คุยกับทูต | ฟาน จี๊ ทัญ เตรียมอำลาไทย หลังสามปีที่ผูกพัน สานสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม (2)

การดำเนินการด้านความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกัน

“เรามีศักยภาพที่ดีในการยกระดับความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ เป็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจในฐานะเสาหลัก ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการเสริมสร้างความเข้มแข็งต่อไป เราจำเป็นต้องปลดล็อกศักยภาพเพื่อบรรลุเป้าหมายปริมาณการค้า 25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 และ 30 พันล้านดอลลาร์ในอีกห้าปีข้างหน้า ทั้งสองประเทศควรดำเนินการเพื่อลดอุปสรรคทางการค้าและส่งเสริมการลงทุนเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับเศรษฐกิจของเรา ซึ่งการส่งเสริมการลงทุนโดยตรงของเวียดนามในประเทศไทยควรอยู่ในลำดับความสำคัญใหม่”

นายฟาน จี๊ ทัญ (H.E. Mr. Phan Chi Thanh) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทยชี้แจง

“ประเด็นสำคัญรองลงมา คือการท่องเที่ยวที่สามารถนำผลประโยชน์ที่จับต้องได้มาสู่ประเทศของเรา นอกจากการขนส่งทางอากาศแล้ว เราควรมีมาตรการที่จำเป็นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยรถบัสวิ่งระหว่างเวียดนาม ลาว และไทย การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์หรือการดูแลสุขภาพก็เป็นไปได้สำหรับทั้งไทยและเวียดนาม เนื่องจากทั้งสองประเทศเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้ป่วยต่างชาติที่กำลังมองหาการรักษาพยาบาล การผ่าตัด และบริการด้านสุขภาพ”

นายฟาน จี๊ ทัญ (H.E. Mr. Phan Chi Thanh) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย

“ในขณะที่เวียดนามและไทยใช้นวัตกรรมและระบบดิจิทัล เป็นเครื่องมือใหม่ในการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างทั้งสองประเทศในภาคส่วนนี้จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน การขยายการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาและความร่วมมือทางวิชาการเพื่ออำนวยความสะดวกในศูนย์การศึกษา การแลกเปลี่ยนนักศึกษา และการวิจัยร่วมกัน การส่งเสริมการเติบโตทางปัญญาและนวัตกรรม ก็เป็นทิศทางที่สำคัญมากเช่นกัน ทั้งสองประเทศควรส่งเสริมไทยศึกษาในเวียดนามและเวียดนามศึกษาในไทย”

“ปีที่ผ่านมาเราได้จัดแฟชั่นโชว์ของเวียดนาม “Ao dai Meets Thaisilk” เพื่อส่งเสริมคุณค่าทางวัฒนธรรมของเวียดนามและไทยผ่านการผสมผสานระหว่างชุดอ่าวหญ่ายและผ้าไหมไทย เราหวังว่าจะจัดงานแฟชั่นโชว์แบบเดียวกันอีกในต้นปีใหม่ที่จะถึงนี้”

“นอกจากนี้ เรายังต้องแสดงให้เห็นถึงความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมประเพณีของเราโดยการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างชาวเวียดนามและชาวไทยผ่านโครงการริเริ่มต่างๆ เช่น เมืองพี่น้อง โครงการแลกเปลี่ยนเยาวชน เทศกาลวัฒนธรรม และนิทรรศการต่างๆ ซึ่งจะยิ่งทำให้คนรากหญ้าให้ความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”

“โดยสรุป ผมคาดหวังว่าทั้งสองประเทศจะก้าวไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม โดยการขยาย การกระชับความร่วมมือ และการมีปฏิสัมพันธ์ในทุกด้าน”

ความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับอาเซียนในปัจจุบัน

“อาเซียนมีความสำคัญมากสำหรับเวียดนามในแง่ของความมั่นคง การทูต และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เวียดนามเป็นสมาชิกที่แข็งขันของอาเซียนและมีส่วนร่วมในความร่วมมือต่างๆ ภายในองค์กร ความร่วมมือของเวียดนามกับอาเซียนมีหลายแง่มุมและครอบคลุมหลายด้าน ซึ่งรวมถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การเจรจาทางการเมือง ความมั่นคง และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม”

“เวียดนามมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในโครงการบูรณาการทางเศรษฐกิจของอาเซียน เช่น ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างตลาดและฐานการผลิตเดียว อำนวยความสะดวกในการไหลเวียนของสินค้า บริการ การลงทุน และแรงงานฝีมืออย่างเสรี เวียดนามได้ลดอุปสรรคทางการค้าและเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับสมาชิกอาเซียนอื่นๆ”

“อาเซียนเป็นเวทีสำหรับการเจรจาและความร่วมมือในประเด็นความมั่นคงในภูมิภาค เวียดนามมีส่วนร่วมในการอภิปรายเกี่ยวกับความท้าทายด้านความมั่นคงในภูมิภาค รวมถึงความมั่นคงทางทะเล การต่อต้านการก่อการร้าย และการไม่แพร่ขยายอาวุธ เวียดนามได้เข้าร่วมในการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ARF) และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (EAS)”

“การประชุมเหล่านี้เป็นเวทีสำหรับการเจรจาและความร่วมมือในประเด็นระดับภูมิภาคและระดับโลกในวงกว้าง”

บริเวณสถานทูต

ชุมชนเวียดนามในประเทศไทย

“ชุมชนชาวเวียดนามมีประชากรมากกว่า 100,000 คน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ชุมชนชาวเวียดนามเป็นหนึ่งในชุมชนชาวต่างชาติที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยการสนับสนุนของรัฐบาลไทยและหน่วยงานระดับจังหวัด ชุมชนชาวเวียดนามจึงกลายเป็นส่วนสำคัญของสังคมไทยและมีส่วนช่วยอย่างมากต่อการพัฒนาจังหวัดที่ตนอาศัยอยู่ ชาวไทยเวียดนามจำนวนมากประสบความสำเร็จในอาชีพแพทย์ ครู เกษตรกร ข้าราชการ นักธุรกิจ นักเคลื่อนไหวในชุมชน… ส่วนใหญ่เป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งในการสร้างมิตรภาพระหว่างประชาชนทั้งสอง”

“โดยทั่วไปแล้ว คนเวียดนามในประเทศไทยทำงานหนักมาก หลายคนประสบความสำเร็จในฐานะผู้ประกอบการในธุรกิจประเภทต่างๆ ได้แก่ การเกษตร การผลิต การค้า การให้บริการ ฯลฯ โดยมีคนไทยในท้องถิ่นเป็นพนักงานจำนวนมาก”

“ชุมชนชาวเวียดนามมีส่วนสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและการสร้างชุมชนในจังหวัดต่างๆ พวกเขาให้ความช่วยเหลือในงานการกุศลและผู้ด้อยโอกาสเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่จังหวัดได้บอกผมว่า เคารพและขอบคุณชุมชนชาวเวียดนามสำหรับการช่วยเหลือที่มีคุณค่า โดยไม่มีความแตกต่างกันว่าใครเป็นชาวไทย ใครเป็นชาวเวียดนาม ชุมชนชาวเวียดนามได้สร้างวัดวาอาราม โบสถ์ วิหารทางพุทธศาสนาและอื่นๆ ในจังหวัดต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าชุมชนชาวเวียดนามมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมมิตรภาพระหว่างประชาชนของเรา”

ภาพเขียน โฮจิมินห์ (Hò Chí Minh) รัฐบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของเวียดนาม และเป็นประธานาธิบดีคนแรก

เวียดนามได้รับความสนใจจากคนไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะจุดหมายปลายทางในการพักผ่อน

“เสน่ห์ของเวียดนามอยู่ที่วัฒนธรรมที่หลากหลายพร้อมด้วยมรดกโลกจำนวนมากที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโก ควบคู่ไปกับการดูดซึมทางวัฒนธรรมของโลก โดยพื้นฐานแล้วเวียดนามเป็นดินแดนท่องเที่ยวที่นำเสนอการท่องเที่ยวหลายประเภท เพื่อการพักผ่อน การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและศาสนา การท่องเที่ยวเชิงผจญภัย การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ธุรกิจไมซ์ (MICE) ฯลฯ”

“ผมสามารถแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองกับท่านผู้อ่าน เนื่องจากครอบครัวของผมอยู่ในฮานอย ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน เรามักจะไปพักผ่อนที่ชายหาดในดานัง (Danang) ญาจาง (Nha Trang) ฟูก๊วก (Phu Quoc) หรือฮาลองเบย์ (Halong Bay) ตามแนวชายฝั่งยาวมีชายหาดที่สวยงามตั้งแต่เหนือจรดใต้ และในอ่าวฮาลองมีเกาะหินปูนมหัศจรรย์ที่มีเกาะเล็กเกาะน้อยกว่า 1,500 เกาะ”

“ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวเราไปซาปา (Sapa) เนินเขาตามดาว (Tam Dao Hill) บานาฮิลล์ (Bana Hill) 3 เมืองบนเนินเขาที่มีหมอกหนาและโรแมนติกเป็นที่รู้จักกันดีด้วยสไตล์ฝรั่งเศสและโคโลเนียลในภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสวยงาม”

“ส่วนเมืองดาลัด (Dalat) ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงมีทัศนียภาพที่งดงามมาก มีวิลล่าสไตล์ฝรั่งเศสหลายแห่ง เราสามารถไปดาลัดได้ตลอดเวลาของปี เมืองเก่าเว้ (Hue) และฮอยอัน (Hoi An) ก็เป็นสถานที่ ‘ต้องไป’ เช่นกัน”

“สำหรับผู้ที่รักการท่องเที่ยวแบบผจญภัยและการเดินป่า สามารถไปยังภูเขาทางตอนเหนือและตอนกลางหรือถ้ำเซินด่อง (Son Doong Cave)”

“นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบอาหารเวียดนามยังสามารถเพลิดเพลินกับอาหารได้หลากหลายประเภท ผู้มาเยือนมากมายเป็นแฟนพันธุ์แท้ของกาแฟริมถนนของเวียดนาม (Vietnamese street coffee) ซึ่งเป็นหนึ่งในกาแฟที่ดีที่สุดในโลก ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือการเดินทางไปเวียดนามยังปลอดภัยและประหยัดอีกด้วย •

นายฟาน จี๊ ทัญ (H.E. Mr. Phan Chi Thanh) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย

รายงานพิเศษ | ชนัดดา ชินะโยธิน

Chanadda Jinayodhin