หนาวแรก | เรื่องสั้น : อรรถสิทธิ์ สมจารี

Erotic scene from the Persian Safavid period c1660. Photo courtesy the Museum of Fine Arts, Boston

เรื่องสั้น | อรรถสิทธิ์ สมจารี

หนาวแรก

 

จงฟัง…นี่คือเรื่องเล่าที่เกิดขึ้น

เป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ในทุกคืนประมาณตี 12 จะได้ยินเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดออกจากกุโบ (สุสาน) เป็นเสียงผู้หญิงเปล่งออกมาจากความปวดร้าว เหมือนถูกโบยด้วยแซ่หนาม เหมือนศีรษะโดนทุบด้วยค้อนจนฝังดิน แล้วถูกเล็บยาวสกปรกจิกขึ้นมาทุบซ้ำ เหมือนใจโดนราดรดด้วยน้ำร้อนในกระทะเดือด ดูราวกับกำลังรับโทษทัณฑ์ของตนเองเมื่อครั้งมีชีวิต ชาวบ้านพากันหวาดผวา โจษจันไปในวงกว้าง

จนไม่มีใครกล้าย่างกรายหรือเดินผ่าน ณ บริเวณแห่งความทุกข์ทนนั้น

 

ในกัมปงเล็กๆ ชายแดนใต้อันห่างไกล มีประชากรทั้งมุสลิมและพุทธอาศัยอยู่ไม่มากนัก แต่ละบ้าน แต่ละครอบครัวต่างรู้จักกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลปกป้องระวังภัย เพราะบ้านอย่างไรก็คือบ้าน เป็นสถานที่พักพิงทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ ดังคำกล่าวว่าไม่มีที่ใดสุขใจเท่าบ้านเรา

ที่นี่มีบ้านเรือน มัสยิด กุโบ วัด สวนยาง สวนเงาะ สวนลองกอง นาข้าว แม่น้ำสายเล็ก ภูเขา สถานีอนามัย บ้านพักราชการ ร้านข้าว ร้านน้ำชา จุดตรวจ และค่ายทหาร ตั้งแต่เกิดความไม่สงบอย่างหลังเพิ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ซึ่งนำพาผู้คนแปลกหน้าต่างถิ่นมาด้วย นั่นคือไอ้เณรพลทหารที่ก่อตำนานรักภาคประชาชนและเรื่องราวความเปลี่ยนแปลงมากมายให้บังเกิด

พลทหารซึ่งไปปฏิบัติหน้าที่ภาคใต้มาจากทั่วประเทศ ผลัดเปลี่ยนกันทำหน้าที่ดูแลรักษาความสงบ ปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะหนุ่มๆ จากอีสานที่มาพบรักกับสาวแขกมุสลิม แต่งงานรับไปเป็นเมีย-มีนับสิบนับร้อยคู่

 

สุไบดะห์หรือถูกเรียกในชื่อใหม่ว่าดา เพื่อให้กลมกลืนและคล่องปากแฟนหนุ่ม หล่อนเป็นหนึ่งในนั้น ตั้งแต่พบจก เริ่มจากเห็นหน้าเห็นตา สวนกันไปมา พูดจาเย้าหยอก โบกมอเตอร์ไซค์ตรวจด้วยรอยยิ้มพร้อมขนม นับนาน จากห่างเหินกลายเป็นคุ้นเคย จากคุ้นเคยกลายเป็นชิดใกล้ จากชิดใกล้กลายเป็นแฟน หล่อนไม่รู้สึกอะไร เพื่อนๆ หล่อนก็เป็น แมะ (แม่) กับเยาะห์ (พ่อ) ก็ไม่ได้ว่า

หล่อนเคยพูดกับเพื่อน “ก็พวกทหารแต่งตัวสะอาดเบ่อ พูดกับกีตอ (เรา) เพราะๆ ถึงรู้ว่าแซวเล่นจีบแบบหนุ่มสาว แต่กีตอก็รู้สึกดี ไม่เหมือนพวกวัยรุ่นชายในหมู่บ้านนิ แต่งตัวสกปรก ผมเผ้ายาวรุงรัง วันๆ ไม่ทำงานอะไร ได้แต่ซิ่งมอเตอร์ไซค์ อาศัยว่าที่บ้านมีที่ทำสวน มีมรดกตกทอดที่คิดว่าจะไม่มีวันหมด บางคนยังติดยาเสพติดอีกต่างหาก ทั้ง 4 x 100 ยาบ้า ยาแก้ไอผสมโค้ก และอีกหลากหลายสูตรแล้วแต่จะคิดกันหล่าว ก็พวกคนไม่ดีนั้นแล ทั้งคนพุทธและอิสลามเรามีนอกมีในกับคนมีสี เอาของมาปล่อย เอาหูไปนา เอาตาไปไหนก็ไม่รู้ แบงก์สีแดง สีม่วงมันปิดหูปิดตาหมด” หล่อนว่าอย่างมีอารมณ์ และเลือกแล้วจะเป็นแฟนหนุ่มชื่อจก ซึ่งเขาสัญญาว่าจะพาหล่อนไปที่บ้าน ไปรู้จักพ่อแม่ และแต่งงานตามประเพณีทั้งสองแบบ!

มีสาวๆ หลายคนจบปอเนาะแล้วไม่ได้เรียนต่อ ด้วยเหตุผลและรายละเอียดส่วนตัวของใครของมัน เลือกเอนทรานซ์เข้าเรียมหา’ลัยชีวิตเลย คือการมีครอบครัว สาวบางคนที่ออกเรือนไปกับคนต่างถิ่นมาเยี่ยมบ้านตอนรายอ (วันอีด) ด้วยเสื้อผ้าทันสมัย คลุมผมบ้างไม่คลุมผมบ้างแล้วแต่อารมณ์ การพูดการจากับเพื่อนเปลี่ยนไป พยายามพูดไทยไม่ให้แปและ (ทองแดง) ไม่ค่อยพูดยาวี (มลายู) ถ้าไม่จำเป็น

ก่อนนิกะห์ (แต่งงาน) พลทหารจกต้องทำสิ่งที่ฝืนใจตนประการหนึ่ง นั่นคือมาโซะยาวี (เขาสุนัต) ซึ่งเขาลังเลหลีกเลี่ยงต่อรองกับผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวมาตลอด แต่ได้คำตอบที่เด็ดขาดว่าถ้าไม่ขลิบก็ไม่ให้แต่ง! เขาเลยจำยอม เคยปรึกษาเรื่องนี้กับนาย แต่กลับได้เสียงหัวเราะเป็นคำตอบ “ไอ้หนุ่มถ้าเอ็งจะเอาเมียแขกก็ต้องเข้าแขก” นายว่างั้น “เอ็งไม่ใช่คนแรก ทำๆ ไปเหอะ เดี๋ยวก็กลับไปอยู่บ้านแล้ว…หรือเอ็งป๊อด ทีลูกปืน-ระเบิด ยิงต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายไม่กลัว ดันมากลัวตัดหนังไอ้จู๋ เหอ เหอ”

หนุ่มจกจึงเข้าแขก รับอิสลามเป็นศาสนาไปอย่างงั้นๆ เพราะจุดประสงค์ต้องการมีเมีย ไม่ได้มีความศรัทธาอย่างแท้จริง วันแรกที่ทำพิธีเขานอนหน้าซีดเมื่อยาชาหมดฤทธิ์ ต้องกินยาแก้ปวด เขาลืมแล้วว่าได้ท่องอะไรไปบ้าง ‘อัชฮาดุอัลลาอิลาฮะอิลลัลลอ วาอัชฮาดุอัลนามูฮัมมาดัลรอซูลรุลลอ’ (ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺและมูฮัมมัดคือศาสนาทูตของพระองค์)-นี่คือปฐมบทแห่งคำปฏิญาณที่มุสลิมทุกคนต้องน้อมรับ ตอนพิธีเขาท่องอย่างกระท่อนกระแท่น พูดตามอิหม่ามผิดๆ ถูกๆ บางจังหวะมีหัวเราะขันตัวเอง จนตอนนี้เขาเป็นมูอาลัฟผู้เปลี่ยนศาสนาจากพุทธมาสู่อิสลาม แค่ชื่อเรียก เขาคิด ไม่ต้องพูดถึงละหมาดห้าเวลาซึ่งเป็นวัตรปฏิบัติของมุสลิม อย่าว่าแต่ทำเลย ปรัชญาที่แท้จริงเขายังไม่เข้าใจ ไหนจะเรื่องปอซอ (ถือศีลอด) ในเดือนรอมฎอนอีก เขามองไม่เห็นเหตุผลอยู่ดีว่าจะอดข้าวไปทำไมให้หิวทั้งเดือน ทั้งๆ ที่มีข้าวมีอะไรให้กิน แต่เอาเถอะเขาตกลงรับปากว่าที่เมียไปแล้วว่าจะทำ ไว้ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกที ยังไงเขาก็คือไอ้จกลูกข้าวเหนียวคนเดิม รอให้หายเป็นปกติ ให้ถึงคืนวันแต่งก่อน…

เขาจินตนาการภาพฝันอันเพริศแพร้วขณะยังนอนซม

 

หลังงานนิกะห์ จกมีเวลาสองเดือนก่อนได้หยุดหนึ่งอาทิตย์ แล้วกลับมาปฏิบัติภารกิจที่นี่ต่อพักหนึ่ง จากนั้นต้องฟังคำสั่งจากผู้ใหญ่อีกทีว่าหมู่เหล่ากรมกองของเขาจะต้องไปประจำการต่อที่ใด ระยะนี้ดาจะมานอนที่ค่ายสลับกับเขาไปนอนบ้านหล่อน ทั้งคู่ตกลงกันว่ายังไม่อยากมีลูก ให้คุมกำเนิดแบบธรรมชาติไปก่อน หล่อนกลัวเหมือนกันว่าจะพลาด กลัวเขาสนุกเพลินจนลืมตัวเอา เพราะไม่อยากเป็นคุณแม่วัยใส ยังอยากใช้ชีวิตสนุกๆ แบบวัยรุ่น อดคิดไม่ได้ถ้าหล่อนมีจริงๆ ลูกครึ่งไทยแขกจะออกมาหน้าตายังไง จะได้ทางพ่อกรามใหญ่ดั้งหักหรือเปล่า หรือจะได้ทางแม่ตัวเล็กคมเข้มผิวดำแดง…และพูดไทยไม่ชัด

แต่ที่เห็นได้ชัดคือความเป็นอยู่ของหล่อนดีขึ้นเล็กน้อย จกเจียดเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงให้หล่อนใช้บางส่วน รู้สึกดีใจที่ได้เงินจากผัวซึ่งได้มาจากรัฐอีกทีหนึ่ง ปกติรายได้ครอบครัวมาจากการทำสวนเท่านั้น ตอนนี้หล่อนเป็นเมียทหาร ไม่ใช่สุไบดะห์ไก่กาที่ไหน เพราะบ้านนี้มีลูกเขยเป็นทหารและเยาะห์รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นพ่อตาคนในเครื่องแบบ เดินแบบเอิดๆ (กร่างๆ) ไปมัสยิด-ร้านน้ำชา แต่ในใจลึกๆ แล้วหวาดหวั่นเหมือนกันว่าจะตกเป็นเป้าหมายของโจรใต้

ล่าสุดลูกเขยสั่งเปลี่ยนฝาไม้บ้านใหม่ทั้งหลัง ซึ่งเมื่อก่อนมีรูโหว่จนแสงส่องลอดได้ และกั้นห้องเป็นส่วนตัวคู่ผัวเมีย จกนับวันรอที่จะได้กลับบ้าน อยากกลับไปแต่งงานตามประเพณีของเขา ได้เจอหน้าพ่อแม่และญาติๆ ได้กินอาหารอีสานคุ้นลิ้นอย่างแท้จริง และจะพาเมียแขกไปไหว้ผู้ใหญ่ทางเขาบ้าง

สุไบดะห์จัดผ้าคลุมผมให้เข้าที่ก่อนออกจากห้องนอน วันนี้ผัวหล่อนแวบมาหาตอนกลางวัน เป็นเรื่องธรรมดาของข้าวใหม่ปลามัน เขาเปิดเกมรุกและมีจังหวะในการเข้าทำที่ไม่ใช้โอกาสเปลือง ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องปิดสกอร์ หล่อนยิ้มครึ้มอกครึ้มใจขณะแล่ปลา วันนี้จะทำกับข้าวให้เขากินอย่างประทับใจ ทำปลาข้างเหลืองคลุกขมิ้นทอด น้ำบูดูใส่เนื้อทุเรียนกับพริกขี้หนูซอย ทำดาฆิงฆอแรง (เนื้อผัด) แถมยังมีผลไม้เป็นลองกองหวานๆ จากสวนตัวเองอีกด้วย

เอาให้ลืมอาหารลาวข้าวเหนียวส้มตำปลาร้ากันไปเลย

 

เป็นครั้งแรกที่สุไบดะห์สัมผัสกับฤดูหนาว เพราะหล่อนอยู่ใต้มาตลอด ที่นั่นมีแต่หน้าร้อนกับหน้าฝนเท่านั้น นี่เป็นหนาวแรกในชีวิต ทำให้หล่อนปากแตก ผิวแตก และพูดเป็นไอ จนหล่อนต้องบอกจกให้ซื้อลิปมันและโลชั่นทาผิว ฝ่ายผัวก็เอาใจเมียอยากได้อะไรก็จัดไป เพราะวันนี้เขาอารมณ์ดีได้กลับบ้านมาแต่งงานรอบสองแบบพุทธ เขากะเมาให้ปลิ้นหลังจากอดๆ อยากๆ กับเครื่องดองของเมามานาน รู้สึกมีความสุขจนต้องปรามๆ ตัวเอง เพราะนายเคยบอกว่าบางอย่างในชีวิตเรามีโอกาสแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าโชคดีก็อาจมีครั้งที่สอง แต่เขาอยากโชคดีมากกว่านั้น คือมีความสุขตลอดไป เขาอยากคงสภาพความสุขนานๆ ไม่ใช่มาแหย่ให้อยากแล้วจากไปชั่วประเดี๋ยวประด๋าว

ครอบครัวเขาอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ห่างไกลตัวจังหวัดหลายร้อยกิโล ซึ่งเป็นชายแดนติดต่อกับอีกอำเภอหนึ่งในจังหวัดอื่น ถ้าเลือกได้เขาอยากประจำการที่ค่ายทหารแถวบ้านเกิดตลอดไป อั่น…ยังไงบ้านเฮาก็ยังดีกว่าบ้านคนอื่นเด้ ข้างฝ่ายหญิงสาวผู้แปลกถิ่น บางคืนพิษของหนาวแรกอันแปลกปลอมและไม่เคยคุ้น ชำแรกและกรายกล้ำพร้อมเสียงลมหนาวที่หวีดหวิวแห่งมัน เล่นเอาหล่อนนอนหนาวสั่นสะท้านไปถึงหัวใจ ถึงจะห่มผ้าผวยผ้านวมก็เอาไม่อยู่ ต้องให้ผัวสุมไฟร้อนให้คลายหนาว ทั้งคู่เจตนาสุมไฟให้แรง…สุมไฟให้แรง…สุมไฟให้แรง ความปรารถนาก็แดงคุโชน เพื่อเผาผลาญคืนค่ำให้มอดไหม้และแผดเผาจิตวิญญาณ

หลังวันหยุดและงานแต่งงานอันสนุกสนาน ทั้งคู่กลับใต้ จกยังทำงานตามปกติ สุไบดะห์ยังคงดำเนินชีวิตตามปกติเช่นกัน…แต่ในวันนั้น อย่างไม่มีสัญญาณเตือนหรืออะไรมาก่อน ตอนกลางวันแสกๆ ขณะที่เยาะห์และแมะไปดูสวน (อัลฮัมดุลิลละ-การสรรเสริญทั้งมวลเป็นของอัลลอฮฺ-ที่ทั้งคู่ไม่อยู่บ้าน) ผู้ก่อการร้ายยิงถล่มบ้านหล่อนที่ซึ่งจกแวะมาปิดสกอร์ เปิดฉากยิงด้วยปืน M 16 ซึ่งเป็นล็อตเดียวกับที่ปล้นจากทหาร เสียงดังเป็นชุดเกือบร้อยนัด บ้านเป็นรูพรุน ทั้งคู่ตายในห้องนอนในสภาพเปลือยเปล่า

มายะ (ศพ) สุไบดะห์ถูกฟังที่กุโบประจำกัมปง ส่วนศพจกถูกห่มด้วยธงชาติขึ้นเครื่องบินกลับบ้านเกิด

 

คืนหนึ่งรายการโทรทัศน์ทางช่องฟรีทีวีประเภทแนะนำแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมตามจังหวัดต่างๆ ซึ่งมีพิธีกรวัยรุ่นดำเนินรายการนำเทปหนึ่งมาเสนอ เขาว่าได้ไปทำสกู๊ปที่จังหวัดทางภาคอีสาน ไกด์ท้องถิ่นบอกว่าวันนี้โชคดีจะได้บันทึกเทปงานแต่งงานของคนในหมู่บ้าน ซึ่งผู้ชายเป็นทหารไปรบทางใต้แล้วได้ผู้หญิงอิสลามเป็นเมีย พิธีกรทำท่าดีใจ จนแทบรอให้เห็นกับตาไม่ไหว บอกผู้ชมทางบ้านว่าอย่าเปลี่ยนช่องไปไหน เดี๋ยวกลับมาจะได้เห็นกัน แล้วตัดโฆษณา จากนั้น…กะ (พี่ผู้หญิง) ที่ทำงานอนามัยและเป็นคนเคร่งศาสนาได้ดูถึงกับขนลุก เพราะเขาเห็นภาพคนรู้จัก นั่นคือสุไบดะห์ทำพิธีแต่งงานผูกข้อไม้ข้อมือตามประเพณีคนพุทธ ไหว้พ่อไหว้แม่ฝ่ายสามีด้วยรอยยิ้มระรื่น

พิธีกรหนุ่มยังบอกอีกว่านี่เป็นการปรองดองระหว่างพุทธและอิสลามที่สวยงาม ไม่มีการแบ่งแยกในข้อแตกต่าง จากนั้นภาพตัดมางานเลี้ยงอีกวันหนึ่ง เจ้าบ่าวกระดกเบียร์ลีโอจากขวดโดยไม่ใช้แก้ว รำป้อกับสุไบดะห์และวัยรุ่นประจำหมู่บ้านอย่างสนุกสนาน ยกมือยกไม้ส่ายเอวตามจังหวะหมอลำซิ่งม่วนคักๆ ไม่มีห้วยหนองคลองบึงอะไรทั้งนั้น มีแต่ความมันกับเมาลูกเดียว สุไบดะห์หรือน้องดา ซึ่งตอนนี้เป็นสะใภ้อีสาน หล่อนปล่อยผมยาวเป็นอิสระทิ้งผ้าคลุมฮิญาบนอนนิ่งในกระเป๋าเดินทาง

กะที่นำความมาเล่าให้ชาวบ้านฟังพูดว่า ไม่แปลกใจเลยทำไมศพของสุไบดะห์ในสุสานถึงได้ทุรนทุราย ส่งเสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนทุกค่ำคืน หล่อนถือว่าตกศาสนาแล้ว เพราะได้เข้าร่วมในพิธีของคนศาสนาอื่น การแต่งงานและกระทำของหล่อนทั้งหมดไม่ได้รับการอนุมัติ เป็นบาปอันใหญ่หลวงที่ไม่มีวันปลดเปลื้องได้ •