ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 29 ธันวาคม 2560 - 4 มกราคม 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | วิถีแห่งอำนาจ |
ผู้เขียน | เสถียร จันทิมาธร |
เผยแพร่ |
วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร
เคี่ยวกรำ ตลอดเดือนเศษ (119)
มีความเป็นไปได้ว่า “มังกรหยก” ฉบับที่ จำลอง พิศนาคะ กับฉบับที่ น.นพรัตน์ กับฉบับที่ ว. ณ เมืองลุง นำมาแปลอาจมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย
ฉบับของ จำลอง พิศนาคะ อาจจะเป็นยุคแรก
ฉบับของ น.นพรัตน์ และฉบับของ ว. ณ เมืองลุง อาจจะเป็นยุคหลังซึ่งผ่านการปรับปรุงในระดับที่แน่นอนหนึ่ง
น่าสนใจก็ตรงที่ น.นพรัตน์ กับ ว. ณ เมืองลุง น่าจะเป็นอันเดียวกัน
โดยเฉพาะเมื่อนำเอา “ของวิเศษ” อันอินทรีอัปลักษณ์ป้อนให้กับเอี้ยก่วยหลังจากสิ้นสติและทุกเช้าภายหลังการฝึกปรือวิทยายุทธ์ในกาลต่อมา
ฉบับ จำลอง พิศนาคะ ยืนยันว่าเป็น “ผลไม้”
ฉบับ น.นพรัตน์ กับ ว. ณ เมืองลุง ยืนยันในเบื้องต้นว่าเป็น “ลูกกลมสีม่วงเข้ม” หรือ “ก้อนกลมสีม่วงคล้ำ”
และต่อมาระบุตรงกันว่าเป็น “ดี”
จากนั้นก็ค่อยไขความให้เห็นอย่างเด่นชัดว่าเป็นดีของงู ซึ่งจะสัมผัสได้จากรายละเอียดการอธิบายเป็นลำดับ
ต้องอ่าน
เริ่มจาก น.นพรัตน์ ตอนนี้เอี้ยก่วยแม้เพียงหลงเหลือแขนซ้ายข้างเดียวแต่ทุกวันรับประทานดีงูซึ่งไม่ทราบว่าอินทรีวิเศษจัดหามาจากที่ใด กำลังแขนกลับเพิ่มพูนขึ้นโดยไม่รู้ตัว
วันนี้เอี้ยก่วยออกไปเดินเล่น
เห็นงูพิษ 3 ตัวตายอยู่บนพื้นกลางหุบเขา ส่วนท้องแยกออก ลำตัวงูถูกกรงเล็บตะกุยกลายเป็นเลือดเนื้อเลอะเลือน ทราบว่าสิ่งที่ตัวเองรับประทานเป็นงูพิษจริงๆ เพียงแต่งูพิษเหล่านั้นลำตัวสะท้อนประกายสีทอง ในชีวิตไม่เคยพบเห็นมาก่อนย่อมไม่รู้จักชื่อ
เห็นว่าอินทรีวิเศษทรงพลังถึงเพียงนี้คงสืบเนื่องจากรับประทานดีงูของงูประหลาดเหล่านี้เป็นจำนวนมากๆ
ผ่านพ้นไปเดือนเศษเอี้ยก่วยพอจะต้านทานพลังอันมหาศาลของอินทรีวิเศษได้
ขานรับด้วยสำนวนแปล ว. ณ เมืองลุง กระบี่ที่แทงตีโต้ไปมีพลังลมดังครืนๆ ต้องปลาบปลื้มยินดีเป็นยิ่งนัก
พลังฝีมือฝึกถึงระดับนี้ “คล้ายขึ้นสู่ยอดเขาไท้ซัว เห็นแผ่นดินแคบเล็กนิดเดียว”
สำนวนแปล จำลอง พิศนาคะ ไม่กล่าวถึงซากงูถูกกรงเล็บตะกุย แต่เน้นให้เห็นถึงผลลัพธ์หลังได้รับของวิเศษจากอินทรีอัปลักษณ์
ก้มลงหยิบกระบี่ขึ้นมาก็รู้สึกคล้ายกับว่ามันเบาว่องไปสักหลายส่วน
ความเป็นจริงที่เอี้ยก่วยเองประสบก็คือ ฝึกซ้อมกระบี่อยู่หลายวัน เมื่อถือกระบี่หนักรู้สึกไม่หนักอึ้งเช่นตอนแรกอีก
ขณะที่โถมฟาดฟันเริ่มถนัดมือทีละน้อย
พร้อมกันนั้นยิ่งมารู้สึกว่าเพลงกระบี่ที่ร่ำเรียนมาพลิกแพลงซับซ้อนเกินไป ลวดลายหลากหลายเกินไป หวนนึกถึงต๊กโกวคิ้วป่ายจารึกข้อความบนหินเขียนว่า “กระบี่หนักไร้คม ใช้ได้คล่องแคล่ว”
ห้วงจินตนาการนี้ยังเหนือกว่าท่ากระบี่พิสดารทั้งหมดในแดนดิน
ทาง 1 ต่อสู้กับอินทรีวิเศษ ทาง 1 นึกทบทวนสภาวะแนวทางหวนของท่ากระบี่ รู้สึกว่ายิ่งเป็นท่ากระบี่ที่หาความพิสดารไม่ได้ ฝ่ายตรงข้ามยิ่งยากต้านทานรับไว้ สมมติเช่นเสือกกระบี่แทงตรงขอเพียงใช้พลังกล้าแข็งดุดัน อานุภาพยังเหนือล้ำกว่าท่ากระบี่ที่พลิกแพลงพิสดารเช่นเพลงกระบี่สุรางคนางค์อีก
ตอนนี้แม้เพียงหลงเหลือแขนซ้ายข้างเดียว แต่ทุกวันรับประทานดีงูซึ่งไม่ทราบว่าอินทรีวิเศษจัดหามาจากที่ใด กำลังแขนกลับเพิ่มพูนขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ผลเป็นอย่างไรเมื่อผ่านไปเดือนเศษ
ด้าน 1 เอี้ยก่วยพอจะต้านรับพลังอันมหาศาลของอินทรีวิเศษได้ ด้าน 1 เมื่อเสือกแทงกระบี่ออกบังเกิดเสียงดังหวีดหวือ
สร้างความปลาบปลื้มประโลมใจยิ่ง
เมื่อมีพลังฝีมือถึงขั้นนี้คล้ายกับขึ้นสู่ภูเขาไท้ซัวเห็นว่าใต้หล้าเล็กยิ่ง หวนนึกถึงวิชาฝ่ามือที่ร่ำเรียนมากลายเป็นไร้คุณค่าความหมายแล้ว
คล้ายกับไร้คุณค่า แต่ความจริงมิได้เป็นเช่นนั้น