REBEL MOON | ‘ต่อต้านจักรวรรดิ’

นพมาส แววหงส์

REBEL MOON | ‘ต่อต้านจักรวรรดิ’

 

Rebel Moon มีชื่อยาวเหยียดต่อท้ายเต็มสตีมว่า Rebel Moon – Part One : A Child of Fire บอกชัดว่าเป็นปฐมบทแห่งภาพยนตร์พหุภาค (จะเป็นไตรภาค จตุรภาค หรือเบญจภาค ก็ไม่ทราบได้) ที่จะตามมาต่อไป ทั้งนี้ทั้งนั้น เห็นจะต้องขึ้นอยู่กับความนิยมของแฟนคลับกันล่ะ

แซ็ก สไนเดอร์ ผู้กำกับฯ ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการหนังซูเปอร์ฮีโร่และแฟนตาซีสงคราม หนังเรื่องเด่นๆ ของเขามีตั้งแต่ 300, Man of Steel, Wonder Woman และ Justice League

หนนี้สไนเดอร์สร้างเค้าโครงเรื่องสำหรับโอเปราในห้วงอวกาศ (space opera) ด้วยจินตนาการของตัวเอง โดยไม่ได้ดัดแปลงมาจากหนังสือหรือสื่ออื่น และร่วมทีมเขียนบทภาพยนตร์กับเคิร์ต จอห์นสตัด และเชย์ แฮตเทน

โดยวางท้องเรื่องให้เกิดในแกแล็กซี่อันไกลโพ้น ณ ที่ซึ่ง “โลกแม่” (Motherworld) ครองจักรวรรดิแห่งเอกภพด้วยกำลังทหาร ซึ่งสู้รบปรบมือพิชิตชัยข้ามดวงดาวกันมานานนับศตวรรษ จักรพรรดิองค์สุดท้ายถูกลอบปลงพระชนม์ พร้อมเจ้าหญิงอิสสา พระธิดาผู้ทรงพรแห่งการเยียวยาและชุบชีวิต

วุฒิสมาชิกคนสำคัญ บาลิซาริอัส ประกาศตนเป็นผู้สำเร็จราชการและครอบครองอาณานิคมในลักษณะจักรวรรดินิยมตามประเพณี ด้วยแรงสนับสนุนจากนายพลอัตติคัส โนเบิล (เอ็ด สไกรน์) ผู้โหดร้าย

Rebel Moon เปิดเรื่องที่ดาวเคราะห์อาณานิคมชื่อ เวลต์ ในหมู่บ้านเกษตรกรที่พรวนดินไถนาเพาะปลูกธัญญาหารเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง และบริหารจัดการให้มีผลผลิตพอเพียงจนจำหน่ายได้บ้าง

โครา (โซเฟีย บูเทลลา) เป็นสาวแกร่งใจเด็ดที่ชายชาวบ้านคนหนึ่งช่วยให้รอดจากความตาย และเลี้ยงดูประดุจลูกสาว เกษตรกรหนุ่มหัวก้าวหน้าชื่อ กันนาร์ (มิเคียล ฮุยสแมน) พยายามสานสัมพันธ์ทอดสะพานให้ข้าม แต่ทว่าสาวเจ้ากลับเมินเฉยต่อไมตรี และเก็บตัวอยู่คนเดียวเงียบๆ

ขนบประเพณีและวิถีชีวิตของเกษตรกรดำเนินไปอย่างเรียบง่ายใกล้ชิดธรรมชาติ

จวบจนกระทั่งวันดีคืนดี…หรือควรจะพูดให้ถูกว่า วันร้ายคืนร้าย…ก็มียานลำมหึมาเดินทางข้ามอวกาศมาโผล่ทะมึนบนท้องฟ้าใกล้หมู่บ้าน โคราเห็นเข้าก็รีบวิ่งไปตีระฆังเตือนภัยแก่ชาวบ้านให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์

ชาวบ้านที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ยังพาซื่อต้อนรับคนแปลกหน้าด้วยอัธยาศัยไมตรี

อาคันตุกะซึ่งนำทีมโดยนายพลโนเบิล ลงจากยานลำเล็กมาพบผู้นำชุมชนชื่อ ซินดรี (คอรีย์ สโตลล์) เพื่อขอให้ส่งธัญญาหารเป็นเสบียงบำรุงกำลังกองทัพของจักรวรรดิที่กำลังออกตระเวนตามล่ากลุ่มกบฏที่เรียกตัวเองว่า ชนเผ่าบลัดแอ็กซ์

และเมื่อซินดรีแสดงท่าทีไม่สวามิภักดิ์ โนเบิลก็เชือดไก่ให้ลิงดูต่อหน้าคนทั้งหมู่บ้าน และยื่นคำขาดให้ชาวบ้านเตรียมเก็บเกี่ยวผลผลิตไว้ส่งมอบให้เมื่อยานของเขาจะกลับมาอีกไม่ช้าไม่นาน

เมื่อกันนาร์มีท่าทีประนีประนอมอยากเป็นพันธมิตรกับกองกำลังของโนเบิล โคราผู้เงียบขรึมก็เก็บข้าวเก็บของสะพายบ่าเตรียมออกจากหมู่บ้านไปโดยไม่ปริปากค้านหรือแสดงความเห็น

แต่เธอก็ยังไปไม่ถึงไหน เนื่องจากไปเจอเข้ากับเหตุการณ์ร้ายกาจที่ทหารจักรวรรดิกำลังย่ำยีบีฑาสาวน้อยผู้บริสุทธิ์ชื่อ แซม (ซึ่งทำท่าว่าจะเป็นตัวละครสำคัญในภาคต่อๆไป) โคราก็เลยแผลงฤทธิ์ด้วยวรยุทธ์ไร้เทียมทานให้ประจักษ์แก่ตา

และตัดสินใจจะช่วยชาวบ้านให้รอดจากการถูกสังหารหมู่ตามที่เธอเชื่อมั่นว่าจะเป็นดังนั้น หลังจากที่เกษตรกรกลุ่มนี้ส่งมอบเสบียงให้แก่กองกำลังของจักรวรรดิแล้ว

โคราออกเดินทางจากหมู่บ้านไปเพื่อไปรวบรวมกำลังพลกลับมาต่อสู้เพื่อชาวบ้าน โดยขอให้กันนาร์เป็นคนนำทาง

เป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในอวกาศ ซึ่งได้พบเห็นเจอะเจอเรื่องราวและผู้คนแปลกๆ สารพัดสารพัน ทั้งมนุษย์ต่างดาว สัตว์ประหลาด และไซบอร์ก

เนื้อหาของหนังเป็นการนำเรื่องเก่า-โดยเฉพาะ Star Wars และ Dune-มาเล่าใหม่ ด้วยแคแร็กเตอร์ชุดใหม่ เหมือนเป็นการรีไซเคิลของเก่าให้คนรุ่นใหม่ดู

การดำเนินเรื่องก็ดูจะซื่อและทื่อเกินไปจนชวนหงุดหงิด อย่างเช่น เมื่อเริ่มออกเดินทางไปด้วยกันสองคน โคราซึ่งแทบไม่เคยปริปากอะไรเกี่ยวกับชีวิตที่ผ่านมาของตน ก็เริ่มเล่าฉอดๆ เป็นอรรถาธิบายตามลำดับเป็นฉากๆ ด้วยเหตุการณ์ร้ายกาจในอดีต ซึ่งทำให้เธอกลายมาเป็นลูกเลี้ยงของศัตรู ผู้ฟูมฟักให้เธอเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งผู้ปกป้องจักรวรรดิ

เป็นสคริปต์หนังที่ใช้การเปิดเรื่อง (exposition) แบบไม่มีชั้นเชิงเอาเลย เสียแต้มไปเยอะกับการเดินเรื่องแบบนี้

ตัวละครที่ได้รับการโปรโมตให้เป็นหน้าเป็นตาของหนัง คือ ไค (ชาร์ลี กันนัม) เป็นเจ้าของยานข้ามอวกาศที่อยู่ดีๆ ก็อาสาจะพาโครากับกันนาร์เดินทางไปหาสมัครพรรคพวกมาช่วยเป็นกบฏต่ออำนาจอันชั่วร้ายของจักรวรรดิ

ไคซึ่งบอกว่าตนเป็นนักเสี่ยงโชค/นักฉวยโอกาส เสนอให้ความช่วยเหลือทันทีโดยไม่มีลังเลหรือต่อรองเรียกร้องค่าจ้าง

แรกทีเดียวนึกเดาว่าบทของไคจะเป็นเหมือนฮัน โซโล ที่แฮร์ริสัน ฟอร์ด เล่น ในหนัง Star Wars ซะอีก แต่ยังไม่ทันไร ไคก็เปลี่ยนสีเปลี่ยนข้าง และโดนขจัดออกจากเรื่องแบบง่ายๆ เกินคาด

วายร้ายในภาคนี้คือ นายพลโนเบิล ซึ่งฟาดฟันเข่นฆ่ากับฝ่ายผดุงคุณธรรมอย่างถึงพริกถึงขิง จนดูเหมือนจะสิ้นชีพ แต่ผู้ร้ายของพหุภาคยังคงไม่สิ้นลายง่ายๆ จึงกลับฟื้นคืนชีพได้อีก

แต่จะกลายเป็นตัวไซบอร์กหรือทวีอิทธิฤทธิ์ขึ้นแค่ไหนอย่างไร ก็เห็นจะต้องตามดูกันในภาคต่อไปละ

ความน่าสนใจของหนังโอเปราอวกาศแบบนี้คืองานออกแบบโปรดักชั่น เท่าที่เห็นจากภาคแรกนี้ ก็ยังไม่ค่อยน่าประทับใจมาก สัตว์ที่ใช้ขี่แทนม้าบนดาวเวลต์ก็มีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างจากม้านัก

ที่ขัดตาที่สุดเห็นจะเป็นคอสตูมของตัวร้าย ซึ่งสวมเชิ้ตขาวผูกเน็กไทอยู่คนเดียวท่ามกลางทหารฝ่ายจักรวรรดิ ซึ่งดูจะโยงให้เป็นพวกนาซีที่ถูกคนทั้งโลกชิงชังประณาม

คงจะต้องดูกันต่อไปละว่าภาคต่อๆ ไปจะพาเรื่องราวขึ้นเขาลงห้วยไปทางไหน และทำให้คนดูทั้งสนุกไปด้วย ทั้งผูกพันกับแคแร็กเตอร์ไปด้วย ได้ดีกว่าภาคแรกนี้ไหม…

และโปรดักชั่นดีไซน์จะมีอะไรแปลกใหม่ แหวกแนว และน่าตื่นตาได้มากกว่าภาคนี้ไหม…

ภาคสองสร้างไปพร้อมๆ กับภาคแรก จึงมีกำหนดฉายตามมาในอีกไม่นานเกินรอ •

REBEL MOON

กำกับการแสดง

Zack Snyder

แสดงนำ

Sofia Boutella

Djimon Hounsou

Charlie Hunnam

Ed Skrein

Michiel Huisman

ภาพยนตร์ | นพมาส แววหงส์