เปิดผลงาน 3 เดือน อว. ปักธงขับเคลื่อนอนาคตประเทศ

ถือเป็นงานใหญ่รับปี 2567 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำโดย น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการ อว. จัดแถลงผลงาน 3 เดือน พร้อมวางแนวทางอนาคตของ อว.ในการขับเคลื่อนอนาคตของประเทศ ในงาน Future Thailand

งานนี้มีชาวอุดมศึกษา ทั้งผู้บริหาร อว. อธิการบดี อาจารย์ นักวิจัย ให้ความสนใจเข้าร่วมกว่า 800 คน

โดย น.ส.ศุภมาสระบุว่า กว่า 3 เดือนที่ผ่านมา อว.ได้วางแนวทางและขับเคลื่อนแผนงานสำคัญหลายอย่าง ที่ตรงกับความต้องการของนักเรียนนักศึกษา ผู้ปกครอง ผู้ประกอบการและประชาชน ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 ด้านคือ ด้านอุดมศึกษา, ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม และการแก้ปัญหาประเทศด้วยนวัตกรรม

ด้านอุดมศึกษา มีผลงาน เช่น การลดความเหลื่อมล้ำและกระจายโอกาสการเข้าถึงการศึกษาในระดับอุดมศึกษา การพลิกโฉมมหาวิทยาลัย การผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรมในมหาวิทยาลัยสู่เชิงพาณิชย์ และศูนย์นวัตกรรมแห่งอนาคต เพื่อเยาวชนไทยสู่สากล (Futurium)

ทั้งนี้ อว.เชื่อว่า การเรียนเปลี่ยนชีวิตได้ จึงเริ่มจากการสานงานเก่า คือ การสร้างโอกาส ลดความเหลื่อล้ำ ให้นักเรียนได้เข้าสู่มหาวิทยาลัยได้ง่ายขึ้น จึงได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยในการยกเว้นค่าสมัครคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา หรือทีแคส ในรอบแอดมิชชั่น ทั้ง 10 อันดับ

ส่วนในปีต่อไป จะพยายามลดค่าใช้จ่ายในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้น้อยลงและในอนาคต เพื่อให้เด็กสามารถเข้าสอบโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเลย

การพลิกโฉมประเทศไทย จัดหลักสูตรให้เหมะสมกับบริบท ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง สนับสนุนให้มหาวิทยาลัยจัดทำเครดิตแบงก์ หรือธนาคารหน่วยกิต และจัดทำระบบคลังหน่วยกิตกลาง หรือเครดิตแบงก์ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต การผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรมในมหาวิทยาลัยสู่เชิงพาณิชย์ และศูนย์นวัตกรรมแห่งอนาคต เพื่อเยาวชนไทยสู่สากล

ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม มีผลงาน เช่น ดาวเทียมของไทย (THEOS-2) รถไฟต้นแบบที่ออกแบบและผลิตโดยคนไทย

การพัฒนาเทคโนโลยีและยกระดับรถ EV สู่อุตสาหกรรม และการส่งเสริมและสนับสนุนสตาร์ตอัพ การพัฒนาเทคโนโลยีและยกระดับรถ EV สู่อุตสาหกรรมวิจัย จัดสรรทุนวิจัย และศูนย์ทดสอบรถยนต์ไฟฟ้า EV รวมทั้งให้มหาวิทยาลัยและหน่วยงานภายใต้กระทรวง อว. ใช้รถ EV โดยเฉพาะรถบัสหรือรถสวัสดิการของมหาวิทยาลัย ผลักดันให้มีการผลิตกำลังคนทางด้านนี้มากขึ้น เป็นต้น

 

นอกจากนี้ ยังมีผลงานการผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรมในมหาวิทยาลัยสู่เชิงพาณิชย์ การเริ่มจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมแห่งอนาคตเพื่อเยาวชนไทยสู่สากล (Futurium) การสนับสนุนสตาร์ตอัพ รถไฟต้นแบบที่ออกแบบและผลิตโดยคนไทย การพัฒนาเทคโนโลยีและยกระดับรถยนต์ไฟฟ้า EV สู่อุตสาหกรรม รวมทั้งการขยายผล AI เพื่อคนไทย หรือ “โอเพ่นไทยจีพีที” และการใช้แอพพ์ “ทราฟฟี่ ฟองดูว์” เพื่อแก้ปัญหาประชาชน เป็นต้น

การแก้ปัญหาประเทศด้วยนวัตกรรม มีผลงาน เช่น นวัตกรรมการจัดการ PM2.5 AI เพื่อคนไทยหรือ “โอเพ่นไทยจีพีที” “ทราฟฟี่ ฟองดูว์” เพื่อแก้ปัญหาประชาชน และนวัตกรรมการจัดการและแปรรูปวัสดุรีไซเคิลครบวงจร

นอกจากงานที่ได้ทำมาแล้ว ยังถือโอกาสนำเสนอแนวทางในการทำงานต่อไปในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายหลักที่ได้มอบให้กระทรวง อว. คือ “เรียนดี มีความสุข มีรายได้” และ “วิจัย นวัตกรรมดี ตอบโจทย์ ตรงความต้องการ”

แนวทางในการทำงานต่อไปในอนาคตประกอบด้วย 9 ประเด็นที่น่าสนใจคือ

1. เพิ่มความช่วยเหลือให้นักเรียนได้เข้าสู่มหาวิทยาลัยได้มากขึ้น ‘อยากเรียนต้องได้เรียน’ สนับสนุนให้มหาวิทยาลัยจัดสรรทุนการศึกษา จัดให้มีเซ็นเตอร์กลางจับคู่ระหว่างเด็กที่อยากได้ทุน และมหาวิทยาลัยที่มีทุนให้

2. เรียนมีความสุข มีรายได้ ระหว่างเรียน ซึ่งทุกมหาวิทยาลัยมีศูนย์ดูแลสุขภาพเด็กอยู่แล้ว ให้นักศึกษาได้ระบายความในใจ เพื่อช่วยเหลือเด็ก และพบว่า หลายแห่งได้ช่วยเหลือเด็กที่คิดจะทำร้ายตัวเอง ให้กลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ส่วนการมีรายได้ระหว่างเรียน ก็ส่งเสริมให้สถานประกอบการเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา

3. พัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมสำหรับคนไทยทุกคน จัดทำแอพพลิเคชั่นในการสืบค้นงานวิจัย เพื่อช่วยให้มีการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง

4. เตรียมจัดงาน อว. แฟร์ มหกรรมสินค้านวัตกรรมไทยสู่ตลาดโลก โดยจะจัดในช่วงเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้

5. จัดทำพิพิธภัณฑ์นวัตกรรมชั้นนำของอาเซียน

6. เดินหน้า หนึ่งอำเภอหนึ่งนวัตกรรม ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับทุกมหาวิทยาลัย จัดให้มีศูนย์ อว.ประจำถิ่น เพื่อช่วยเหลือชุมชน ทั้งเรื่องการเกษตร ที่ให้คำปรึกษาและประสานงานกับ อว.ในการช่วยเหลือเบื้องต้น

7. เปิดศักราชใหม่อุตสาหกรรมอวกาศไทยต่อยอดคีออส-2

8. อว.ขับเคลื่อนซอฟต์เพาเวอร์ไทยสู่ระดับโลก อัพสกิล รีสกิล พัฒนาทักษะฝีมือ ในด้านต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ

9. จัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาการศึกษา และสนับสนุนนักวิจัยและมหาวิทยาลัย และจะพยายามลดระยะเวลาในการพัฒนาทุน เพื่อให้งานวิจัยที่จะเกิดขึ้นมีความทันสมัย และทันเวลา

 

กลับมาที่ด้านการศึกษา ทุกคนได้แสดงพลังของ อว. ในการที่จะขับเคลื่อนอนาคตของประเทศไทย และจะเป็นผู้มีส่วนสำคัญอย่างมากในการดูแลการอุดมศึกษา การวิจัยและนวัตกรรม ซึ่งเชื่อว่า พลังของพวกเราชาว อว. จะทำให้อุดมศึกษาไทยเปลี่ยนไปเป็น Education 6.0

ซึ่งจะเป็นการนำ AI และ Metaverse มาช่วยในการเรียนการสอน และเป็นการเรียนรู้แบบ Immersive Education ที่เป็นการศึกษาแบบไร้รอยต่อระหว่าง Offline และ Online โดยทางอว.ได้ขอความร่วมมือกับท่านอธิการบดีทุกๆ มหาวิทยาลัย ในการสนับสนุนนโยบายของดิฉันใน 6 ประเด็น ดังนี้

1. ปรับกระบวนการจัดการศึกษา โดยเฉพาะในสาขาที่มีความต้องการสูงที่สามารถเอื้อให้นักศึกษา สามารถจบการศึกษาได้เร็วกว่า 4 ปี

2. พิจารณาปรับกระบวนการจัดการศึกษาและหลักสูตรให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะสมัยใหม่ที่จำเป็นต่อการทำงาน เช่น AI, Data Science, Cloud, Coding, E-Commerce เป็นต้น

3. ร่วมกันจัดทำหลักสูตรที่เป็นการเรียนรู้แบบ Experiential Learning และ Entrepreneurial Education เช่น สหกิจศึกษา CWIE บัณฑิตพันธุ์ใหม่ ยุวชนอาสา หรือในรูปแบบอื่นๆ มากขึ้น

4. ร่วมกันจัดทำ skill transcript เพื่อช่วยระบุทักษะที่นักศึกษาได้เรียนรู้และพัฒนาในแต่ละปี

5. ร่วมกันจัดทำระบบคลังหน่วยกิตกลาง (National Credit Bank) และระบบคลังหน่วยกิต (Credit Bank) เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต Life-long Learning

6. สนับสนุนให้มีการเรียนการสอน ทำวิจัย จัดสรรทุนวิจัย จัดตั้งศูนย์ทดสอบ รถ EV และให้หน่วยงานภายใต้กระทรวง อว. และให้มหาวิทยาลัยใช้รถ EV โดยเฉพาะรถบัสหรือรถสวัสดิการของมหาวิทยาลัย

“จากผลงานที่ได้ทำมาในช่วง 3 เดือน และงานที่จะทำต่อไปในอนาคต นโยบายสำหรับมหาวิทยาลัยและหน่วยงานวิจัย รวมทั้งความพร้อมของบุคลากรของกระทรวง อว. ทำให้มั่นใจและเชื่อมั่นว่า อว.จะเป็นกระทรวงสำคัญในการช่วยพัฒนาอนาคตของประเทศไทย” น.ส.ศุภมาสกล่าว

คงต้องจับตาว่า อว.ภายใต้การกุมบังเหียนของรัฐมนตรีศุภมาส จะเดินหน้าพัฒนาได้ตามเป้าหมายหรือไม่ •

 

| การศึกษา