ของขวัญที่ลูกได้รับจากวันเกิดป๊า

ท้อฟฟี่ แบรดชอว์https://www.facebook.com/toffybradshawwriter

The Gratitude Diary ขอบคุณที่ทำให้ชีวิตนี้มีความหมาย | ท้อฟฟี่ แบรดชอว์

 

ของขวัญที่ลูกได้รับจากวันเกิดป๊า

 

1 ปกติแล้วพอถึงวันเกิด เจ้าของวันเกิดมักจะเป็นผู้ได้รับของขวัญ แต่วันเกิดป๊าปีนี้ กลายเป็นป๊ากับแม่ที่ให้ของขวัญพวกเราครับ

ของขวัญที่ว่าคือ “คำสอน” ที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์ชีวิต

ด้วยความที่ลูกๆ อยู่ในวัยที่มีชีวิตคู่กันแล้ว คำสอนของป๊ากับแม่ปีนี้เลยเป็นเรื่องชีวิตคู่

นี่เป็นของขวัญที่ลูกๆ ได้รับในวันเกิดป๊าจากป๊ากับแม่ครับ

เป็นของขวัญที่ผมอยากจะแบ่งปันให้กับทุกคนที่ได้อ่าน

แกะกล่องของขวัญไปพร้อมๆ กันนะครับ

 

2 ของขวัญจากแม่คือ แม่สอนว่า คนเราตอนเป็นแฟนกัน เรียกว่า “คู่ควง”

พอแต่งงานกัน ไม่ใช่แค่คู่ควงแล้ว เรียกว่า “คู่ครอง”

จุดนี้แหละที่แม่บอกว่า “อันนี้แหละชีวิตคู่ของจริง ลงสนามจริงแล้วนะ”

ชีวิตตอนแต่งงานกับตอนเป็นแฟนเป็นคนละเรื่องเลย

เพราะการที่ต้องอยู่กับใคร 24 ชั่วโมง ทำให้เราเห็นยิ่งรู้จักกันและกันลึกมากกว่าเดิม

 

3 แน่นอนว่ามันจะมีทั้งด้านที่ดีและไม่ดีของเขาที่เราต้องรับมาทั้งหมด

แต่อย่าลืมว่าเขาก็ต้องรับทั้งด้านที่ดีและไม่ดีของเราไปทั้งหมดเหมือนกัน

เพราะฉะนั้น ความรักอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีความเข้าใจให้กันมากๆ

มีความเข้าใจอย่างเดียวก็ไม่พอ ต้องเป็นความเข้าใจบนพื้นฐานความรักด้วย

เพราะพอมีทั้งความรักและความเข้าใจ จะยินดีปรับตัวเพื่อให้อยู่ด้วยกันได้

 

4 จาก “คู่ครอง” ต้องพัฒนามาเป็น “คู่คิด”

ช่วยกันคิดหาทางออกเวลาเจออุปสรรค

ช่วยกันคิดหาทางเจริญเติบโตงอกงาม สนับสนุนกันไปในทางที่ดี

ใช้ความสม่ำเสมอ ผ่านกาลเวลา ผ่านบทพิสูจน์แล้ว ดูแลชีวิตของกันและกันมานานจนแก่เฒ่าไปด้วยกัน สเตจนี้เรียกว่า “คู่ชีวิต”

แค่อยู่ด้วยกันทุกวัน ไม่เรียกว่า “คู่ชีวิต”

แต่การได้ใช้ชีวิตไปด้วยกัน ได้เห็น ได้ขัดเกลา และได้เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตของกันและกัน

เขามีชีวิตที่ดีขึ้นเมื่อใช้ชีวิตร่วมกับเรา เรามีชีวิตที่ดีขึ้นเมื่อใช้ชีวิตร่วมกับเขา

อันนั้นแหละคือ “คู่ชีวิต”

 

5 ของขวัญจากป๊าคือ ป๊าสอนหลักที่เรียกว่า “Consensus” ในการใช้ชีวิตคู่

เมื่อเราใช้ชีวิตร่วมกับใครเป็นครอบครัวแล้ว ทุกครั้งที่ต้องมีการตัดสินใจที่จะมีผลกระทบต่อชีวิตของคนในครอบครัว สิ่งสำคัญคือ ต้องหาทางออกที่เป็น “Concensus” หรือเป็นข้อตกลงที่เกิดจากความยินยอมพร้อมใจด้วยกันทุกคน

ทางออกที่เลือกนี้ เราโอเคด้วยกันทุกคนแล้วใช่ไหม

เป็นการหาทางออกที่ทุกคนต้อง Win-Win ด้วยกันหมด และตัดสินใจร่วมกัน

ถ้าใครคนหนึ่งต้องแพ้ แปลว่าเราแพ้ด้วยกันทั้งหมด

ถ้าใครคนหนึ่งชนะอยู่คนเดียว ก็แปลว่าเราแพ้ด้วยกันหมดเหมือนกัน

วิธีคิดแบบนี้ทำให้เราต้องใส่ใจ “ฟัง” อีกฝ่ายเสมอว่าเขาคิดอะไร ทำให้เราไม่คิดจากแค่มุมของเราฝ่ายเดียว ช่วยให้ตัดสินใจได้รอบคอบขึ้น และเป็นการให้เกียรติกัน

เพราะการตัดสินใจนี้จะมีผลกระทบต่อชีวิตทุกคน ดังนั้น ทุกคนจึงต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

Consensus ในชีวิตครอบครัวจึงเป็นสิ่งสำคัญ

 

6 ชีวิตคู่คือเราเป็นทีมเดียวกัน ทีมที่มีเป้าหมายเดียวกัน

ความเห็นจะแตกต่างกันแค่ไหน แต่เป้าหมายยังต้องเป็นเป้าหมายเดียวกัน

คิดเห็นแบบไหน ฟังกัน บอกกัน ช่วยกันคิดหาทางออก

แล้วสุดท้ายการตัดสินใจต้องเป็น “One Voice” หรือเสียงเดียวกันอย่างหนักแน่น

คิดมาด้วยกัน ตัดสินใจร่วมกัน รับผิดชอบร่วมกัน ทุกข์สุขก็รับมาด้วยกันหมด

หากสุดท้ายแล้ว ผลลัพธ์จาก Consensus จะไม่เป็นดังหวัง ต้องไม่มีการโทษกัน ไม่โกรธกัน เพราะมันคือการตัดสินใจร่วมกัน

เอาเวลาที่จะโทษกัน มาช่วยกันแก้ปัญหาที่ทำให้เราไปถึงเป้าหมายด้วยกันดีกว่า

เป้าหมายนั้นคือการทำให้ครอบครัวเรามีความสุขด้วยกัน

One Team – One Voice – One Goal

 

7 เรื่องสุดท้ายคือ ปีนี้ป๊าอายุ 71 แล้ว ส่วนแม่อายุ 65

ทั้งคู่ใช้ชีวิตแบบแพ็กเกจคู่ไปไหนไปด้วยกันตลอดเป็นทีมเดียวกัน

จนมีอยู่วันหนึ่งที่แม่ไม่อยู่ ป๊าอยู่คนเดียว ป๊าบอกว่าเหงามาก

เหงาจนคิดว่าถ้าไม่มีป๊าแล้วแม่ต้องอยู่คนเดียวจะเหงาแค่ไหน

ทั้งคู่เลยตกลงกันว่าจะดูแลสุขภาพกายและใจให้ดี จะได้อยู่ดูแลกันไปนานๆ

ของขวัญที่เราให้กันได้ดีที่สุดคือการดูแลตัวเองให้ดีที่สุด

เพราะถ้าดูแลตัวเองดีแล้ว เราจะมีแรงกำลังไปดูแลคนที่เรารักได้ดีไปด้วย