ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 26 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | ล้านนาคำเมือง |
เผยแพร่ |
ปตูโขง อ่านว่า ปะตู๋โขง หมายถึง ประตูทางเข้าหรือทางลอดผ่าน ที่มีลักษณะที่เรียกว่า “โขง” คือ ทำขึ้นเป็นทรงสูงขึ้นไป
ปะตู๋โขง หรือประตูโขง ส่วนใหญ่มีส่วนโครงสร้างโค้งหรือโก่งงอขึ้นไปบรรจบตรงส่วนยอด โดยลักษณะของโขงใกล้เคียงกับความหมายของซุ้มในภาษาพื้นบ้านทั่วไป
ช่องประตูโขงเป็นช่องลอดผ่านแบบพิเศษกว่าประตูโดยทั่วไปที่เป็นประตูห้อง ประตูเรือน หรือประตูรั้ว
กล่าวคือ ตั้งใจสร้างสรรค์ ให้เป็นช่องประตูทางเข้าพื้นที่พิเศษ เช่น พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ในเขตพุทธาวาสของวัด ทางเข้าตำหนักราชวัง ทางเข้าอุโบสถวิหาร ทางเข้าลานประทักษิณของพระบรมธาตุเจดีย์
ซึ่งสร้างอย่างแข็งแรง ประณีต สวยงาม
สันนิษฐานว่าในภาคเหนือเริ่มมีการสร้างประตูโขง หรือซุ้มโขง เมื่อมีศาสนาเข้ามา คือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ที่ได้รับอิทธิพลขอมโบราณ ที่มีศูนย์กลางอยู่ตอนกลางประเทศไทย ซึ่งมีคติการสร้างซุ้มประตูเข้าบริเวณและเข้าสู่ภายในเทวาลัย อันเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพ สัญลักษณ์ของเทพเจ้า เช่น พระศิวะ และพระนารายณ์ ซึ่งรับมาจากอินเดีย
ต่อมา ในสมัยทวารวดีได้มีอำนาจเหนือขอม และขยายอำนาจขึ้นมาสู่ดินแดนล้านนา ตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวีในพุทธศตวรรษที่ 12
ทำให้ศิลปะและสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์รูปแบบปราสาท เทวาลัย และซุ้มโขง ที่ได้รับจากอินเดีย มาพัฒนาในสมัยขอมต่อเนื่องถึงสมัยทวารวดี และหริภุญไชย
ซึ่งพบหลักฐานเท่าที่หลงเหลือในศิลปะพระเครื่อง ภาพแกะสลัก (พบมากในใบเสมา) และในสมัยโยนกนาคพันธุ์ที่ร่วมสมัยเดียวกันกับหริภุญไชยมีการนับถือพุทธศาสนา มาจนสมัยหิรัญนครเงินยางและอาณาจักรล้านนา รับพุทธศาสนาและรูปแบบพุทธศิลป์และสถาปัตยกรรมของอินเดียผ่านมาทางพุกาม
จนเมื่อพญามังรายมหาราชได้ตีหริภุญไชยและพุกาม จึงได้รวบรวมช่างจากเชียงแสน ลำพูน และพุกาม สร้างสรรค์ผสมผสานศิลปสถาปัตยกรรมขึ้นเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์งดงามทรงคุณค่าของล้านนา
จากนั้นรูปแบบศิลปสถาปัตยกรรมจึงได้มีพัฒนาการรูปแบบมาจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เริ่มแรกประตูโขงสร้างโดยใช้วัสดุหินศิลา
ภายหลังใช้การก่ออิฐสอปูน มีการตกแต่งด้วยปูนปั้นและเครื่องเคลือบ
ประตูโขงทางเข้าเขตพุทธาวาสของวัด อุโบสถ และวิหาร มีพุทธคติตกแต่งให้มีรายละเอียด สื่อความหมายเป็นประตู เชื่อมต่อแดนโลกมนุษย์และสวรรค์ อันเป็นที่ตั้งของป่าหิมพานต์บริเวณเชิงเขาพระสุเมรุ
ซึ่งบนยอดเขาพระสุเมรุนั้นเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังแดนทิพย์ แดนสวรรค์ แดนพรหม และสูงสุดคือนิพพาน
ลวดลายปูนปั้นเครื่องประดับประตูโขงแสดงความหมายโดยตกแต่งเป็นรูปต้นไม้ดอกไม้ สัตว์ ในหิมพานต์ เช่น หงส์ กินรี นกหัสดีลิงค์ มกร มอม ลวง คชสีห์ คนธรรพ์ และนาค
ในพิธีเทศน์มหาชาติหรือการตั้งธรรมหลวง ในวันพระใหญ่งานบุญสำคัญ เช่น ประเพณีขึ้นปีใหม่มหาสงกรานต์ ออกพรรษา และยี่เป็ง มีการจัดพื้นที่ตั้ง ธรรมาสน์สำหรับการเทศนาของพระภิกษุ มีการตกแต่งซุ้มและล้อมรั้วราชวัตร กำหนดเขตเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์
สะท้อนสัญลักษณ์ของป่าหิมพานต์ ที่เป็นทางผ่านสู่แดนทิพย์ •
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022