‘ลิซ่า-เจ๊ไฝ-ไฮโซพก’ คนดังผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี

บทความพิเศษ | ศัลยา ประชาชาติ

 

‘ลิซ่า-เจ๊ไฝ-ไฮโซพก’

คนดังผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี

 

ตลอดปี 2566 แม้จะมีซูเปอร์สตาร์เกิดขึ้นมากมายหลายวงการ แต่โดดเด่นสะดุดตาเป็น “ซูเปอร์สตาร์” แห่งปี 2566 ต้องยกให้ 3 บุคคลนี้ “ลิซ่า-เจ๊ไฝ-ไฮโซพก” ที่สามารถสร้างความโดดเด่นทั้งในระดับประเทศไทจนถึงเวทีโลก

คนแรกคือ “ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล” ซึ่งถือเป็นปีทองของเธอที่สร้างปรากฏการณ์ของเกิร์ลกรุ๊ประดับโลกอย่าง BLACKPINK ชื่อเธอถูกจารึกในประวัติศาสตร์ เมื่อ “Guinness World Records” ประกาศยกย่องให้เธอเป็นศิลปินแห่งวงการเคป๊อปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี และเป็นสถิติที่ 9 ลงบนหนังสือบันทึกของโลก

ปี 2023 เป็นปีที่ยิ่งใหญ่ของวงการเคป๊อป เริ่มจาก 3 สถิติที่ลิซ่าสร้างไว้เมื่อเดือนมกราคม ด้วยการเป็นศิลปินเคป๊อปเดี่ยวคนแรกที่ได้รางวัล MTV Video Music Awards และ MTV Europe Music Awards โดยมีสถิติยอดผู้ติดตามบน IG – อินสตาแกรมทะลุ 100 ล้านผู้ติดตาม ถือว่ามากสุดในบรรดาศิลปินเคป๊อป

เมื่อต้นปีเธอก็สร้างประวัติศาสตร์ “LALISA” เพลงเคป๊อปเพลงแรกโดยศิลปินเดี่ยว ที่มียอดสตรีมถึง 1 พันล้านครั้งบน Spotify นอกจากนี้ วงแบล็กพิงก์ยังกลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่มียอดสตรีมมากที่สุดบน Spotify อีกด้วย

ไม่แค่นั้น “ลิซ่า” ยังเป็นศิลปินเคป๊อปคนแรกที่ถูกจารึกชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศ “Asian Hall of Fame” ประจำปี 2023 ในฐานะ “ไอคอนทางวัฒนธรรม” เมื่อ 4 สาวแบล็กพิงก์เป็นข่าวดังทั่วโลก จากงานเลี้ยงที่พระราชวังบักกิ้งแฮม ประเทศอังกฤษ พร้อมรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จักรวรรดิบริติช (Member of the Order of the British Empire) ชั้น MBE จากสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงยกย่องวัฒนธรรมป๊อปของเกาหลีที่แพร่หลายทั่วโลก และตรัสชื่นชม

สําหรับประเทศไทยชื่อของ “ลิซ่า” ยิ่งทรงพลัง ทุกย่างก้าวของเธอเป็นกระแสสร้างแรงกระเพื่อมที่แฟนคลับหรือต้าวลิซ่าต่างจับตาไม่ห่าง ตั้งแต่ใส่ชุดผ้าไทยไปเที่ยวอยุธยา ทำเอากรุงเก่าแตกอีกครั้ง เมื่อผู้คนแห่ตามรอยเธอ ถึงขั้น “ผ้ามัดหมี่ย้อมครามหมักโคลนลายขอนาค” ขาดตลาด

ล่าสุด ลิซ่ามาเยือนร้านเจ๊ไฝเพื่อร่วมยินดีที่ได้รับรางวัลมิชลินอีกครั้ง พร้อมพาผู้บริหารจากเกาหลีใต้มาด้วย ก็ทำเอาร้านเจ๊ไฝเกือบแตกแทบไม่เหลือพื้นที่ยืน เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติและแฟนคลับมายืนออกันเต็มร้าน

ภาพกอดกันของ “ลิซ่า-เจ๊ไฝ” ได้กลายเป็นประวัติศาสตร์และตำนานในทันที

นอกจากชื่อเสียงที่เป็นฐานทุนแล้ว ไลฟ์สไตล์และความอ่อนน้อมถ่อมตนของ “ลิซ่า” ก็ถือเป็นตัวช่วยที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว

อีกด้านหนึ่ง “เจ๊ไฝ” ในวัย 78 ปี หรือ “เจ๊เปีย-สุภินยา จันสุตะ” เจ้าของตำนานสตรีตฟู้ดระดับมิชลิน 7 ปีซ้อน ที่มีเอกลักษณ์ใส่แว่นกันลมแบบชาวไบก์เกอร์ คุมโทนคอสตูมด้วยเสื้อยืดคอกลมสีกากีหรือสีทหารลายพราง

เมนูสร้างชื่อคือ “ไข่เจียวปู” จานละหนึ่งพันบาท ตอนทำอาหารหน้าเตาถ่าน เจ๊ไฝจะใช้พัดลมหอยโข่งเทอร์โบเป่าเข้าช่องไฟจนเกิดสะเก็ดไฟปลิวว่อนเหมือนดอกไม้ไฟ คล้ายหิ่งห้อยสปีดความเร็ว เห็นแล้วได้อารมณ์มาก

ร้านเจ๊ไฝถือว่าครบเครื่องทั้งรูป-รส-กลิ่น-เสียง โดยเฉพาะกลิ่นเตาถ่านจึงเป็นเสน่ห์ของสตรีตฟู้ดในประเทศที่พัฒนาครึ่งๆ กลางๆ

การพบกันของ “ลิซ่า-เจ๊ไฝ” จึงเป็นไฮไลต์ส่งท้ายปี 2023 ที่ทำให้ย่านประตูผีเป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกอยากมาเช็กอินสักครั้งในชีวิต

ก่อนดังขนาดนี้ เจ๊ไฝโตมากับครอบครัวขายก๋วยเตี๋ยวไก่ จบชั้น ป.4 เคยเป็นลูกจ้างร้านตัดเสื้ออยู่นาน ก่อนมาเป็นแม่ครัวและได้ช่วยแม่ขายอาหาร เมนูแรกคือก๋วยเตี๋ยวสูตรแม่ที่ทำเองทุกขั้นตอน ฝึกฝนจนตั้งร้านตัวเองได้ที่ถนนมหาไชย ในย่านประตูผี

ด้วยแคแร็กเตอร์จึงเป็นจุดแข็งและจุดขายที่ทำให้เจ๊ไฝได้รางวัลมิชลิน 1 ดาว 7 ปีซ้อน และรางวัลบุคคลต้นแบบ (Icon Award) ประจำปี 2021 จากเว็บไซต์ theworlds50best ที่ฮือฮามากคือเมื่อต้นปี “แจ็ก หม่า” ผู้ก่อตั้งยังษ์อีคอมเมิร์ซอาลีบาบาได้เดินทางมาที่ร้านเจ๊ไฝ ชิมไข่เจียวปูและถ่ายรูป ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวจีนอยากตามรอยมาไทย

กลางปีเจ๊ก็สร้างเซอร์ไพรส์ เมื่อบินไปจับมือ “พัคโบกอม” ดาราดังเกาหลีใต้ เรียกว่าแตกตื่นทั้งเอเชีย หลังเจอที่ร้านเจ๊ไฝมาแล้วเมื่อปีก่อน การโกอินเตอร์ของเจ๊ไฝคือการเปิดตัวรามยอนรสต้มยำกุ้ง Shin ramyun x Jayfai ที่ผนึกแบรนด์ดังเกาหลีจนเป็นซอฟต์เพาเวอร์อาหารไทยลูกครึ่งที่ชาวโลกอยากชิม

จากร้านอาหารริมทางที่ดูธรรมดาๆ จึงไม่ธรรมดา เพราะชื่อเสียงเจ๊ไฝดังไกลทั่วโลก ถึงขั้นเชฟฝรั่งยังต้องเชิญเจ๊หอบเตาอั้งโล่ เพื่อไปควงตะหลิวโชว์ลีลาการทำอาหารให้ดูถึงต่างประเทศ

อีก 1 คนดังแห่งปีที่ก้าวขึ้นมาอยู่ในสปอตไลต์ จากแวดวงธุรกิจยานยนต์ นั่นคือ “ไฮโซพก-ประธานวงศ์ พรประภา” ที่เดิมสังคมไทยจะรู้จักในฐานะเป็นแฟนอั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ดาราตัวแม่ของวงการ ซึ่งต่อมาเลิกรากันไป

หลังเปิดบริษัทธุรกิจนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ BYD ครั้งแรกในไทย ไฮโซพกก็ประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดด รถอีวีในสังกัดขายดีเกินเป้า ทำให้ชื่อเสียงตระกูล “พรประภา” กลับมาโด่งดังอีกครั้งในวงการรถยนต์

ปัจจุบันไฮโซพกมีอายุ 38 ปี มีพี่น้อง 4 คน คือ พก ประธานวงศ์, เอ็ม ประธานพร, นัย ประนัย และ เช้า-ประคุณ พรประภา พี่น้องจะช่วยกันบริหารงานในเครือ เช่น บริษัท สยามกลการอุตสาหกรรม, พีพีเอ็น มาร์เกตติ้ง, สยามออโต้โมทีฟ อีควิปเมนต์, พีเอ็นเอ็น เรนทัล แอนด์ เซอร์วิส, พีเอ็นเอ็น โปรเฟสชั่นแนล โอเปอเรชั่น เซอร์วิส, บริษัท สยาม แอ็ท สยาม จำกัด และสยาม แอดวานซ์ เทคโนโลยี รีเลชั่นชิป

ไฮโซพกเป็นลูกชายคนโตของพรพินิจ พรประภา เป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของสยามกลการ จบปริญญาตรีบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแห่งชาติเมืองซานติอาโก สหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าของโรงแรม Siam@Siam ย่านปทุมวัน และเป็นหลานปู่ “ดร.ถาวร” ต้นตระกูล “พรประภา” ผู้นำเข้ารถนิสสัน และเป็นผู้ก่อตั้งสยามกลการ

ทุกวันนี้เขาคือซีอีโอ บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ BYD แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย มีไลฟ์สไตล์ชอบเล่นกีฬามาก โดยเฉพาะกอล์ฟ เคยเป็นนักกีฬารักบี้และพายเรือของโรงเรียน ทั้งชอบกีฬาเวกบอร์ดด้วย

ที่น่าสนใจ เขาคือไฮโซตัวจริงที่มีรสนิยมการแต่งตัวที่ดูดีมีภูมิฐาน เป็นผู้นำเข้ารองเท้าแบรนด์หรู Berluti จากฝรั่งเศส และชื่นชอบการทำอาหารในสไตล์เชฟแบบไฮโซ

กล่าวกันว่า เขาคือเจ้าพ่ออีวีตัวจริงที่ประสบความสำเร็จเร็วมาก จากธุรกิจนำเข้ารถจากจีนและทำให้แบรนด์ BYD แจ้งเกิดในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว โดยครองตลาดคนรุ่นใหม่แบบไม่มีใครคาดถึง จนเกิดม็อตโต้ในกลุ่มผู้ใช้รถอีวีว่า “BYD รถที่ทุกบ้านต้องมี”

เพื่อนำประเทศไทยก้าวสู่ NEV Nation ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมของอนาคต ด้วยการประกาศวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ “NEW FUTURE, YOUR WAY” ตอบโจทย์ทุกชีวิตสู่ระบบนิเวศที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ทั้ง 3 ซูเปอร์สตาร์จึงเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่ทำให้ธุรกิจเกิดการเปลี่ยนแปลงและสร้างแบรนด์ทำเงินได้อย่างน่าสนใจ