอง

มีความเชี่ยวชาญในการใช้พลังงานดวงดาว

สามารถใช้พลังงานทั้งดวง ของดวงอาทิตย์

และสร้างอาณานิคม บนดาวดวงอื่น

ในระบบสุริยจักรวาลอื่นๆ

 

อารยธรรมแบบที่สาม

ใช้พลังงานจนหมด จากดาวหนึ่งดวง

ต้องควานหาระบบดาว หรือกลุ่มดาว ด้วยความหิวโหย

สร้าง อารยธรรม ดาราจักร

มันใช้พลังงานจาก ดาราจักร

 

นี้เป็นการวิเคราะห์อารยธรรม ด้วยการใช้ควอนตัม

ซึ่งคือการใช้พลังงาน และเป็นสิ่งเดียว ที่วิเคราะห์ได้ง่าย เป็นวิทยาศาสตร์

แต่อารยธรรมมีอะไรมากมายกว่าการใช้พลังงาน

สิ่งที่เราวิเคราะห์ไม่ออก

มองไม่เห็น

ต้องใช้เวลาในการคิด นานเป็นสหัสวรรษ

หากจักรวาลนี้เป็นมหาสมุทร และเราคือชีวิต

อารยธรรมแบบที่หนึ่ง คือแพลงตอน

อารยธรรมแบบที่สอง คือปลาเล็ก

อารยธรรมแบบที่สาม คือวาฬ

ชีวิตที่มีอารยธรรม และยังดำรงอยู่ ก็จะมีวิวัฒนาการเรื่อยไป จากเล็กไปหาใหญ่ แหวกว่ายในสายน้ำ เป็นปลาใหญ่กินปลาเล็ก ในห้วงมหรรณพ

 

อารยธรรมของสิ่งมีชีวิต ในจักรวาลนี้ จึงมี

อารยธรรมแบบศูนย์

อารยธรรมแบบที่หนึ่ง

อารยธรรมแบบที่สอง

อารยธรรมแบบที่สาม

ความแปลกคือ มันไม่มีทางเลือกอื่น

ด้วยสิ่งมีชีวิตมีข้อจำกัดในการใช้พลังงาน

ไม่ว่า คุณจะเป็นชีวิตใดก็ตาม

ไร้พลังงาน ไร้ชีวิต

ต่อให้คุณเป็นพระศิวะ นารายณ์ พระพรหม

พวกเขาก็ต้องใช้พลังงาน จึงจะมีชีวิต

เพียงแต่พวกเขาใช้ยังไง เรามองไม่เห็น

 

ด้วยความเติบโต ปีละ ๓ เปอร์เซ็นต์ของมนุษย์โลก หากเราไม่ทำลายตัวเองเสียก่อน

เราจะไปถึง อารยธรรมแบบที่หนึ่ง ในศตวรรษใดศตวรรษหนึ่งข้างหน้า

และไปถึง อารยธรรมแบบที่สอง ในสหัสวรรษใดสหัสวรรษหนึ่งข้างหน้า

และ อารยธรรมแบบที่สาม ในกาลเวลานับหมื่นปี หรือแสนปีข้างหน้า

นี้เป็นกราฟที่คาดการณ์ไว้

ให้เห็นว่า มันเป็นไปได้ หากมันจะเป็นไป

แต่หากมันจะไม่เป็นไป มันก็แค่ไม่เป็นไป

หัวใจหยุดเต้นก่อน

ความฝันหยุดชะงัก ดวงวิญญาณไปเกิดใหม่

ในอีกภพหนึ่ง ในอีกจักรวาลหนึ่ง

แล้วเริ่มต้นใหม่

หากมองแบบเผ่าพันธุ์ สิ่งมีชีวิตตายแล้วเกิดใหม่ เป็นไปได้

มันคือชีวิตที่คล้ายกัน

สูญพันธุ์แล้ว ก็ไปเกิดใหม่

มีมาอีกครั้งหนึ่ง หากสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวย

แต่ก็เป็นไปได้ มีสิ่งมีชีวิตไม่เกิดใหม่

ไม่มีวันใด จะมีสิ่งมีชีวิตแบบนี้อีกแล้ว

สองข้อนี้น่าพิศวงพอกัน แต่ปัจเจกชนตายแล้วเกิดใหม่ ไร้สาระ มีแต่เผ่าพันธุ์ใดสูญพันธุ์แล้วเกิดใหม่

 

ทุกวันนี้ เรายังอยู่ใน อารยธรรมแบบศูนย์

เรายังปากกัดตีนถีบ ยังขุดน้ำมันและถ่านหิน ซึ่งเป็นซากศพของสัตว์และพืชมาใช้

เรายังแบ่งเป็นชนชาติ ยังหวงแหนตัวตน

ยังยึดมั่นในความเป็นปัจเจก

ยังงก หวง และละโมบ

ยังอุดมด้วยโลภ โกรธ หลง

แต่เราก็มีความลุ่มลึกในดวงจิต

เปล่งปลั่งด้วยศาสนา

ตะโกนก้องด้วยความรักชาติ

เคารพบุคคลบางคน เรียกพ่อเรียกแม่

เรายังเป็นเด็กน้อย เดินเตาะแตะ

ด้วยความไม่มั่นใจ

เรายังลังเล สับสน

ในจักรวาล

 

๑๐

ทุกวันนี้ การปฏิวัติสารสนเทศ ถูกบล็อกโดยคนจีน

พวกเขาทำด้วยความรักชาติ

เกิดกำแพงซ้อนกำแพง

การปฏิวัติสารสนเทศ ไม่สามารถเดินหน้าสร้างอารยธรรมของดาวเคราะห์ จากอารยธรรมเล็กๆ นับพันที่มีอยู่เดิม ด้วยมีบางอารยธรรมเดิมที่ถือตัวว่ายิ่งใหญ่ เกิดสงครามซ้อนสงคราม

คนจีนเป็นเพียงตัวอย่างที่เห็นเด่นชัด

ที่จริงอุปสรรคมีมากหลาย

ทุกชนชาติที่จริงยังถือตัวอยู่สูง

แต่คนจีนถือตัวเองสูงกว่าชาติทั้งหลาย

 

๑๑

การเดินทางไปสู่ อารยธรรมแบบที่หนึ่ง จะถูกขัดขวางโดย

สงครามนิวเคลียร์

โรคระบาดที่ร้ายกาจ

การล่มสลายของสภาพแวดล้อม

เราอาจจะไปถึง หรือไปไม่ถึง

ในความเงียบ ฉันได้ยินเสียงเพลง

To be or not to be

ในแรงทำลายล้างอย่างใหญ่หลวง

ก็มีแรงกระตุ้นของมนุษย์ ที่ถูกซุกซ่อนไว้ในยีน

ให้อยากเดินหน้า ไปสู่ อารยธรรมแบบที่หนึ่ง

มันมาในรูปแบบของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทั้งมวล