600 วัน สงคราม ‘รัสเซีย-ยูเครน’ การสู้รบที่ยังไม่จบสิ้น

ในขณะที่ทั่วโลกกำลังจับจ้องไปยังสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาส ที่ดูท่าทีว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

หากแต่สงครามอีกมุมหนึ่ง ที่เกิดมาก่อนหน้านี้ คือสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ก็ยังคงดำเนินต่อไป

แม้ว่าสถานการณ์สู้รบระหว่างยูเครนกับรัสเซีย จะล่วงเข้าสู่วันที่ 600 แล้ว หากแต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ

แต่มีเจ้าหน้าที่กรุงเคียฟของยูเครน เปิดเผยเอาไว้ว่า ความพยายามต่อเนื่องมาหลายวันของกองทัพรัสเซีย ที่จะโจมตีจุดยุทธศาสตร์ทางตะวันออกของยูเครน ดูเหมือนจะเริ่มหมดแรงลงแล้ว

วิทาลี บาราบาช หัวหน้าฝ่ายบริหารเมืองของยูเครน บอกว่า กองกำลังยูเครนสามารถขับไล่การโจมตีของรัสเซียได้ถึง 15 ครั้ง จาก 4 ทิศทาง เหนือน่านฟ้าเมือง “อัฟดีฟกา” ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (ณ วันที่ 17 ตุลาคม) ซึ่งเมื่อเทียบกับการโจมตี 60 ครั้งต่อวันในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

แสดงให้เห็นว่า ความพยายามของรัสเซียที่ต้องการจะยึดเมืองอัฟดีฟกานั้น กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ “ย่ำแย่” ลง

 

สถาบันศึกษาสงคราม คณะทำงานในกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เห็นพ้องต้องกันกับการประเมินดังกล่าว โดยระบุว่า “กองกำลังรัสเซียยังคงปฏิบัติการเชิงรุก โดยพุ่งเป้าไปที่การปิดล้อมเมืองอัฟดีฟกา แต่ยังไม่เกิดผลอะไรเพิ่มเติม ท่ามกลางปฏิบัติการของรัสเซียในพื้นที่ที่มีแนวโน้ลดลง”

วาสสิลี เนเบเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำสหประชาชาติ บอกกับที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ปลายสัปดาห์ก่อนหน้านั้นว่า การโจมตีที่เพิ่มขึ้นทางตะวันออก ถือว่าเป็นอีกระดับของปฏิบัติการของรัสเซียในยูเครน

ทั้งนี้ ยูเครนได้เปิดฉากการตอบโต้ด้วยกองกำลังของตนเอง เมื่อราว 4 เดือนก่อน แม้จะมีความคืบหน้าบ้าง แต่ก็เป็นความสำเร็จที่มีอยู่อย่างจำกัด

อย่างไรก็ตาม แม้สงครามจะยืดเยื้ออย่างไร หากชาติตะวันตกที่เป็นพันธมิตรของยูเครนยืนยันว่า จะเดินหน้าสนับสนุนทางทหารและการเงินต่อยูเครนต่อไป ในขณะที่สงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาส ก็มาเกิดขึ้นอีก และยังคงรุนแรงอยู่ ก็ต้องช่วยทางอิสราเอลด้วย

 

เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐได้ขอให้สภาคองเกรส รวมความช่วยเหลือที่มีต่อยูเครน และอิสราเอล เข้าด้วยกัน ที่คิดเป็นเงินมูลค่ากว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ด้านทางการยูเครนระบุว่า กองทัพของยูเครนเองกำลังต่อต้านความพยายามอันดุเดือดของรัสเซีย ที่ต้องการเข้าไปแย่งชิงเพื่อยึดเมืองอัฟดีฟกา ซึ่งเป็นเมืองที่มีป้อมปราการอันแน่นหนา

ทั้งนี้ อัฟดีฟกา ตั้งอยู่บริเวณชานเมืองทางตอนเหนือของเมืองโดเนตสค์ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีชื่อเดียวกับพื้นที่ที่กองกำลังรัสเซียยึดครองเอาไว้บางส่วน โดยที่ตั้งของเมืองอัฟดีฟกานี้ จะทำให้กองกำลังยูเครนมีความได้เปรียบเมื่อใช้ปืนใหญ่ในการตอบโต้รัสเซีย

ขณะที่ยูเครนมองว่ารัสเซียเริ่มอ่อนแอลงในการบุกยูเครน และยูเครนสามารถตอบโต้ได้ดีขึ้น หากแต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้กล่าวระหว่างการเดินทางไปจีน ยืนยันว่า การตอบโต้ของยูเครนนั้น ยังไม่ประสบผลใดๆ มีเพียงความสูญเสียครั้งใหญ่เท่านั้น

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สถานการณ์การสู้รบระหว่างสองฝ่าย ที่ต่างกล่าวอ้างว่ากำลังได้เปรียบ ส่วนอีกฝั่งกำลังถดถอย ก็ยังคงไม่สามารถเชื่อใครได้ เพราะไม่มีใครรู้ข้อมูลที่แท้จริงจากสนามรบที่กำลังคุกรุ่นอยู่ในตอนนี้

มีเพียงความเสียหายใหญ่หลวงที่เกิดขึ้นในประเทศที่อยู่ท่ามกลางสงคราม ให้ชาวโลกได้เห็น และรับรู้