อาชญากรรม | อาชญา ข่าวสด

 

ชนวนฆ่า หน.ด่านกักสัตว์

บุกยึดหมูเถื่อน-บานปลาย

‘นายกฯ’ สั่งกรมศุลฯ คุมเข้ม

ประกาศสงครามแก๊งนำเข้า

 

วิกฤตการระบาดของ “โรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกร” (African Swine Fever) หรือ ASF เมื่อหลายปีก่อน ทำให้ฟาร์มเลี้ยงหมูต้องลงทุนยกระดับมาตรฐานใหม่ทั้งหมด ผู้เลี้ยงหมูรายกลางและรายเล็กสุดจะแบกรับภาระ พากันล้มหายตายจากไปเป็นจำนวนมาก

หมูหายไปจากระบบกว่า 10 ล้านตัว ทำให้ช่วงต้นปี 2565 ราคาหมูเนื้อแดงในประเทศพุ่งขึ้นไปใกล้แตะ 300 บาท/ก.ก. ก่อนจะค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างช้าๆ

แต่ล่าสุด กลับต้องมาเผชิญกับปัญหาการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนมาขายตัดราคา กระทบราคาหมูหน้าฟาร์มปรับตัวลดลงมาตลอด เกษตรกรต้องจำใจขายแม้นรู้ว่าต้องขาดทุน

ปัญหาคราวนี้นับว่ารุนแรงสาหัส จนรัฐบาลต้องสั่งเร่งปราบปรามอย่างจริงจัง

กลายเป็นที่มาของคดีสยองเมืองหล่มสัก

เสี่ยห้องเย็นยิงดับ หน.ด่านกักสัตว์

ย้อนไปเมื่อเย็นวันที่ 11 ตุลาคม ร.ต.อ.พิทักษ์ ดีแซง พนักงานสอบสวน สภ.บ้านกลาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ที่บ้านเลขที่ 9/9 หมู่ 1 ต.ช้างตะลูด อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบจากนั้นรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ พ.ต.อ.ปริญญา ทองมา ผกก.สภ.บ้านกลาง แพทย์เวรโรงพยาบาลหล่มสักและอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูหล่มสัก

ที่เกิดเหตุเป็นโกดังขนาดใหญ่กำลังปรับปรุงให้เป็นทั้งบ้านพักและห้องเย็น รวมทั้งเตรียมที่จะสร้างเป็นโรงฆ่าสัตว์อีกด้วย พบผู้เสียชีวิตคือนายศราวุธ ประจวง สัตวแพทย์ชำนาญงาน ตำแหน่งหัวหน้าด่านกักสัตว์จังหวัดเพชรบูรณ์ ถูกอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. เข้าที่แขน ลำตัว และขากรรไกรด้านซ้าย รวม 5 นัด เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ในสภาพสวมเครื่องแบบข้าราชการสังกัดกรมปศุสัตว์

ส่วนผู้บาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายพงษ์พันธา ศรีสุวรรณ์ อายุ 50 ปี สัตวแพทย์ชำนาญงาน ถูกยิงเข้าที่บริเวณเอวด้านซ้าย จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลหล่มสัก

ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายอนุสรณ์ ดอนสวรรค์ หรือเสี่ยนุ อายุ 57 ปี เจ้าของบ้านและห้องเย็นดังกล่าว รอมอบตัวอยู่พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ

พล.ต.ต.ฐเดชเปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุ นายศราวุธนำเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ตรวจค้นพบเนื้อสุกรประมาณ 800-1,000 กิโลกรัม อยู่ในห้องเก็บแช่เย็น จึงสอบถามถึงแหล่งที่มาของเนื้อสุกร

โดยนายอนุสรณ์แจ้งว่า เนื้อสุกรดังกล่าวนำมาจากจังหวัดนครปฐมแต่ไม่มีหลักฐานแสดงที่มา และเกิดการโต้เถียงกันขึ้น เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จึงแจ้งข้อหาให้ทราบว่ามีความผิดฐานจำหน่ายเนื้อสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมควบคุมโรคอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 ตามมาตรา 38 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพ และยินยอมให้เปรียบเทียบปรับ เป็นเงินจำนวน 25,000 บาท พร้อมอายัดเนื้อสุกรไปตรวจสอบหาเชื้อโรค

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำบันทึกเปรียบเทียบปรับอยู่นั้น นายศราวุธผู้ตายและนายพงษ์พันธา ผู้บาดเจ็บ เดินไปบริเวณด้านหลังบ้านหน้าตู้แช่เย็นเนื้อสุกร ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนรออยู่ด้านหน้าบ้านกับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ที่กำลังทำบันทึกเปรียบเทียบปรับอยู่

ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงอาวุธปืนดังขึ้น จำนวน 5 นัด เมื่อตำรวจเข้าไปตรวจสอบพบนายศราวุธถูกยิงเสียชีวิตคาที่ ส่วนนายพงษ์พันธาบาดเจ็บ ขณะที่นายอนุสรณ์ถืออาวุธปืนเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ภายหลังเสร็จสิ้นการสอบสวนแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำตามหน้าที่หรือเพราะเหตุที่จะกระทำหรือได้กระทำตามหน้าที่, พยายามฆ่าเจ้าพนักงานฯ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต กับนายอนุสรณ์

ขณะที่นายสัตวแพทย์ บุญญกฤช ปิ่นประสงค์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ เดินทางมาที่ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ก่อนเผยว่า จากการตรวจสอบห้องเย็นดังกล่าวได้ขออนุญาตถูกต้อง แต่มีการนำเนื้อหมูมาจากจังหวัดนครปฐม เข้ามาในจังหวัดเพชรบูรณ์โดยไม่ได้รับอนุญาต

ขณะนี้เรากำลังตรวจสอบอยู่ ในส่วนของการสอบสวน เราต้องสอบสวนว่า หมูมาจากนครปฐมมีการเคลื่อนย้ายมาอย่างไร แต่ในช่วงนี้อยู่ในช่วงของการดำเนินการ ซึ่งยังอยู่ในระหว่างรวบรวมหลักฐาน และตรวจสอบย้อนกลับมาว่า มีการขออนุญาตหรือไม่ หรือแหล่งที่มาอย่างไร

ถ้าเราสามารถสืบค้นได้ว่ามาจากห้องเย็นใดที่ในจังหวัดนครปฐม เราก็จะดำเนินการเข้าไปตรวจสอบทันที เราทำด้วยความปรารถนาดี อยากให้การประกอบอาชีพมั่นคง ถูกกฎหมาย และก็สามารถที่จะสร้างรายได้ให้ได้ ฉะนั้น บางทีอาจจะมีเรื่องของความไม่เข้าใจ เราก็จะให้คำแนะนำในเรื่องของค่าปรับต่างๆ อาจจะดูเหมือนรุนแรงหรือไม่

ในกรณีนี้ทุกอย่างเรียบร้อยหมด เท่าที่ทราบคือไม่ได้มีบทลงโทษอะไรรุนแรงมาก ไม่ถึงขั้นจำคุก มีแค่ปรับเฉยๆ

จึงถือเป็นเหตุไม่คาดฝัน

ธรรมนัสสั่งเอ็กซเรย์ทั่วประเทศ

หลังเกิดเหตุ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่าเหตุการณ์ยิงเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จนเสียชีวิตและบาดเจ็บครั้งนี้ น่าจะเป็นผลจากการที่ตนสั่งกวาดล้างและทำลายขบวนการนำเข้าสินค้าเกษตรเถื่อนอย่างจริงจัง โดยล็อตแรกมีการเผาทำลายหมูเถื่อนเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2566 ซึ่งเป็นซากสุกรของตกค้างและของกลางในคดี พิเศษที่ 59/2566 จํานวน 161 ตู้ ณ สำนักงานชลประทานที่ 9 จังหวัดชลบุรี ซึ่งถือเป็นการทำลายของกลางครั้งประวัติศาสตร์ ที่มีการทำลายสินค้าเถื่อนมากถึง 4.5 ล้านกิโลกรัม หรือ 4 พันตัน มูลค่ารวมกว่า 450 ล้านบาท

และจนถึงขณะนี้ยังมีการตรวจสอบห้องเย็นเพื่อปราบปรามการลักลอบขนส่งและซุกซ่อนหมูเถื่อน หรือสินค้าเกษตรอื่นอย่างต่อเนื่อง

จนทำให้ผู้กระทำผิดหวาดเกรงและพยายามตัดเส้นทางที่จะสาวถึงนายทุนใหญ่ดังกล่าว

ถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงอุกอาจที่กระทำต่อเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีทางสู้ จะไม่ยอมให้ผ่านเรื่องนี้ไปง่ายๆ และต้องให้ผู้กระทำผิดถูกลงโทษตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด

นอกจากนี้ ยังประสานไปยังนายสุทิน คลังแสง รมว. กระทรวงกลาโหม และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้สนธิกำลังทหารและสั่งการผู้การจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งกำลังชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษลงพื้นที่ พร้อมกับหน่วยงานของกรมปศุสัตว์ ติดตามตรวจสอบห้องเย็นทั่วประเทศ

ยังได้รับทราบข่าวและมีเบาะแสว่ามีเจ้าหน้าที่ตามด่านกักกันตามแนวชายแดนหลายแห่งถูกข่มขู่เอาชีวิต โดยเฉพาะด่านทางอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งจะต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างเต็มที่

“ผมขอแสดงความเสียใจต่อเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ผู้เสียชีวิต เบื้องต้นทราบว่าเป็นถึงหัวหน้าด่านตรวจ ซึ่งได้กำชับให้อธิบดีกรมปศุสัตว์ดูแลเยียวยา ครอบครัวและบุตรอย่างเต็มที่ เบื้องต้นมอบเงินช่วยเหลือ 100,000 บาท ส่วนผู้ที่บาดเจ็บต้องรักษาและเยียวยาขวัญกำลังใจเช่นกัน เพราะเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนกต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน แต่เรื่องนี้ไม่ทำให้ผมหวั่นไหวหรือล้มเลิกที่จะล้างบางผู้กระทำผิดกฎหมาย จึงต้องตรวจเอ็กซเรย์ทั่วประเทศเข้มข้นมากขึ้น ไม่มีละเว้นว่าใครเป็นนายทุน หรืออยู่เบื้องหลังห้องเย็นเถื่อนแม้แต่รายเดียว”

ร.อ.ธรรมนัสระบุ

เศรษฐาสั่งกรมศุลฯ คุมเข้ม

ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง รีบประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการลักลอบการนำเข้าเนื้อสัตว์

โดยนายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า นายเศรษฐาสั่งการให้กรมศุลกากรมีมาตรการในการควบคุมอย่างเคร่งครัดในการเข้มงวด กวดขันการลักลอบ/หลีกเลี่ยง นำเข้าเนื้อสุกร เนื้อโค เนื้อกระบือ จากต่างประเทศในทุกช่องทาง และให้เร่งรัดติดตามการดำเนินคดี/ยึดทรัพย์ ผู้กระทำความผิดและผู้สนับสนุนการกระทำความผิด และหากมีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการทั้งในด้านวินัยและคดีอาญาให้ถึงที่สุด โดยตั้งคณะกรรมการกลางเพื่อเร่งรัด และตรวจสอบการดำเนินการในเรื่องนี้ขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนของกรมศุลกากรได้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน สั่งการให้ทุกสำนักงาน/ด่านศุลกากร และกองสืบสวนสวนและปราบปราม ให้เข้มงวดและพร้อมเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าสินค้าที่มีความเสี่ยงซึ่งอาจมีการสำแดงข้อมูลเป็นเท็จ โดยการสำแดงชนิดสินค้าเป็นสินค้าอื่นเพื่อลักลอบ/หลีกเลี่ยง นำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร อีกทั้งให้เฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าผ่านทางช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนอีกด้วย

หากพบว่าผู้นำเข้ารายใดมีการลักลอบ/หลีกเลี่ยง นำเข้าเนื้อสุกร เนื้อโค เนื้อกระบือ จากต่างประเทศในทุกช่องทาง จะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด โดยไม่ยินยอมให้ทำความตกลงระงับคดีในชั้นศุลกากร หากผู้ประกอบการใดถูกดำเนินคดีฯ จะพิจารณาระงับการปฏิบัติพิธีศุลกากรทันที

สำหรับสถิติการจับกุมกรณีลักลอบและหลีกเลี่ยงศุลกากร กรณี เนื้อสุกรและส่วนอื่นที่บริโภคได้ของสุกร ในปีงบประมาณ 2564 มีการจับกุม 14 ราย น้ำหนัก 236,177 กิโลกรัม ปีงบประมาณ 2565 มีการจับกุม 25 ราย น้ำหนัก 431,660 กิโลกรัม และปีงบประมาณ 2566 มีการจับกุม 181 ราย น้ำหนัก 4,772,073 กิโลกรัม

ลุยค้นห้องเย็นที่มหาชัย

ภายหลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยฯ สั่งการให้ประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรทุกประเภททั้งพืช ผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ ที่มีการลักลอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย พร้อมตั้งชุดพิเศษหรือชุดเฉพาะกิจขึ้นมาปฏิบัติการ ก็มีการบุกตรวจยึดเนื้อสัตว์ต้องสงสัยว่าจะลักลอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมายตามห้องเย็นต่างๆ ทั่วประเทศ

โดยวันที่ 17 ตุลาคม นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ พร้อมผู้เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นห้องเย็นแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ตำบลโคกขาม อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ก่อนสั่งอายัดเนื้อสัตว์แช่แข็ง เช่น เนื้อกระบือ เนื้อหมู ขาไก่และปลาทู เป็นต้น เพื่อดำเนินการตรวจสอบ

นายสมชวนเปิดเผยว่า ชุดเฉพาะกิจลงมาเปิดปฏิบัติการตรวจค้นพร้อมกัน 21 แห่ง จากเป้าหมายกว่า 140 แห่ง โดยที่ห้องเย็นแห่งนี้พบว่าเป็นล็อตใหญ่ที่สุด ที่มีการลักลอบกักเก็บเนื้อสัตว์นำเข้าจากต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ และกรมประมง มีเพียงการแสดงเอกสารว่าขออนุญาตนำเข้าและจำหน่ายจากกรมการค้าภายในเท่านั้น

อีกทั้งเนื้อสัตว์ที่นำมากักเก็บไว้ยังเป็นเนื้อสัตว์ที่นำเข้ามาจากประเทศอินเดียและตุรกี ที่ไม่ได้มีการอนุญาตให้นำเข้ามาในประเทศไทยอีกด้วย

จากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินตรวจนับปริมาณเนื้อสัตว์ที่ตรวจพบทั้งหมดให้เป็นที่ชัดเจน พร้อมกับเรียกผู้ดูแลสถานประกอบการหรือเจ้าของสถานประกอบการ มาสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเนื้อสัตว์ที่นำมากักเก็บไว้ภายในทั้งหมด

และจะต้องทำการขยายผลถึงผู้ที่นำมาฝากแช่แข็งอีกด้วย เพื่อนำผู้กระทำความผิดทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ปัญหาการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศ ผู้บริโภคอาจจะว่าได้ประโยชน์จากราคาเนื้อหมูที่ถูกลง

แต่มันสร้างผลเสียหายใหญ่หลวงต่ออุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ที่ถูกกฎหมาย และที่ถูกควบคุม

ที่สำคัญอาจนำโรคจากสัตว์ เช่น โรคปากและเท้าเปื่อย หรือโรคอหิวาต์สุกรแอฟริกัน มาระบาดในประเทศซึ่งส่งผลร้ายแรงเช่นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

 

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022