วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย เสถียร จันทิมาธร / เคี่ยวกรำ ตลอดเดือนเศษ (119)

เสถียร จันทิมาธร

วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร

เคี่ยวกรำ ตลอดเดือนเศษ (119)

มีความเป็นไปได้ว่า “มังกรหยก” ฉบับที่ จำลอง พิศนาคะ กับฉบับที่ น.นพรัตน์ กับฉบับที่ ว. ณ เมืองลุง นำมาแปลอาจมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย

ฉบับของ จำลอง พิศนาคะ อาจจะเป็นยุคแรก

ฉบับของ น.นพรัตน์ และฉบับของ ว. ณ เมืองลุง อาจจะเป็นยุคหลังซึ่งผ่านการปรับปรุงในระดับที่แน่นอนหนึ่ง

น่าสนใจก็ตรงที่ น.นพรัตน์ กับ ว. ณ เมืองลุง น่าจะเป็นอันเดียวกัน

โดยเฉพาะเมื่อนำเอา “ของวิเศษ” อันอินทรีอัปลักษณ์ป้อนให้กับเอี้ยก่วยหลังจากสิ้นสติและทุกเช้าภายหลังการฝึกปรือวิทยายุทธ์ในกาลต่อมา

ฉบับ จำลอง พิศนาคะ ยืนยันว่าเป็น “ผลไม้”

ฉบับ น.นพรัตน์ กับ ว. ณ เมืองลุง ยืนยันในเบื้องต้นว่าเป็น “ลูกกลมสีม่วงเข้ม” หรือ “ก้อนกลมสีม่วงคล้ำ”

และต่อมาระบุตรงกันว่าเป็น “ดี”

จากนั้นก็ค่อยไขความให้เห็นอย่างเด่นชัดว่าเป็นดีของงู ซึ่งจะสัมผัสได้จากรายละเอียดการอธิบายเป็นลำดับ

ต้องอ่าน

เริ่มจาก น.นพรัตน์ ตอนนี้เอี้ยก่วยแม้เพียงหลงเหลือแขนซ้ายข้างเดียวแต่ทุกวันรับประทานดีงูซึ่งไม่ทราบว่าอินทรีวิเศษจัดหามาจากที่ใด กำลังแขนกลับเพิ่มพูนขึ้นโดยไม่รู้ตัว

วันนี้เอี้ยก่วยออกไปเดินเล่น

เห็นงูพิษ 3 ตัวตายอยู่บนพื้นกลางหุบเขา ส่วนท้องแยกออก ลำตัวงูถูกกรงเล็บตะกุยกลายเป็นเลือดเนื้อเลอะเลือน ทราบว่าสิ่งที่ตัวเองรับประทานเป็นงูพิษจริงๆ เพียงแต่งูพิษเหล่านั้นลำตัวสะท้อนประกายสีทอง ในชีวิตไม่เคยพบเห็นมาก่อนย่อมไม่รู้จักชื่อ

เห็นว่าอินทรีวิเศษทรงพลังถึงเพียงนี้คงสืบเนื่องจากรับประทานดีงูของงูประหลาดเหล่านี้เป็นจำนวนมากๆ

ผ่านพ้นไปเดือนเศษเอี้ยก่วยพอจะต้านทานพลังอันมหาศาลของอินทรีวิเศษได้

ขานรับด้วยสำนวนแปล ว. ณ เมืองลุง กระบี่ที่แทงตีโต้ไปมีพลังลมดังครืนๆ ต้องปลาบปลื้มยินดีเป็นยิ่งนัก

พลังฝีมือฝึกถึงระดับนี้ “คล้ายขึ้นสู่ยอดเขาไท้ซัว เห็นแผ่นดินแคบเล็กนิดเดียว”

สำนวนแปล จำลอง พิศนาคะ ไม่กล่าวถึงซากงูถูกกรงเล็บตะกุย แต่เน้นให้เห็นถึงผลลัพธ์หลังได้รับของวิเศษจากอินทรีอัปลักษณ์

ก้มลงหยิบกระบี่ขึ้นมาก็รู้สึกคล้ายกับว่ามันเบาว่องไปสักหลายส่วน

ความเป็นจริงที่เอี้ยก่วยเองประสบก็คือ ฝึกซ้อมกระบี่อยู่หลายวัน เมื่อถือกระบี่หนักรู้สึกไม่หนักอึ้งเช่นตอนแรกอีก

ขณะที่โถมฟาดฟันเริ่มถนัดมือทีละน้อย

พร้อมกันนั้นยิ่งมารู้สึกว่าเพลงกระบี่ที่ร่ำเรียนมาพลิกแพลงซับซ้อนเกินไป ลวดลายหลากหลายเกินไป หวนนึกถึงต๊กโกวคิ้วป่ายจารึกข้อความบนหินเขียนว่า “กระบี่หนักไร้คม ใช้ได้คล่องแคล่ว”

ห้วงจินตนาการนี้ยังเหนือกว่าท่ากระบี่พิสดารทั้งหมดในแดนดิน

ทาง 1 ต่อสู้กับอินทรีวิเศษ ทาง 1 นึกทบทวนสภาวะแนวทางหวนของท่ากระบี่ รู้สึกว่ายิ่งเป็นท่ากระบี่ที่หาความพิสดารไม่ได้ ฝ่ายตรงข้ามยิ่งยากต้านทานรับไว้ สมมติเช่นเสือกกระบี่แทงตรงขอเพียงใช้พลังกล้าแข็งดุดัน อานุภาพยังเหนือล้ำกว่าท่ากระบี่ที่พลิกแพลงพิสดารเช่นเพลงกระบี่สุรางคนางค์อีก

ตอนนี้แม้เพียงหลงเหลือแขนซ้ายข้างเดียว แต่ทุกวันรับประทานดีงูซึ่งไม่ทราบว่าอินทรีวิเศษจัดหามาจากที่ใด กำลังแขนกลับเพิ่มพูนขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ผลเป็นอย่างไรเมื่อผ่านไปเดือนเศษ

ด้าน 1 เอี้ยก่วยพอจะต้านรับพลังอันมหาศาลของอินทรีวิเศษได้ ด้าน 1 เมื่อเสือกแทงกระบี่ออกบังเกิดเสียงดังหวีดหวือ

สร้างความปลาบปลื้มประโลมใจยิ่ง

เมื่อมีพลังฝีมือถึงขั้นนี้คล้ายกับขึ้นสู่ภูเขาไท้ซัวเห็นว่าใต้หล้าเล็กยิ่ง หวนนึกถึงวิชาฝ่ามือที่ร่ำเรียนมากลายเป็นไร้คุณค่าความหมายแล้ว

คล้ายกับไร้คุณค่า แต่ความจริงมิได้เป็นเช่นนั้น