ไม่รบ ‘นาย’ ไม่หาย(เป็น)โจร แป้ง นาโหนด แพร่คลิป ท้าทายอำนาจรัฐ ‘ราชทัณฑ์-ตร.-อัยการ’ สะเทือน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคลิปวิดีโอสั้นๆ เพียงไม่กี่นาทีของ ‘แป้ง นาโหนด’ มีผลสั่นสะเทือนกระบวนการยุติธรรมไทย ทั้งราชทัณฑ์-ตำรวจ-อัยการ เพราะนอกจากแสดงให้เห็นว่าสามารถหลบหนีลงมาจากเทือกเขาบรรทัดได้ก่อนที่ตำรวจจะระดมกำลังปิดล้อมแล้ว เจ้าตัวยังยืนยันว่าเหตุที่แหกคุก เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมในการดำเนินคดี

เหมือนจะเป็นการทำให้ปรากฏการณ์แหกคุก กลายเป็นพื้นที่ในการเปิดโปงกระบวนการยุติธรรมว่า ไม่เป็นธรรมกับตนเอง

กล่าวสำหรับคนในพื้นที่ภาคใต้ มักจะคุ้นเคยกับคำกล่าวที่ว่า “ไม่รบนาย-ไม่หายจน” เป็นเหมือนสัญลักษณ์ในการต่อสู้กับอำนาจที่กดขี่ข่มเหงไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจรัฐ

คล้ายกับลีลาของ แป้ง นาโหนด ทั้งหนีการควบคุมตัว ทั้งออกมาเปิดโปงอำนาจรัฐ ต้องสู้กับ “นาย” เพื่อทวงความเป็นธรรม

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.แนะให้มอบตัวพร้อมให้ความเป็นธรรม

คลิป ‘แป้ง’ สะเทือนเลื่อนลั่น

ย้อนไปเมื่อเย็นวันที่ 24 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวได้รับคลิปวิดีโอ เป็นภาพนายเชาวลิต ทองด้วง หรือแป้ง นาโหนด ผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์หลายคดี ได้หลบหนีจากโรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช ก่อนหลบหนีขึ้นไปซ่อนตัวบนเทือกเขาบรรทัด ซึ่งตำรวจระดมปฏิบัติการปิดล้อมไล่ล่าอยู่นับสิบวันแต่ก็ยังไร้วี่แวว

‘แป้ง’ อัดคลิปเปิดใจ โดยกล่าวว่า “สวัสดีชาวไทยทุกคน วันนี้ผมก็ขอบพระคุณคนที่ให้กำลังใจผม ให้ผมได้มีแรงสู้ต่อไป ผมไม่ได้รับความเป็นธรรม ที่ผมหนีมาโทษก็ไม่ได้มากมาย แต่ที่หนีเพราะผมไม่ได้รับความเป็นธรรม ผมทำหนังสือถึงกระทรวงยุติธรรมไปหลายฉบับ แต่ไม่เคยได้รับการตอบรับ”

‘แป้ง’ เผยต่อไปว่า คดีตนเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รับการประกันตัว ดูสิว่าความยุติธรรมยังมีมั้ย อัยการคนหนึ่ง, ตำรวจยศดาบตำรวจ และจ่าสิบเอกอีกคน รวมทั้งอีก 3 คน ก็ได้รับการประกันตัว และอัยการไม่ฟ้องทั้งที่เป็นผู้วางแผน วันนี้ตนยอมรับความจริงว่า วันนั้นอัยการคนดังกล่าวเป็นคนโทร.มา ให้ตนไปช่วยหลานเพราะถูกอุ้ม พอไป นึกในใจแล้วว่าเป็นตำรวจ เพราะไม่ยอมแจ้งตำรวจ พอถามเขาก็บอกว่าแจ้งตำรวจไปแล้ว แต่ความจริงแล้วไม่ได้แจ้ง ตนรู้ว่าอุ้มเรื่องยาเสพติด และหลอกให้ไป พอไปถึงเจอกับตำรวจ

“ผมไม่เคยโดนคดียาเสพติดแม้แต่คดีเดียว และไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ไม่เคยขาย ไม่เคยค้า ส่วนวันที่ตำรวจขึ้นเขาไปยิงปะทะแล้วเจอยาเสพติดก้อนสีเขียว อันนั้นไม่ใช่ของผม แล้ววันนั้นตำรวจไม่ได้ไปจับผม แต่ไปวิสามัญผมโดยเฉพาะ ไปถึงก็ยิงใส่ผมเลย ยิงเอ็ม 79 ไปอีก 10 กว่านัด ถ้ายิง ผมยิงตายเลย แต่ผมไม่ยิง เพราะเขาไม่ได้เป็นศัตรูกับผม เขามีครอบครัว มีลูกมีเมีย ถามคนที่หลบหลังต้นไม้ได้ จะบอกว่ากระทรวงยุติธรรม ความเป็นธรรมไม่มีอยู่จริง ถ้ามีอยู่จริงช่วยเอาอัยการกับพวกไปดำเนินคดี แล้วผมจะมอบตัว” นายเชาวลิตหรือเสี่ยแป้งกล่าว

‘แป้ง’ ยังระบุอีกว่า อยากจะกราบถึงพี่น้องชาวไทยทุกคน (ยกมือไหว้) อย่าไปพูดถึงท่านทักษิณเลย แกกลับมาดำเนินการตามกฎหมายแล้ว อย่าไปพูดถึง เอาแต่เรื่องตนพอครับพี่น้อง ขอบพระคุณมากๆ ครับ

ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ที่ดูแลงานสืบสวน ตรวจสอบที่มาที่ไปของคลิปดังกล่าวว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร ถ่ายคลิปที่ไหน ถ่ายในช่วงไหน ส่วนเนื้อหาในคลิปก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ได้สั่งการให้จเรตำรวจไปตรวจสอบว่ามีการพาดพิงตำรวจคนใดบ้าง มีข้อเท็จจริงอย่างไร หากมีความผิดก็ดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน ทั้งทางวินัย อาญา และปกครอง ต้องทำความจริงให้ปรากฏ ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า ขอฝากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับฟังสื่อโซเชียล ตำรวจพร้อมจะดำเนินการตามข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน และให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่มีการกลั่นแกล้งใคร หากคิดว่าไม่ได้รับความยุติธรรม ตำรวจก็พร้อมจะประสานงานดำเนินการให้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายเชาวลิตติดต่อขอมอบตัวนั้น ไม่เป็นความจริง มีเพียงญาติเท่านั้น แต่ถ้าติดต่อขอมอบตัวด้วยตนเอง ตนในฐานะ ผบ.ตร.จะยืนยันความปลอดภัยให้ และจะไม่วิสามัญฆาตกรรมแต่อย่างใด แต่ถ้าหากตำรวจเข้าจับกุมและขัดขืนต่อสู้กัน ตำรวจจะใช้ดุลพินิจ

“การหลบหนีแบบนี้ ต้องหนีไปตลอดชีวิต ควรจะติดต่อเข้ามอบตัว ถ้าหากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ให้แจ้งมาได้ทันที” ผบ.ตร.กล่าว

แป้ง นาโหนด อัดคลิปเปิดใจ

ปล่อยคลิปชุด 2 อัดอัยการ

ถัดมา ‘แป้ง’ ปล่อยคลิปเปิดใจคลิปที่ 2 ยอมรับว่าเดินทางไปชิงตัวคนร้ายจริง ไปพร้อมกับทุกคนที่ตนกล่าวถึง แต่ทำไมถึงไม่มีการฟ้องกับบุคคลอื่นทั้งที่ทราบกันดีว่าบุคคลเหล่านั้นร่วมขบวนการด้วย อยากให้พี่น้องชาวไทยช่วยกันตรวจสอบ ยืนยันว่าบุคคลที่เอาเงินจากตนไป คืออัยการ ส่วนที่มีข่าวเรื่องข่มขู่อัยการที่ จ.สงขลา ยืนยันว่าตนไม่ได้ทำ เพราะพฤติกรรมการข่มขู่ ตนไม่ทำแน่นอน

‘แป้ง’ ระบุด้วยว่า ยังมีอีกหลายประเด็นที่ตนอยากจะออกมาพูดคุย แต่วันนี้สิ่งหนึ่งที่ตนต้องการคืออยากให้ดำเนินการอัยการกับพวกที่ตนกล่าวไป หากดำเนินการแล้ว ตนยืนยัน พร้อมจะเดินเข้าไปมอบตัวตามกระบวนการยุติธรรม แต่หากยังนิ่งเฉย และไม่ดำเนินคดีกับทางอัยการ ตนจะไม่ไปมอบตัวแน่นอน ถ้าจะไปก็คงต้องไปเป็นศพแน่นอน ชัดเจน 100% ในเมื่อความยุติธรรมไม่มี ตนก็ไม่ไป หากสิ่งไหนที่ตนทำผิดพลาดต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนต้องขออภัยด้วย ไม่เคยคิดจะต่อสู้ และอยากจะขอโทษในส่วนของพ่อแม่พี่น้องในพื้นที่หมู่บ้านตระ หรือพี่น้องชาวไทยเดือดร้อน ตนก็ขอกราบขอโทษด้วย

ขณะที่อัยการคนที่ถูกเสี่ยแป้งพาดพิง เปิดเผยว่า กรณีที่แป้ง นาโหนด ออกมาอัดคลิปแล้วมีการพาดพิงถึงนั้น เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่หมู่ 7 ต.แพรกหา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เมื่อกรกฎาคม 2562 ตนก็ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวด้วย ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏตามสำนวนสอบสวนของตำรวจ

เบื้องต้นตนได้รับการประสานจากพ่อของนายจรวดว่านายจรวดถูกอุ้มตัวไป ไม่แน่ว่าเป็นบุคคลกลุ่มใด จึงประสานเจ้าหน้าที่ภาครัฐให้เข้าช่วยเหลือ ตามสำนวน ข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ไม่เคยประสาน ขอความช่วยเหลือจากนายแป้ง นาโหนด และตนก็อยู่ที่บ้านตลอด มีหลักฐานอ้างอิงได้ การออกมากล่าวถึงตนและกระบวนการยุติธรรมนั้น เชื่อว่าต้องการดิสเครดิตกระบวนการยุติธรรมของประเทศ

พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. แถลงรายละเอียดยิงปะทะกับ แป้ง นาโหนด

‘ทวี’ สั่งสอบคลิป-คดี ‘แป้ง’

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม มอบหมายให้นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรมและรองปลัดกระทรวงยุติธรรม รวมถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเลขาธิการ ป.ป.ส. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าเป็นไปตามที่เจ้าตัวร้องหรือไม่ มีพยานหลักฐานใหม่เพื่อจะรื้อฟื้นคดีได้หรือไม่ โดยระบุว่าในคดีดังกล่าวทราบว่ามีการฟ้อง 7 ราย หรืออาจจะมากกว่านั้น จากคำพิพากษาในคดีเกี่ยวเนื่องกับตัวบุคคล เช่น บุคคลที่อ้างชื่อว่า นายสิทธิเดช หรือจรวด ก็มีคดีที่ศาลตัดสินลงโทษเหมือนกัน ซึ่งศาลตัดสินในเดือนธันวาคม 2565 คดีพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการอาจจะแยกฟ้องก็ได้

“การจะรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่นั้น ตามหลักประมวลวิธีพิจารณาความอาญา คดีที่อัยการสั่งไม่ฟ้องจนถึงที่สุด จะต้องมีพยานหลักฐานใหม่ แต่คำพูดของนายแป้งในคลิปวิดีโอยังไม่ใช่หลักฐานใหม่ แต่บุคคลที่นายแป้งระบุถึงในจดหมายร้องเรียน หรือบุคคลที่ไม่ได้ถูกสอบปากคำเป็นพยาน รวมถึงเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ถ้าหากรวบรวมได้ เราถือว่าเป็นพยานหลักฐานใหม่ และทราบว่า ท่านอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุดท่านปัจจุบันเป็นคนตรงไปตรงมา ก็คงจะต้องไปประสานกับท่านว่ามีบุคคลใดในวงการที่ไปเกี่ยวข้องบ้าง ยอมรับว่าสะเทือนไปหมดทั้งกระบวนการยุติธรรม” พ.ต.อ.ทวีกล่าว

อย่างไรก็ตาม มีความเคลื่อนไหวจากฝ่ายอัยการเพื่อคลี่คลายเหตุการณ์นี้แล้ว โดยพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 9 มีความเห็นสั่งฟ้อง พ.ต.ต.ฤทธิไกร เหมทานนท์ อดีต สว กก.สส.บก.ภ.8 (ตำแหน่งขณะเกิดเหตุ) ร.ต.อ.อภิชาติ สกุลกิจ, ร.ต.อ.วิทยา อำนวย, ด.ต.ฐนนท์ธร กิจถาวร, ด.ต.นิรัตน์ เพชรรัตน์, ส.ต.ต.อาณัติ แดงหนำ, ร.ต.อ.สุรินทร์ ไกรสิทธิ์, นายอำพร นวลศรี (สายลับ) ซึ่งเป็นชุด ตร.ที่จับกุมนายจรวด ในข้อหาหนัก ผิด ม.157 อุ้มกรรโชกทรัพย์ ฯลฯ และสั่งฟ้อง ร.ต.อ.อภิชาติ ผู้ต้องหาที่ 2 ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะฯ เพิ่มอีก 1 ข้อหา โดยนัดให้ผู้ต้องหาทั้ง 8 รายมาพบเพื่อนำตัวส่งฟ้องศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ในวันที่ 22 ธันวาคมนี้

คดีนี้เป็นต้นเรื่องที่ทำให้แป้ง นาโหนด ต้องระเห็จไปอยู่ในคุก และอัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 2-6 (อัยการบอยเป็นผู้ต้องหาที่ 2) สั่งฟ้องเพียงนายแป้งและนายจรวด

คำฟ้องสรุปได้ว่า เมื่อกรกฎาคม 2562 จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับพวกซึ่งเป็นพลเรือน 1 คน รวมทั้งหมดจำนวน 8 คน จับตัวนายสิทธิ์เดช หรือจรวด ทรงเดชะ จากบ้านเลขที่ 94 หมู่ 2 ต.ลำปำ อ.เมือง จ.พัทลุง พาตัวหายไป และหลังจากนั้นไม่นาน นายสิทธิ์เดชก็ได้ติดต่อทางโทรศัพท์กลับมาหาญาติที่บ้าน โดยบอกว่าให้นำเงินสดจำนวน 1.5 ล้านบาท ไปให้แก่กลุ่มชายฉกรรจ์ที่มาหาที่บ้านก่อนหน้านี้ ซึ่งได้อ้างตัวภายหลังว่าเป็นตำรวจสังกัดชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อแลกกับความปลอดภัย และการปล่อยตัว แต่ทางญาติของนายจรวดกลับโทร.ไปขอความช่วยเหลือจากแป้ง นาโหนด ให้นำพวกบุกไปช่วยชิงตัวโดยไม่บอกว่าคนที่จับไปเป็นตำรวจ กระทั่งเรื่องบานปลายเป็นคดีปล้นผู้ต้องหาและพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน

คดีนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ และต่อมาอัยการสูงสุดชี้ขาดไม่ฟ้องในบางข้อหา ส่วนข้อหาผิด ม.157, กักขังหน่วงเหนี่ยวเพื่อเรียกค่าไถ่ ชี้ขาดฟ้องตามความเห็นของอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 9

ส่วนการตรวจสอบของสำนักงานอธิบดีอัยการภาค 9 กรณีแป้งพาดพิงพนักงานอัยการบอย ที่เคยเป็นผู้ต้องหาร่วมกับนายเชาวลิต แต่อธิบดีอัยการภาค 9 สั่งไม่ฟ้องอัยการบอยกับพวก สรุปผลว่าการสั่งคดีของอัยการจังหวัดพัทลุงและอธิบดีอัยการภาค 9 ชอบด้วยกฎหมายแล้ว

กรณีแป้ง นาโหนด จึงยังเป็นที่จับตามองต่อไป จะออกมาเขย่าอะไรอีกหรือไม่ คดีต้นเหตุที่นำมาสู่เรื่องราวทั้งหมด จะได้รับการคลี่คลายอย่างตรงไปตรงมาอย่างไรหรือไม่

ทั้งยังต้องรอดูว่า คลิปเสี่ยแป้งจะมีให้ฮืออาอีกกี่คลิป รวมทั้งจะเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีหรือไม่ หลังจากที่เปิดประเด็นจนเป็นที่สนใจของคนทั้งสังคมไปแล้ว

ตรวจค้นที่พัก ชาวมานิ กลางป่าเขาบรรทัด