ฮามาส-อิสราเอล ความขัดแย้งครั้งที่ 5 (12)

จรัญ มะลูลีม

ฉากทัศน์ของสงครามฮามาส-อิสราเอล (ต่อ)

ฉากทัศน์อื่นๆ ก็คือการต่อต้านสงครามที่กำลังกลายเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการรณรงค์ให้มีการหยุดฆ่าเด็กไร้เดียงสาโดยผู้สนับสนุนปาเลสไตน์เหล่านี้เดินขบวนอยู่ภายในสนามบินสคิปโพลในอัมสเตอร์ดัม

ในขณะที่เยเมนประกาศว่าเรืออิสราเอลทุกลำในทะเลแดงจะถูกกำหนดเป้าหมาย

ส่วนการเคลื่อนไหวในโลกอาหรับไม่ว่าจะเป็นผลการประชุมของ OIC และสันนิบาตอาหรับก็อาจเป็นปัจจัยที่จะทำให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) สามารถผ่านมติให้อิสราเอล-ฮามาสหยุดยิงเพื่อเปิดทางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

ในการโจมตีโรงพยาบาลอัล-ชิฟานั้น อิสราเอลยืนยันว่าโรงพยาบาลแห่งนี้เป็นที่ตั้งของกองกำลังฮามาส ซึ่งจนถึงปัจจุบันก็ไม่เคยมีหลักฐานใดมาพิสูจน์ให้เห็นตามข้ออ้างของอิสราเอล

การโจมตีโรงพยาบาลแห่งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก รวมทั้งแพทย์ พยาบาล ผู้สื่อข่าว โดยอิสราเอลได้นำเสนอ “ภาพ 3 มิติ” ที่แสดงให้เห็นเครื่องมือทางทหารของฝ่ายฮามาส

แต่เมื่อทหารอิสราเอลได้เข้าไปในโรงพยาบาลจริงๆ ก็บอกว่ายังหาอุปกรณ์ทางทหารของฮามาสไม่พบ

 

ด้วยเหตุนี้เรื่องอื้อฉาว “ของกองทัพอิสราเอลที่โรงพยาบาลอัล-ชิฟา” จึงได้รับการวิพากษ์อยู่ทั่วไป ทั้งนี้ กองกำลังป้องกันประเทศของอิสราเอล (IDF) ได้นำ “ลัง” เข้ามาในโรงพยาบาล โดยอ้างว่าเป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์ให้การช่วยเหลือทางทหาร

แต่จริงๆ แล้วในลังนั้นบรรจุอาวุธ เสื้อผ้า และอุปกรณ์ทางทหาร เตรียมไว้สำหรับการ “จัดฉาก” ภายในโรงพยาบาล การเปรียบเทียบภาพภายนอกของลัง ที่ถูกเผยแพร่โดยกองกำลัง IDF และวิดีโอที่พวกเขาเผยแพร่ เผยให้เห็นว่ามีอาวุธอยู่ข้างใน สังเกตได้จาก “โลโก้บนลัง” ที่เป็นโลโก้เดียวกันกับที่เห็นในวิดีโอ

อย่างไรก็ตาม อิสราเอล “อัปโหลดวิดีโออีกครั้ง” เพราะลืม “เบลอ” แล็ปท็อป แล็ปท็อปเครื่องนี้เป็นแล็ปท็อปที่กำลัง “ล็อกอิน” อยู่แล้ว โดยมีรูป “ทหารผู้หญิง” ปรากฏอยู่

ทั้งนี้ อิสราเอลได้จัดฉากว่าพบอาวุธและเครื่องมือข่าวกรองของฮามาสในโรงพยาบาลอัล-ชิฟา

โดยเครื่องมือทางการแพทย์เหล่านี้สื่อหลายสำนักได้นำมาเปิดเผยในเวลาต่อมา สมกับคำพูดที่ว่าเมื่อเกิดความขัดแย้งและสงครามความจริงย่อมถูกทำลายไปก่อน เหมือนกับเฮลิคอปเตอร์ของทหารอิสราเอลจำนวนหนึ่งที่ยิงกระสุนลงมาถูกชาวอิสราเอลจำนวนหนึ่งที่กำลังแสดงดนตรีในคืนวันที่ 7 ตุลาคม แล้วบอกว่าคนเหล่านี้ถูกสังหารโดยกลุ่มฮามาสทั้งหมด

มีการอพยพผู้ป่วยราว 200 ราย รวมถึงเด็กที่ได้รับบาดเจ็บจากไฟไหม้ ท่ามกลางการต่อสู้อันดุเดือดนอกโรงพยาบาลมาหลายวันแล้ว จนถึงเวลานี้ผู้คนหลายร้อยคนได้อพยพออกไปทางใต้แล้ว

อิสราเอลข่มขู่ที่จะเริ่มปฏิบัติการที่กว้างขึ้นในฉนวนกาซาตอนใต้ ซึ่งผู้คนหลายแสนคนที่หลบหนีไปทางเหนือได้อัดแน่นอยู่ในศูนย์พักพิงที่ดำเนินการโดยสหประชาชาติซึ่งมีอาหาร น้ำ และสิ่งของจำเป็นพื้นฐานเหลือน้อยลง

 

สําหรับกลุ่มฮามาส การหยุดยิงชั่วคราวจะให้โอกาสในการรวมกลุ่มใหม่หลังจากหลายสัปดาห์ของการสูญเสียอย่างหนักอย่างเห็นได้ชัด ยะห์ยา ซินวาร์ ผู้นำกลุ่มฮามาส ซึ่งเชื่อกันว่ายังมีชีวิตอยู่และซ่อนตัวอยู่ในฉนวนกาซาอ้างว่าการปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์เป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ และเป็นการประกาศชัยชนะหากสงครามสิ้นสุดลง

ภายใต้ข้อตกลงพักรบ ตัวประกัน 50 คนจะได้รับการปล่อยตัวเป็นระยะๆ เพื่อแลกกับการปล่อยตัวตามที่กลุ่มฮามาสระบุว่าเป็นนักโทษชาวปาเลสไตน์ 150 คน โดยผู้หญิงและเด็กจะได้รับการปล่อยตัวก่อน ในขณะที่อิสราเอลกล่าวว่าการพักรบจะขยายเวลาเพิ่มอีก 1 วันสำหรับตัวประกันทุกๆ 10 คนที่ได้รับการปล่อยตัว

การกลับมาของตัวประกันอาจสร้างกำลังใจขึ้นในอิสราเอล ที่ซึ่งชะตากรรมของพวกเขาเข้าครอบงำประเทศ ครอบครัวของตัวประกันได้จัดการเดินขบวนประท้วงครั้งใหญ่เพื่อกดดันรัฐบาลให้นำพวกเขากลับบ้าน

กาตาร์กล่าวว่าการหยุดยิงจะอนุญาตให้ “ขบวนรถเพื่อมนุษยธรรมและความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์มีจำนวนมากขึ้น” เข้าสู่ฉนวนกาซา รวมถึงเชื้อเพลิงด้วย แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณ

อิสราเอลยกเลิกการนำเข้าเชื้อเพลิงทั้งหมดในช่วงเริ่มต้นของสงคราม ทำให้เกิดไฟฟ้าดับทั่วทั้งบ้านและโรงพยาบาลต้องพึ่งพาเครื่องปั่นไฟ ซึ่งถูกบังคับให้ปิดตัวลงอย่างต่อเนื่อง

กระทรวงยุติธรรมของอิสราเอลเผยแพร่รายชื่อนักโทษ 300 คนที่มีสิทธิ์ได้รับการปล่อยตัว ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นที่ถูกควบคุมตัวในรอบปีที่ผ่านมาด้วยโทษฐานขว้างก้อนหินและความผิดเล็กๆ น้อยๆ อื่นๆ

สงครามปะทุขึ้นเมื่อกลุ่มติดอาวุธกลุ่มฮามาสหลายพันคนบุกโจมตีทางตอนใต้ของอิสราเอล คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 1,200 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และจับตัวประกันได้หลายราย รวมทั้งเด็กทารก ผู้หญิง และผู้สูงอายุ รวมถึงทหาร

คาดกันว่ากลุ่มฮามาสจะเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษระดับสูงจำนวนมาก ซึ่งก็เกิดขึ้นจริงในเวลาต่อมา

 

ผู้คนมากกว่า 1.7 ล้านคน หรือสามในสี่ของประชากรกาซา ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นในสงครามครั้งนี้ คนส่วนใหญ่จะไม่สามารถกลับบ้านได้ เนื่องจากได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง รวมทั้งการมีอยู่ของกองทหารอิสราเอลทางตอนเหนือของกาซา

อิสราเอลได้ห้ามการเข้าฉนวนกาซานับตั้งแต่เริ่มสงคราม ยกเว้นความช่วยเหลือเล็กน้อยที่เข้ามาผ่านทางข้ามราฟาห์ของอียิปต์ กลุ่มผู้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ปฏิบัติการในฉนวนกาซากล่าวว่าการหยุดยิงจะสั้นเกินไป และขีดความสามารถของทางข้ามราฟาห์ไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการเร่งด่วน

อิสราเอลทิ้งระเบิดถล่มฉนวนกาซาอย่างไม่ลดละ และตามรายงานของรัฐบาลที่อยู่ภายใต้การดูแลของฮามาส ระบุว่า กองกำลังของอิสราเอลได้สังหารชาวปาเลสไตน์ไปแล้วกว่า 14,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก

จากความพยายามของหลายฝ่ายที่มีกาตาร์เป็นหัวหอกการผ่อนปรนชั่วคราวเกิดขึ้นในขณะที่อิสราเอลและฮามาสตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 4 วัน และแลกเปลี่ยนตัวประกันบางส่วนและนักโทษชาวปาเลสไตน์บางส่วน

แม้ว่าอิสราเอลจะยืนยันว่าจะ “ทำลาย” กลุ่มฮามาสต่อไปก็ตาม

 

การหยุดยิงสี่วันในฉนวนกาซาระหว่างอิสราเอลและฉนวนกาซาเริ่มขึ้นในเช้าวันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 อิสราเอลกล่าว และเสริมว่าความช่วยเหลือดังกล่าวจะตามมาโดยเร็วที่สุด ผู้นำในการเจรจาจากกาตาร์กล่าวว่า ความล่าช้าของการเจรจาจะนำเอาความเจ็บปวดมาให้กับผู้ที่หวังว่าจะได้รับการบรรเทาจากข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งก็คือการปล่อยตัวตัวประกันหลายสิบคนที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสจับตัวเอาไว้ รวมทั้งชาวปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอลคุมขังไว้

ขณะเดียวกัน กลุ่มฮิสบุลลอฮ์ติดอาวุธได้ยิงจรวดมากกว่า 50 ลูกใส่ป้อมทหารทางตอนเหนือของอิสราเอล หนึ่งวันหลังจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่บ้านแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเลบานอน สังหารนักรบอาวุโสของกลุ่มนี้ไป 5 คน คลื่นจรวดที่ส่งข้ามชายแดนถือเป็นการทิ้งระเบิดที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่ฮิสบุลลอฮ์เริ่มโจมตีที่ทำการของอิสราเอลทางตอนเหนือของประเทศในช่วงเริ่มต้นของสงครามอิสราเอล-ฮามาส

อียิปต์กล่าวว่าจะส่งน้ำมันดีเซล 130,000 ลิตรต่อวันไปยังฉนวนกาซาเมื่อเริ่มการสงบศึก ทั้งนี้ น้ำมันดีเซล 130,000 ลิตร และรถบรรทุกก๊าซ 4 คันจะถูกส่งไปยังฉนวนกาซาทุกวัน เมื่อข้อตกลงหยุดยิง 4 วันเริ่มขึ้น

ดิอา รัชวาน (Diaa Rashwan) หัวหน้าฝ่ายบริการข้อมูลแห่งรัฐ (SIS) ของอียิปต์ กล่าวในแถลงการณ์เมื่อช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายนว่า รถบรรทุกช่วยเหลือ 200 คันจะเข้าสู่ฉนวนกาซาทุกวัน

ฮามาส อิสราเอล และปาเลสไตน์ได้เริ่มการสงบศึกสี่วันในวันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน เวลา 07.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (05.00 GMT)