Here We Are, Notes for Living on Planet Earth

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

จากหนังสือประกอบภาพสำหรับเด็กที่มิใช่นิทานของ Oliver Jeffers ปี 2017 โดย Philomel & Harper Collins ขึ้นอันดับ 1 ขายดีที่สุดของนิวยอร์กไทม์ส วันนี้เป็นแอนิเมชั่นสวยงามทั้งงานด้านภาพและเสียง ให้เสียงโดยเมอริล สตรีป ฉายทางแอปเปิลทีวีวันนี้

เปิดฉากจากห้วงอวกาศที่มีกลุ่มก๊าซกระจัดกระจาย ใกล้เข้าไปจนถึงดาวอังคาร ดวงจันทร์ และโลก มีดาวเสาร์เป็นฉากหลังและลูกไฟดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่อยู่ด้านข้าง นี่คือโลก Here we are เราอยู่ที่นี่

ชายหญิงคู่หนึ่งเป็นพ่อแม่มือใหม่ สองคนพาทารกแรกเกิดกลับบ้าน ทารกชายชื่อฟินน์ คนเป็นพ่อเตรียมห้องเด็กรอรับ เขาทำสุริยจักรวาลจำลองห้อยเหนือที่นอนเด็ก เมื่อปิดไฟห้องเปิดไฟโคมจะเห็นดวงดาวระยิบระยับ ผู้เป็นแม่อุทานด้วยความตื่นเต้นเพราะงามนัก

คนเป็นพ่อเดินไปที่หน้าต่าง อพาร์ตเมนต์ของพวกเขาอยู่ริมน้ำ มีท่าเรือและเรือหลายลำ จู่ๆ สีหน้าของเขาก็สลดลง ภรรยาถามว่าเป็นอะไร เขาตอบว่าโลกข้างนอกกว้างใหญ่มากกว่าลูกโลกจำลองที่เขาแขวนไว้ให้ลูกมากนัก เราจะต้องสอนให้ลูกรู้จักโลกทั้งส่วนที่เรารู้และส่วนที่เราไม่รู้

“แต่ว่าเราจะทำได้อย่างไร ผมสับสน”

ภรรยาลากเขานั่งลง “แม่ชั้นบอกว่าเวลาที่เราสับสนให้เริ่มต้นจากที่ที่เรามีอยู่แล้วและพัฒนาจากตรงนั้น ตอนนี้ที่คุณมีอยู่แล้วแน่ๆ คือลูกที่เกิดมาสมบูรณ์ดี” นั่นสิแล้วจะห่วงอะไรอีก เป็นธรรมดาของทุกบ้านที่ตอนแรกเกิดเพียงภาวนาให้ลูกครบสามสิบสอง ครั้นครบแล้วความห่วงใยเรื่องอื่นๆ จึงจะเริ่มต้น

คำตอบคือเราจะได้ห่วงอีกมาก

คนเป็นพ่อให้ภรรยาไปพัก เขาอุ้มลูกเดินไปตามห้องต่างๆ แนะนำสถานที่ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องครัว เตาในครัว ตู้เย็น ห้องน้ำ และห้องนอน เขามาหยุดที่ตู้หนังสือแล้วหยิบสารานุกรมเล่มหนึ่งออกมานั่งอ่านให้ลูกฟัง “นี่คือโลก อยู่ในระบบสุริยะที่มีดาวเคราะห์แปดดวง ปลาหมึกเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่ฉลาดที่สุด วาฬสีน้ำเงินเป็นสัตว์ตัวใหญ่ที่สุด” บลาๆๆๆ

แล้วฟินน์ก็โตขึ้นเป็นเด็กชาย เขายังคงนั่งอ่านหนังสือเล่มนั้น

วันนี้เป็นวันคุ้มครองโลก Earth Day ฟินน์อยากไปพิพิธภัณฑ์สรรพสิ่งเอเวอรี่ติงที่ซึ่งมีนิทรรศการจรวด เขาชอบจรวด เขามีนาฬิกาปลุกเป็นรูปจรวดซึ่งเขาเพิ่งจะทำพังเพราะแกะเล่นเมื่อครู่นี้เอง แม่บอกเขาว่านาฬิกามีไว้บอกเวลา “ลูกควรหัดดูภาพรวม” เวลาเป็นของมีค่า คนเราต้องรู้จักบริหารเวลา แล้ววันนี้เป็นวันคุ้มครองโลก บ้านเราจะออกไปดูโลก พ่อเตรียมตะกร้าปิกนิกไว้แล้ว

ฟินน์ยกมือขอประชุมครอบครัวเขาเสนอญัติไปพิพิธภัณฑ์สรรพสิ่งดูจรวด

แต่พ่อแม่ยืนกรานไปปิกนิกในสวน ดูคน ดูนก และดูต้นไม้

ระหว่างทางไปสวนสาธารณะ สามพ่อแม่ลูกจูงจักรยานไป ใส่หมวกกันน็อกครบเครื่อง รถยนต์จอดให้สามคนข้ามตรงทางข้าม

ฟินน์เห็นโปสเตอร์โฆษณานิทรรศการจรวดที่พิพิธภัณฑ์เอเวอรี่ติงว่าใกล้วันสุดท้ายแล้ว เขารบเร้าพ่อแม่ตลอดทั้งทาง แต่พ่อแม่ยืนกรานว่าเราจะไปกลางแจ้งรับแดด ถีบจักรยานเสร็จก็ไปเล่นว่าวรับลม เล่นว่าวเสร็จก็ลงเรือพายใส่เสื้อชูชีพเรียบร้อย พวกฝรั่งนี่มาตรฐานความปลอดภัยเคร่งครัดไม่มีหลุด

บนฝั่งมีคนลอยเรือกระดาษ ฟินน์ตีสีหน้าไม่ค่อยสนุกมากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อขึ้นฝั่งเขาเห็นแผนที่สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์สรรพสิ่งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือที่พวกเขาอยู่นี่เอง เขาจึงวางแผนถีบรถจักรยานนำหน้าตรงไปพิพิธภัณฑ์ กว่าพ่อแม่จะรู้ตัวว่าถูกหลอกก็ถึงแล้ว

ตามธรรมเนียมเข้าพิพิธภัณฑ์คนเป็นพ่อขอแผนที่จะได้เดินครบ แต่ฟินน์วิ่งไปแล้ว ผ่านห้องไดโนเสาร์ที่น่าตื่นตะลึง ถึงห้องร่างกายมนุษย์ที่แสนมหัศจรรย์ บ้านเรามีพิพิธภัณฑ์อลังการระดับนี้รึยังนะ ถึงจะมีก็คงมีแค่กรุงเทพฯ ตามฟอร์ม

ฟินน์เร่งความเร็วจนพ่อแม่เดินตามไม่ทันไปจนถึงห้องนิทรรศการจรวดแต่สายไปเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ดึงเชือกกั้นปิดพอดี ฟินน์หมดสนุกเดินคอตก พ่อแม่ได้แต่มองหน้ากันเดินตาม

ฟินน์เดินหน้าเศร้าผ่านอีกห้องหนึ่ง เขาฝ่าผ้าม่านที่ดูเหมือนจะปิดแล้วเข้าไป ที่นั่นเป็นลูกโลกขนาดใหญ่ลอยอยู่ในความมืด มีดวงจันทร์และดาวเทียมลอยอยู่ข้างๆ แม้แต่พ่อแม่ก็อดตื่นเต้นมิได้

ฟินน์ขึ้นไปนั่งบนรถที่ดูคล้ายกระสวยอวกาศแต่เขาไม่มีเหรียญหยอด อ๊ะ เดี๋ยวก่อน ระหว่างทางวิ่งขึ้นบันไดเขาเก็บเหรียญที่มีคนทำตกไว้จากพื้นคือเหรียญที่ใช้เล่นห้องนี้พอดี

สามพ่อแม่ลูกจึงได้ขึ้นกระสวยลอยฟ้าเที่ยวรอบโลกเป็นส่วนตัวก่อนพิพิธภัณฑ์จะปิด

ตั้งแต่ต้นหนังฉายมายี่สิบนาที ยังเหลืออีกยี่สิบนาทีที่เราจะได้ท่องโลกจำลองกับฟินน์ ฟังดูเหมือนไม่มีอะไรน่าสนใจ ที่ไหนได้ ด้วยการออกแบบของพิพิธภัณฑ์ เราจะเรียนรู้โลกทั้งใบได้ภายในยี่สิบนาที ด้วยน้ำเสียงของเมอริล สตรีป นี่เป็นส่วนที่งดงามต่อใจมากที่สุด

ดูจบอยากกลับไปบอกคนที่ลอยเรือกระดาษลงในสระน้ำเมื่อต้นเรื่องว่าอย่าทำ

หลังจากหนังจบฟินน์เงียบลง ขั้นแรกเขาขอพ่อแม่กลับออกไปถีบจักรยานต่อ “เพราะนี่คือวันคุ้มครองโลก” เราไปดูต้นไม้ ใบหญ้า ฝูงนก ฝูงปลาและนับวงปีต้นไม้กันเถอะ “แม่สอนว่าเราต้องดูภาพใหญ่ไง”

เมื่อถึงบ้าน ไฟดับทั้งเมือง ฟินน์ดูซึมลงอีก พ่อชวนเขาขึ้นดาดฟ้าเพื่อดูดาวดารดาษแล้วถามว่าเป็นอะไรไป ฟินน์ตอบพ่อเหมือนวันที่พ่อพูดกับแม่ในคืนที่เขาเพิ่งเกิด โลกใหญ่จัง ผมสับสน เราไม่มีทางรู้เรื่องทั้งหมด พ่อจึงตอบฟินน์เหมือนที่ภรรยาบอกเขา “เริ่มจากสิ่งที่เรารู้”

ฟินน์รู้จักดาวเหนือ “นั่นแหละ” พ่อว่า “เรามาเริ่มต้นจากดาวเหนือ”

ตอนจบบนดาดฟ้านี้มีรายละเอียดอีกมากสมควรหามาชมด้วยตนเองครับ หนังยาวสี่สิบนาทีเท่านั้น สวยงามเป็นที่สุด

โอลิเวอร์ เจฟเฟอร์ เกิดปี 1977 วันนี้อายุ 46 ปีเท่านั้น เขามีผลงานหนังสือประกอบภาพสำหรับเด็กแปลไทยหลายเล่มจากหลายสำนักพิมพ์ในประเทศไทย เขาเขียนเรื่อง Here We are นี้เมื่อปี 2017 ตอนอายุ 40 ปี •

การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์