จักรวาลแห่งความไม่รู้ | ฟ้า พูลวรลักษณ์

ในจักรวาลนี้ มีสสารมืด และพลังงานมืด เป็นสิ่งที่เราไม่รู้ หากแต่ทำให้ดาราจักรทั้งหลายมีรูปร่างอย่างที่เป็น และขยายตัวด้วยความเร็วอย่างที่เห็น

หากเทียบสมองของมนุษย์กับจักรวาล เรารู้จักสมองของเรามากกว่า

แต่ก็เช่นเดียวกัน สิ่งที่เราไม่รู้มีมากกว่า

ฉันอ่านบทความมากมายทางการแพทย์ และตกตะลึงที่พบว่า หากสรุปเป็นภาษาชาวบ้านง่ายๆ บทความเหล่านั้น ส่วนใหญ่ สรุปได้ว่า ไม่รู้

สิ่งที่รู้คือ ขอให้ออกกำลังกาย และกินอาหารที่ดีมีประโยชน์

ให้นอนหลับอย่างเพียงพอ

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทุกคน ก็รู้อยู่แต่ก่อนแล้ว

สิ่งที่ไม่รู้ยังคงมหึมา และเราตกอยู่ในการคาดเดา เพื่ออยากมีอายุยืนขึ้นอีกนิดหน่อย

โรคต่อไปนี้ เป็น Multifaceted หรือมีหลายแง่มุม ได้แก่

๑. อัลไซเมอร์

๒. โรคหัวใจ

๓. มะเร็ง

๔. โรคภูมิแพ้

พวกมันล้วนเป็นโรคที่เราไม่รู้สักเท่าไร

สรุปคือ เราอยู่ในทะเลแห่งความไม่รู้

การสันนิษฐาน ก็คือการคาดเดา

การรักษาแบบคาดเดา อาจได้ผลบ้าง แต่ความจริงคือ แต่ละสังขาร มีอัตลักษณ์

เราอาจสรุปได้ว่า สังขารของมนุษย์อุดมไปด้วย สสารมืดและพลังงานมืด เช่นเดียวกัน

ท้ายสุด หมอจะขู่ว่า หากไม่เชื่อหมอ คุณจะตายเมื่อไหร่ก็ได้ และมนุษย์เกือบทั้งหมด ล้วนกลัวตาย ทุกคนจึงเชื่อฟังหมอแต่โดยดี

แต่ที่จริง หมอไม่อาจรับประกันได้ ว่าหากฉันข้ามถนน ฉันจะไม่ถูกรถชน

และหมอมากมาย ตายก่อนคนไข้ เป็นเรื่องปกติ

 

บางโรคมีต้นเหตุเป็นร้อย เป็นพัน ซ่อนเร้น เร้นลับ

พันกันดั่งปมด้าย

บ้างเป็นเรื่องของยีน

บ้างเป็นปัญหาของภูมิคุ้มกัน

บ้างมาจากแบคทีเรีย หรือไวรัส ที่ไขว้สลับกัน

แต่อาการรวมที่ออกมา กลับคล้ายกัน จนแยกไม่ออก

วิชาการแพทย์ จึงยังมีให้เรียนรู้ ไม่รู้จบ

หมอแต่ละคน แตกต่างกันมาก อย่างเหลือเชื่อ

โรคภูมิแพ้ มักจะเป็นตอนที่เราอายุมากแล้ว ในการใช้ชีวิต ในการเดินทาง จะมีวันหนึ่งที่ไปโดนมัน

ตอนฉันอายุ ๔๕ ฉันเริ่มเป็นโรคภูมิแพ้ วันหนึ่ง ฉันเดินทางในสเปน วันนั้นฉันกินอาหาร สั่งถูกอาหารจานหนึ่ง ที่เขาใส่เหล้า ฉันคิดว่าคงไม่เป็นไร เพราะเคยกินอาหารจีนหลายอย่าง ที่ใส่เหล้า ก็ปลอดภัยดี แต่อาหารจานนี้ มันโดนภูมิต้านทานของฉันพอดี ไม่รู้เพราะอะไร เหมือนโดนไฟช็อร์ต ฉันเป็นโรคภูมิแพ้ นับแต่นั้น

วันนี้ ฉันควบคุมมันจนหายเกือบเป็นปกติ แต่ก็ยังไม่หายสนิท ยังเหลือร่องรอยนิดหน่อย ฉันต้องคอยระวัง เก็บยากินและยาทาไว้ใกล้ตัว คอยระวัง

อาสาวของฉัน เกิดโรคภูมิแพ้ ในรถทัวร์ วันหนึ่งมีคนข้างหน้าสูบบุหรี่ และควันมันพุ่งเข้าหาเธอ ไปโดนภูมิต้านทานของเธอ ทำให้มันช็อก มันแค่บ่ายวันหนึ่ง เท่านั้นเอง แต่เธอต้องเกิดภูมิแพ้ไปทั้งชีวิต

เพื่อนของฉันคนหนึ่ง เดินทางในเขมร แล้วอยู่ๆ วันหนึ่ง ก็เกิดอาการภูมิแพ้ นับจากนั้น เวลาโดนยุงกัดแค่นิดหน่อย ร่างกายจะมีผื่นขึ้นทั้งตัว

จักรวาลของเรานี้ ช่างเวิ้งว้าง และกว้างใหญ่ อย่างสุดจะประมาณ

ดาราจักรที่เราอาศัยอยู่นี้ ชื่อทางช้างเผือก

ดาราจักรเล็กที่อยู่ใกล้ทางช้างเผือกที่สุด คือหมาใหญ่ อยู่ห่างจากเรา 25,000 ปีแสง

ดาราจักรใหญ่ที่อยู่ใกล้เรามากที่สุดคือ Andromeda อยู่ห่างออกไป 2.5 ล้านปีแสง

ในระหว่างนั้น คืออวกาศ อันเวิ้งว้าง กว้างใหญ่

หากมันว่างเปล่าไปเลย อาจจะง่าย

แต่ในความว่างเปล่า มันก็ไม่ได้ว่างเปล่าทีเดียว

ภายในนั้นมี สสารมืด พลังงานมืด มีแก๊ส มีฝุ่น

แม้ในความเวิ้งว้างที่สุด มีอะตอมกระจายตัวออก เป็นเม็ดๆ

อย่าล้อเล่นกับความว่างเปล่า มันเป็นที่สุดแห่งความเร้นลับ

 

๑๐

มนุษย์สร้าง AI ขึ้นมารับใช้เรา และมันทำประโยชน์ได้มหาศาล

แต่แล้วมันก็จะเป็นปัญหาของเราในอนาคต

ในขณะเดียวกัน มนุษย์ก็ต้องต่อสู้กับปัญหาโลกร้อน และทุกปัจเจกชนก็ต้องปรับตัว ยอมสูญเสียบางสิ่งบางอย่าง ในชีวิตของเรา เพื่อปกป้องโลก

มันเป็นอีกหนึ่งสงคราม

๑๑

สงครามกับโรคภัยไข้เจ็บ ก็จะยังดำเนินต่อไป เหมือนบุพกาล

โดยรวม มนุษย์จะก้าวหน้าขึ้น แต่โดยปัจเจกชน บางคนกลับตายเร็วขึ้น บางคนกลับไม่รอด ด้วยความผิดพลาดของการแพทย์สมัยใหม่ ชีวิตบางคนกลับเลวร้ายลง และแก้ไขไม่ได้ ฉันเจอคนมากมาย ที่ชีวิตแย่ลง หลังผ่าตัด แต่เทียบไม่ได้ กับชีวิตคนที่ดีขึ้น หลังผ่าตัด เพราะไม่มีเส้นแบ่ง เราหาเส้นนั้นไม่เจอ เป็นเรื่องของดวง

๑๒

แต่นี้คือสงครามบุพกาล ที่มนุษย์ต้องต่อสู้กับสิ่งแวดล้อม กับสัตว์ที่จะมากินเรา กับสังขารของตัวเอง ที่สร้างปัญหาไม่สิ้นสุด

และวันหนึ่ง หากเราเจอสิ่งมีชีวิตต่างดาว

เราก็ต้องทำสงครามกับชีวิตต่างดาว ด้วยสภาวะที่เข้มข้นขึ้น

๑๓

ทำไมเราจึงดีใจนักหนา ที่จะเจอมนุษย์ต่างดาว มันไม่ใช่ข่าวดีอะไร ฉันไม่ได้รังเกียจหรือหวาดกลัว แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องดี

ทำไมอยากสร้างอาณานิคม ในดวงดาวมากมาย มันเป็นการฉีกปัญหา ให้เพิ่มทวีขึ้น อย่างนับไม่ได้ เกิดสงครามซับซ้อนกว่าเดิม ทุกๆ หนึ่งดวงดาวในจักรวาล ทุกๆ หนึ่งอาณาจักร คือหนึ่งสมาชิกใหม่ ของสงคราม