เรื่องของ “นาฬิกา” [หน้า 8]

ถึงวันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ยังไม่หลุดจากวังวน “เพชร-นาฬิกาหรู”

“บิ๊กป้อม” ที่เป็น “เสาหลัก” ทางการเมืองของ คสช. กำลังถูกสั่นคลอนอย่างหนัก

กลยุทธ์ “ความสงบ” สยบ “ความเคลื่อนไหว” ที่เคยได้ผลในอดีต

เงียบๆ นิ่งๆ รอให้ข่าวใหม่เข้ามาแย่งพื้นที่ข่าวกลับไม่เป็นผล

พล.อ.ประวิตรไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้เป็นเวลาเกือบสัปดาห์แล้ว แต่ข่าวก็ยังไม่จางหายไป

มีการขุดคุ้ยหารูปเก่าๆ ที่ “บิ๊กป้อม” ใส่ “นาฬิกา” ในงานต่างๆ

จนวันนี้เจอแล้ว 5 เรือน

แต่ละเรือนราคาเกิน 2 แสนบาทซึ่งต้องแจ้งทรัพย์สินกับ ป.ป.ช.

ตอนนี้ได้ข่าวว่ารูปเก่าแค่ช่วงเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลสมัยนี้เริ่มหมดสต๊อกแล้ว

บางกลุ่มกำลังคุ้ยรูปเก่าสมัย “บิ๊กป้อม” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยุครัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”

เพราะถ้าเคยใส่นาฬิกาหรูในวันนั้นแต่ไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินตอนพ้นตำแหน่งครั้งก่อนและวันที่รับตำแหน่งใหม่ในรัฐบาลนี้

เรื่องจะหนักกว่านี้

ว่ากันว่าคนที่มีรูป พล.อ.ประวิตรช่วงนั้นเยอะที่สุด

คือคนที่เคยร่วมรัฐบาลกันมา

แต่มีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจมากกว่า

ทำไมเรื่อง “นาฬิกาหรู” จึงไม่จบง่ายๆ

และกระแสความไม่พอใจก็ขยายวงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อเทียบกับกรณี พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชายนายกฯ เซ็นอนุมัติให้ “ลูกชาย” เข้ารับราชการทหารเป็นกรณีพิเศษ

มีการขุดคุ้ยเจอเรื่อง “ลูกชาย” อีกคนหนึ่งทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างกับกองทัพภาคที่ 3 ที่ พล.อ.ปรีชาเคยเป็นแม่ทัพ

ตามด้วยเรื่อง “ฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา” ที่ภรรยา พล.อ.ปรีชา ใช้เครื่องบินกองทัพอากาศเดินทางไปเป็นประธานเปิดฝายแห่งนี้

“น้ำหนัก” ของ “ข่าว” ไม่แตกต่างกันเลย

แต่ทำไมกรณีของ “บิ๊กป้อม” จึงรุนแรงกว่า

หรือเรื่อง “น้องเมย” ที่เสียชีวิตแบบน่ากังขา กับพลทหารวิเชียรที่ถูกครูฝึกซ้อมจนเสียชีวิต

กรณีของพลทหารวิเชียรชัดเจนและโหดร้ายกว่าเยอะ

แต่ทำไมเรื่องของ “น้องเมย” จึงสร้างแรงสะเทือนกับสังคมไทยมากกว่า

หรือเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ตวาดชาวประมงที่ปัตตานี เมื่อเทียบกับการใช้ภาษาท่าทางรุนแรงกว่านี้ในการแถลงข่าวในอดีต

แต่ทำไมครั้งนี้กลับมีการขยายผลจน พล.อ.ประยุทธ์ต้องออกมาขอโทษ

Thai Prime Minister Thaksin Shinawatra (R) talks with Finance Minister Somkid Jatusripitak during the presentation to parliament of the country’s 2002 budget 27 June 2001. Thaksin presented his first budget to parliament with a 200 billion baht (4.4 billion USD) deficit designed to stimulate the economy. Worth a total 1.02 trillion baht (22.7 billion dollars) , the budget for the year to September 2002 is the biggest in Thailand’s history and represents 18.2 percent of Gross Domestic Product (GDP). AFP PHOTO/Pornchai KITTIWONGSAKUL / AFP PHOTO / PORNCHAI KITTIWONGSAKUL

เรื่องแบบนี้ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” และ “วิษณุ เครืองาม” ที่เคยร่วมรัฐบาล “ทักษิณ” จะเข้าใจดี

ประโยคเดียวกัน ภาษาท่าทางเดียวกันของ “ทักษิณ” ตอนที่เป็นรัฐบาลสมัยแรกกับช่วงปี 2549 ก่อนการรัฐประหาร

ครั้งแรก คนชื่นชม

แต่ครั้งหลัง คนหมั่นไส้

เวลาเปลี่ยน ความรู้สึกของสังคมเปลี่ยน

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น คือ “นาฬิกา” ทางการเมืองที่จะบอก “เวลา” ของรัฐบาล

ตอนนี้ 6 โมงเช้า

หรือ 6 โมงเย็น