พระปิดตา-เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อเที่ยง วัดบางหัวเสือ พระเกจิชื่อดัง พระประแดง

ในอดีตจังหวัดสมุทรปราการ ฝั่ง อ.พระประแดง มีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเข้มขลังในวิทยาคมอีกรูป คือ “หลวงพ่อเที่ยง กีสนาคะ” วัดบางหัวเสือ ต.บางหัวเสือ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

เป็นผู้สร้างพระปิดตาเนื้อตะกั่วผสมปรอท ที่มากด้วยประสบการณ์

นอกจากนี้ ยังมีวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยม คือ “เหรียญรุ่นแรก”

ในปี พ.ศ.2470 ลูกศิษย์และชาวบ้านขออนุญาตจัดงานบุญอายุครบ 60 ปี และขออนุญาตสร้างเหรียญรูปเหมือนครึ่งองค์ ด้านหลังเรียบ ที่จะนำไปให้จารอักขระ

ลักษณะเป็นเหรียญปั๊ม หูเชื่อม เท่าที่พบมีเนื้อเงินสร้างจำนวนน้อย และเนื้อทองแดง ด้านหน้า ตรงกลางเป็นรูปเหมือนครึ่งองค์ หันหน้าตรง ใต้รูปเหมือน เขียนตัวเลขไทย “๒๔๗๐” รอบเหรียญมีอักษรเขียนคำว่า “ที่รฤกในงานทำบุญอายุครบ 60 ปี พระอาจารย์เที่ยง วัดบางหัวเสือ”

ส่วนด้านหลัง เป็นพื้นที่เรียบปล่อยไว้ให้ลงเหล็กจาร

รุ่นนี้มีเพียงบล็อกเดียว ถือเป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่สร้างทันหลวงพ่อเที่ยง

เหรียญหลวงพ่อเที่ยง วัดบางหัวเสือ

เกิดที่บ้านบางฝ้าย ต.บางหัวเสือ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อปี พ.ศ.2410 บิดาชื่อ คล้าย มารดาชื่อ มอญ ซึ่งครอบครัวของท่านย้ายมาจากชัยนาท มาตั้งถิ่นฐานที่ ต.บางหัวเสือ

ในวัยเด็กบิดาได้นำไปฝากเรียนหนังสือกับพระอธิการบัว วัดบางหัวเสือ เพื่อร่ำเรียนอักขระมนต์คาถา

จนเมื่ออายุครบ 20 ปี จึงได้อุปสมบท ณ พัทสีมาวัดบางหัวเสือ มีหลวงปู่บัว เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อพิณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่ออ้น เป็นพระอนุสาวนาจารย์

จำพรรษาที่วัดบางหัวเสือ ได้ศึกษาพระปริยัติธรรม ตลอดจนวิชาอาคม และวิชาแพทย์แผนโบราณจากหลวงปู่บัว และหลวงพ่อพิน ทั้ง 2 พระอาจราย์ถ่ายทอดวิชาอาคมให้อย่างเจนจบครบทุกกระบวน จนสำเร็จวิทยาคมชั้นสูง พร้อมกันนั้นได้ปฏิบัติตนในฐานะลูกศิษย์ตลอดมา

เล่าขานกันว่า หลวงปู่บัว เป็นน้องชายของหลวงปู่จีน วัดท่าลาดเหนือ ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา หากแต่มีข้อมูลบางด้านกล่าวว่าเป็นพี่ชายหลวงปู่จีน

แต่จากเอกสาร “บาญชีพระสงฆ์เล่ม ๑ วัดบางหัวเสือ” ที่ได้คัดลอกในสมัยหลวงพ่ออยู่ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางหัวเสือ รูปที่ 4 โดยพระอาจารย์คำ ได้บันทึกไว้ถึงการอุปสมบทของหลวงพ่อพิณ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางหัวเสือ รูปที่ 3 ว่า

“ท่านช้าง วัดโปรดเกศเชษฐาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่จีน วัดท่าลาดเหนือ ฉะเชิงเทรา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่บัว วัดบางสีสะเสือ (วัดบางหัวเสือ) เป็นพระอนุสาวนาจารย์”

ซึ่งจากเอกสารดังกล่าว ทำให้สันนิษฐานว่า หลวงปู่บัว มีพรรษาอ่อนกว่า จึงได้ลงไว้เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เพราะฉะนั้น จึงควรเกิดหลังและบวชหลังหลวงปู่จีน

หลวงพ่อเที่ยง วัดบางหัวเสือ

กระทั่งถึงปี พ.ศ.2463 หลวงพ่อพิณ ผู้ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อเที่ยง มรณภาพลง ขณะนั้นหลวงพ่อเที่ยงมีอายุ 53 ปี ชาวบ้านบางหัวเสือ จึงนิมนต์ให้เป็นเจ้าอาวาสต่อจากหลวงพ่อพิณ

แต่หลวงพ่อเที่ยง ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับการปกครอง แต่อยากปฏิบัติตนอย่างสมถะ จึงไม่รับตำแหน่ง ขอเป็นพระลูกวัดธรรมดาเท่านั้น

ต่อมาตำแหน่งเจ้าอาวาสก็เป็นของหลวงพ่ออยู่ ซึ่งตอนแรกก็ปฏิเสธไม่รับตำแหน่ง ด้วยเห็นว่าหลวงพ่อเที่ยงอยู่วัดแห่งนี้มาก่อน ควรที่จะได้รับตำแหน่งมากกว่า แต่หลวงพ่อเที่ยงก็ปฏิเสธเช่นกัน เพราะเห็นว่าหลวงพ่ออยู่อาวุโสกว่า และเชี่ยวชาญในด้านพัฒนาวัด จึงยกตำแหน่งเจ้าอาวาสให้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ทั้งหลวงพ่ออยู่และหลวงพ่อเที่ยง ชาวบ้านบางหัวเสือล้วนเคารพนับถือมาก และทั้งสองก็เป็นสหธรรมิกกันมาตั้งแต่บวชใหม่ๆ ชาวบ้านในอำเภอพระประแดงมีเรื่องทุกข์ร้อนอะไรต่างก็มาขอให้ช่วยเหลือ เจ็บไข้ได้ป่วยก็ช่วยรักษาให้หายได้ทุกราย

กล่าวได้ว่า ในยุคนั้น ชาวบ้านบางหัวเสือยึดถือกันว่า เป็นวัด 2 เจ้าอาวาส คือได้ยกย่องหลวงพ่อเที่ยง เสมือนเจ้าอาวาสวัดอีกรูปหนึ่ง

หลวงพ่อเที่ยง ใช้ชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์ บำเพ็ญเพียรอย่างมุ่งมั่น ปฏิบัติกิจของสงฆ์มิเคยขาด เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านบางหัวเสือ จวบจนทั้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

ด้านวัตถุมงคล ลูกศิษย์ต่างขอให้ช่วยทำให้ มีพระปิดตาเนื้อตะกั่ว ด้านหน้าเป็นรูปพระปิดตา ด้านหลังเป็นองค์พระ และหลวงพ่อเที่ยงก็จะจารให้อีกที มีประสบการณ์ต่างๆ มากมาย

ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง จึงมรณภาพลงในปี พ.ศ.2472 สิริอายุ 62 ปี •

 

โฟกัสพระเครื่อง | โคมคำ

[email protected]