ไม่ว่าภาพที่ Westfield ประเทศอังกฤษ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเป็นของจริง หรือตัดต่อ

แต่ก็ส่งผลสะเทือน

ไม่เช่นนั้นทีมโฆษกจาก”คสช.”คงไม่ออกมายืนยันว่ากำลังตรวจสอบอยู่

เช่นเดียวกับหัวหน้าเจ้าพนักงานสอบสวนจาก”ตำรวจ”

ผลสะเทือนในที่นี้มิได้อยู่ที่ว่า หากเป็นจริง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปโผล่ที่ประเทศอังกฤษได้อย่างไร

ทั้งๆที่ถูกถอด “หนังสือเดินทาง”

หากแต่ยังอยู่กับความสงสัยเดิมๆที่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หายไปจากประเทศไทยอย่างไร้ร่องรอยได้อย่างไร

นี่ย่อมเป็น “โจทย์” ที่คสช.จะต้อง”ไข”

 

กรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อนวันที่ 23 สิงหาคมตัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาจถูกฟาดกระหน่ำในฐานะ “จำเลย”

ไม่ว่าในเรื่อง”คดีความ” ไม่ว่าในเรื่อง”อายัดทรัพย์”

แต่พลันที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม

แสงแห่งสปอตไลต์ย่อมฉายจับไปยัง”คสช.”

น้อยคนเป็นอย่างยิ่งเชื่อว่าหากไม่ได้รับ “ไฟเขียว” จากผู้มีอำ นาจก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะสามารถ”ล่อง หน”หายตัวไปได้แบบนี้

จากเดือนสิงหาคมจนถึงเดือนธันวาคม ในทาง”คดี”ยังต้องถือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังอยู่ในราชอาณาจักรไทย

เพราะไม่มี”หลักฐาน”ว่าออกไปจาก”ประเทศ”

 

การที่มีข่าวจากกระทรวงการต่างประเทศว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยอยู่ที่นครดูไบ และเดินทางมายังกรุงลอนดอน

จึงถือว่าเป็นเรืองแปลกอย่างประหลาด

แปลกตรงที่กระทรวงการต่างประเทศได้มีการยึดคืนหนังสือเดินทาง

แปลกตรงที่มีการร้องผ่าน”อินเตอร์โพล”ให้แจ้งเบาะแส

จากเดือนสิงหาคมจนถึงเดือนธันวาคมไม่ปรากฏเบาะแสใดๆไม่ว่าจะจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ไม่ว่าจะจาก”อินเตอร์ โพล”

แล้วเป็นไปได้อย่างไรที่โผล่ใน”อังกฤษ”

ทั้งหมดนี้คือ “คำถาม”ที่จะต้องมีคำตอบจาก”คสช.”