FOE | ‘ชีวิตกับความหมาย’

นพมาส แววหงส์

ค.ศ.2065…โลกอนาคตอีกราว 40 ปีหลังจากปัจจุบัน

ความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศทำให้โลกของเราอยู่ยากขึ้นทบเท่าทวีคูณ

น้ำสะอาดและผืนดินอุดมที่เหมาะแก่การเพาะปลูก เป็นของหายาก

ประชากรล้นโลก และผู้คนพากันอพยพทิ้งถิ่นฐานในชนบทไปอยู่เมืองใหญ่กันหมด

รัฐบาลมีนโยบายหาถิ่นที่อยู่ใหม่นอกโลกเพื่ออพยพผู้คนไปอยู่อาศัย

ด้วยความร่วมมือของบริษัทไฮเทคเอกชน รัฐบาลสร้างสถานีอวกาศโคจรรอบโลกเพื่อบุกเบิกโครงการที่ตั้งชื่อว่า OuterMore

หนังไซไฟเรื่องนี้โฟกัสเฉพาะอยู่ที่เรื่องราวของครอบครัวสามีหนุ่มภรรยาสาว ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กท่ามกลางชนบทที่มีแต่ผืนดินแห้งผาก มองออกไปแทบจะไม่ได้เจอะเจอความเขียวขจีของต้นไม้หรือสิ่งมีชีวิตอื่นใดเลย ในแถบมิดเวสต์ของอเมริกา

ภรรยาชื่อเฮน (ซัวร์ชา โรนัน)

สามีชื่อจูเนียร์ (พอล เมสคัล)

เมื่อแรกเปิดเรื่อง เราเห็นเฮนผู้ไร้สุขสะอึกสะอื้นอยู่คนเดียวในบ้านขณะอาบน้ำฝักบัว

ค่ำคืนวันนั้นเอง ก็มีไฟหน้าของรถยนต์สาดมาที่บ้าน เสียงเคาะประตูหน้าบ้าน ดูเหมือนว่าเฮนจะรู้ว่าใครมาหา แต่จูเนียร์ออกจะหวาดระแวงในสถานการณ์ที่มีคนแปลกหน้าขับรถมาถึงบ้านในยามค่ำคืน

อาคันตุกะยามวิกาลแนะนำตัวเองว่าชื่อ เทอเรนซ์ (แอรอน ปิแอร์)

เขาเป็นตัวแทนรัฐบาลมาแจ้งข่าวสำคัญ

นั่นคือ การจับสลากหาคนขึ้นไปทดลองอยู่อาศัยบนสถานีเอาเตอร์มอร์ที่โคจรรอบโลกนั้น สลากที่ออกเป็นชื่อของจูเนียร์ โครงการนี้กินระยะเวลาสองปีก่อนถึงกำหนดให้จูเนียร์ออกเดินทาง

ไม่ว่าจูเนียร์จะเต็มใจหรือไม่เต็มใจเข้าร่วมโครงการทดลองให้มนุษย์ออกไปพำนักอยู่ในอวกาศนี้ เทอเรนซ์ก็แจ้งว่าโครงการนี้เป็นภาคบังคับของรัฐบาล คือมีนโยบายเหมือนการเกณฑ์ทหาร คนที่ถูกคัดเลือกให้ร่วมโครงการจะบิดพลิ้วไม่ได้ ไม่ว่าด้วยข้ออ้างใด

และเพื่อชดเชยแก่ครอบครัวที่ไม่ได้รับการคัดเลือกและถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง โครงการเอาเตอร์มอร์จะสร้างหุ่นยนต์โคลนนิ่งมาไว้แทนตัว

เทอเรนซ์ใช้เวลาพักหนึ่งอยู่ในบ้านหลังนี้เพื่อสังเกตการณ์และสัมภาษณ์ทั้งเฮนและจูเนียร์อย่างรอบคอบและครบถ้วนทุกแง่ทุกมุม เพื่อบันทึกข้อมูลลงในตัวโคลนนิ่งของจูเนียร์ จนคิดอ่านพูดจาเหมือนตัวจริงอย่างแทบไม่มีอะไรผิดเพี้ยนเลย

ระหว่างนั้นจูเนียร์ยังคงใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเพื่อปรับตัวปรับใจก่อนจากไป

ในจุดนี้ หนังลวงคนดูให้เชื่อไปในทางหนึ่ง เพียงที่ว่าจะพลิกกลับเป็นคนละทางในตอนหลัง

ความสัมพันธ์ของเฮนกับจูเนียร์ ซึ่งเริ่มชืดชาจืดจางหลังจากแต่งงานกันมาพักหนึ่ง กลับดีขึ้นดังเดิม หรือรักใคร่เหนียวแน่นยิ่งกว่าเดิม พร้อมด้วยความตระหนักว่าจะต้องพรากจากกันไปนานปี

และต้องหัวใจสลาย ใจขาดรอนๆ เมื่อถึงเวลาต้องพลัดพรากจากกันจริงๆ

นี่เป็นหนังที่เดินเรื่องด้วยแคแร็กเตอร์ที่ละเอียดอ่อน และเดินเรื่องค่อนข้างช้าให้เป็นปริศนาชวนพิศวง

จูเนียร์เป็นคนที่ไม่ชอบและไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลง

เขายืนยันจะใช้ชีวิตในบ้านชนบทที่เป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษมาหลายชั่วอายุ

ในตอนแรกที่เฮนย้ายมาอยู่บ้านเขาเมื่อแต่งงานกัน เธอชอบเล่นเปียโน แต่จูเนียร์ไม่ชอบเสียงดนตรี เธอจึงต้องลงไปเล่นเปียโนในห้องใต้ดิน

ครั้นเมื่อภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนแปลงไป ทั้งคู่ไม่สามารถหาเลี้ยงชีพทำกินทางการเกษตรได้จากที่ดินอันแห้งแล้ง เฮนจึงต้องเดินทางไปทำงานเป็นสาวเสิร์ฟในร้านอาหารไกลออกไป

ส่วนจูเนียร์ก็ทำงานเป็นคนงานอุตสาหกรรมเลี้ยงไก่

ชีวิตดูแห้งแล้งไร้ความหมาย ท่ามกลางความแห้งแล้งของธรรมชาติรอบตัว

เฮนปรารถนาจะทิ้งชีวิตอันไร้ความหมายไปหาความหมายใหม่ในโลกกว้าง ส่วนจูเนียร์ยึดติดกับค่านิยมเก่าๆ ที่ฝังรากลึก

ความปรารถนาและความใฝ่ฝันในชีวิตของหนุ่มสาวสวนทางกัน โดยไม่มีใครยอมประนีประนอม

สัปดาห์ก่อนเพิ่งเขียนถึง The Creator ซึ่งบอกว่ามนุษย์เอ.ไอ. ดูจะมีความน่ารักกว่ามนุษย์จริงๆ เสียอีก มาคราวนี้ก็ดูเหมือนว่า Foe จะสื่อนัยใกล้เคียงกัน

สารอย่างหนึ่งที่ออกมาจากหนังเรื่องนี้ อาจฟังดูแปลก ๆ เพราะดูเหมือนจะเป็นว่ามนุษย์สามารถผูกพันรักใคร่กับเอ.ไอ. ได้อย่างแนบแน่นกลมเกลียว

ขณะที่ความสัมพันธ์ของมนุษย์กับมนุษย์ด้วยกันเอง กลับดูเหมือนจะไม่ยืดยาวแบบถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร ดังคำอวยพรคู่บ่าวสาวในวันสมรส

ตอนจบของหนังอาจชวนงงๆ ให้ต้องขบคิดต่อ

จากการที่เฮนตัดสินใจทิ้งสามีทิ้งบ้านหลังนี้ไปโดยทิ้งจดหมายไว้เป็นกระดาษเปล่าที่ไม่ได้เขียนคำอธิบาย

ความว่างเปล่าของคำอธิบายดูจะเป็นคำอธิบายที่ชัดเจนที่สุดอยู่ในตัว

แต่แล้วก็ดูเหมือนว่าเธอจะหวนกลับมาหาจูเนียร์อีกครั้งในตอนจบ

เพียงแต่ว่า…เธอไม่ได้กลับมาจริงๆ… ตัวจริงของเธอนั่งอยู่บนเครื่องบินจากไป

คนหน้าตาเหมือนเธอราวกับแกะซึ่งกลับมานั้น คงต้องเป็นโคลนนิ่งละ

ทว่า โคลนนิ่งนี้มาได้ยังไง ใครเป็นคนส่งมาให้ เฮน หรือ เอาเตอร์มอร์ หรือว่าจูเนียร์เป็นคนสั่งมาอยู่ด้วยแทนภรรยาที่จากไป

??? เอ…ชักงงแฮะ… •

FOE

กำกับการแสดง

Garth Davis

แสดงนำ

Saoirse Ronan

Paul Mescal

Aaron Pierre

ภาพยนตร์ | นพมาส แววหงส์