กระสุนมรณะ ถ้าไม่ใช่ ‘มหาดไทย’ แล้วใครจะรับผิดชอบ

เหยี่ยวถลาลม

 

กระสุนมรณะ

ถ้าไม่ใช่ ‘มหาดไทย’

แล้วใครจะรับผิดชอบ

 

คําพิพากษาหลายต่อหลายคดีของ “ศาลอาญาคดีทุจริตฯ” น่าจะกำราบให้เกิดความหลาบจำ

ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ “ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 3” ก็มีคำพิพากษาให้จำคุก 105 ปี อดีตผู้อำนวยการกองการศึกษา อบจ.ยโสธร จากคดีที่เอารถหลวงไปใช้ส่วนตัวเกือบ 2 ปี ใช้ไปกลับที่ทำงาน-บ้านพัก กับบางวันใช้ไปสนามกอล์ฟ “จำเลย” รับสารภาพ โทษลดแล้วคงเหลือจำคุก 50 ปี

จะว่าไปแล้ว ในวงราชการและแวดวงการเมือง ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ “ชาชิน” กับเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นซึ่งยังมีอีกมากมายที่ “กระทำความผิด” กันจนเชื่อว่าเป็นความปกติ เพียงแต่ไม่มีผู้ร้อง ไม่มีผู้จับ ไม่มีผู้ฟ้อง

เรื่องจึงดำเนินไปไม่ถึงจุดที่มี “คำพิพากษา”

 

เรื่อง “อาวุธ” กับ “กระสุน” ก็เช่นเดียวกัน

การทุจริตเกี่ยวกับอาวุธปืนและกระสุนปืนเป็น “ความเลวร้าย” และเป็น “ภัยร้ายแรง” ต่อสาธารณชนเสียยิ่งกว่าเอารถหลวงไปใช้ส่วนตัวหรือขับไปสนามกอล์ฟหลายเท่านัก เพียงแต่จะมีใครรื้อ จะมีใครร้อง และจะมีใครฟ้องนำคดีขึ้นสู่ศาล กระทั่งมี “คำพิพากษา” เป็นบรรทัดฐานให้สังคมได้ตระหนัก

ย้อนกลับไปที่เหตุการณ์เด็กอายุ 14 กราดยิงผู้คนในห้างพารากอน เสียชีวิต 3 ราย จะว่าไป “หัวใจ” ของเรื่องนี้ไม่ใช่ “สิ่งเทียมอาวุธปืน” ที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็น “อาวุธปืน”

หากแต่เป็น “กระสุนปืน”!

ปืนที่มีกระสุนพร้อมลั่นไกถึงจะเป็นภัยกับผู้คน “ปืน” ถ้าไร้ซึ่งกระสุน “สากกะเบือ” ยังจะใช้ทุบหัวคนได้ถนัดกว่า

ปืนจึงต้องคู่กับกระสุนปืน

ผู้ประกอบกิจการร้านค้าปืนที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าและขายทั้ง “ปืน” และ “กระสุนปืน” ไม่ว่าจะเป็นปืนสั้น ปืนยาว กระสุนปืนสั้น กระสุนลูกซอง ลูกกรด กระสุนปืนอัดลม ทั้งหมดต้องเป็นไปตาม “โควต้า” ที่กฎหมายกำหนด

ทุกขั้นตอนของการอนุญาตเกี่ยวอาวุธปืนและกระสุนปืนอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย

ซื้อปืน 1 กระบอก ได้กระสุนไปกี่นัด กฎหมายก็กำหนดต้องได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนปืน

ขายปืนไปกี่กระบอก ลูกกระสุนกี่นัด ร้านค้าปืนก็ต้องทำ “บัญชีจำหน่าย” หรือบัญชีคุมรายงานนายทะเบียน

 

“ปืน” ที่ซื้อไปจากร้านค้า โดยทั่วไปแล้วไม่มีใครเอาไปก่ออาชญากรรม เว้นแต่ใช้ “อัตวินิบาตกรรม”

“อาวุธปืน” ที่เด็กเอาไปก่อเหตุเป็น “สิ่งเทียมอาวุธปืน” ที่ซื้อจากออนไลน์แล้วเอาไปดัดแปลงเป็นปืน ที่น่าสนใจคือ เด็กไปหา “กระสุนปืน” มาจากไหน

“รูรั่วไหล” ของกระสุนปืนในบ้านเรากว้างใหญ่เหมือนสายน้ำ

รายรอบตัวของทุกผู้คนทุกวันนี้จึงเต็มไปด้วยภัยอันตราย!

ขับรถเฉี่ยว เบียด ปาด อาจถึงตาย เพราะปืนหาง่าย กระสุนก็หาง่าย

แต่ในท่ามกลางภัยอันตรายนี้ ประชาชนทั่วไปกลับได้รับกรรมจาก “มาตรการ” ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ให้ควบคุม “ประชาชนทั่วไป “อย่าให้มีโอกาสเข้าถึงอาวุธปืน

เด็ดยิ่งกว่านั้น “เจ้าพนักงานของรัฐ” ถูกจำกัดให้มีอาวุธปืนได้เพียงคนละ 1 กระบอก

แต่ “ไม่มี” มาตรการที่เฉียบคมเด็ดขาดสำหรับโจร!

เจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานอัยการ ผู้พิพากษา ฝ่ายปกครอง สรรพสามิต สรรพากร ศุลกากร เจ้าพนักงานของรัฐทั้งหลาย จะได้รับอนุญาตให้มีปืนคนละกี่กระบอก ไม่เห็นจะเป็นปัญหาอะไรกับสังคม

ที่ควรจะโฟกัสคือ การทุจริต และโจรผู้ร้าย!

ต้องออกแบบคิดหาวิธีจัดการกับ “การทุจริต” ที่ทำให้ “ปืนเถื่อน” แพร่หลายและ “กระสุน” หาง่าย ซื้อคล่องทั้งที่ “สนามซ้อมยิงปืน” และ “ทางออนไลน์”

ทุกครั้งที่มีเหตุเกิดจาก “ปืน” รัฐมีแต่ถนัดฟาดแส้ลงบนหัวประชาชน ออกมาตรการควบคุมไม่ให้มีปืน หรือถ้าใครมีอยู่แล้วก็ “ห้าม” ไม่ให้เอาไปใช้ ตั้งกำแพงสูงๆ สร้างความยุ่งเหยิงยุ่งยากกีดกันไม่ให้พกพาโดยไม่ได้สนใจว่าการดำเนินธุรกิจหรือชีวิตผู้คนที่ต้องสัญจรไปมาจะต้องเสี่ยงอันตรายอย่างไร

 

หลายปีมาแล้วที่ “กระสุนปืน” ซื้อง่ายขายคล่องทางออนไลน์ พร้อมกับเก็บเงินปลายทางเมื่อผู้ซื้อได้รับสินค้าถูกต้องครบถ้วนตรงปก

ร้านค้าออนไลน์พวกนั้นเอากระสุนปืนมาจากไหน!?

จะต้องตรวจสอบและให้คำตอบกับสังคมหรือไม่ว่า “นายทะเบียนปืน” ออกใบอนุญาตให้ “สนามซ้อมยิงปืน” ซื้อกระสุนปืนได้อย่างไรครั้งหนึ่งเป็นพันๆ หมื่นๆ นัด หลังจากนั้นมีระบบควบคุม ตรวจสอบอย่างไรว่า “กระสุน” ไม่หลุดไปอยู่ใน “มือโจร”

“กระสุน” ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำให้สนามซ้อมยิงปืน

ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้วการอนุญาตให้ซื้อ “กระสุนปืน” นั้นกฎหมายกำหนดว่า ผู้ซื้อจะต้องมี “ใบ ป.4” หรือใบอนุญาตให้มีปืน

สนามซ้อมยิงปืนไม่ใช่บุคคลธรรมดา ที่จะมีใบ ป.4 และไม่ใช่ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการค้าเหมือนเช่นร้านค้าอาวุธปืน ที่จะมีใบ ป.5 (ใบอนุญาตประกอบการค้าอาวุธปืนและกระสุนปืน)

มีแต่ “รัฐมนตรีมหาดไทย” แต่เพียงผู้เดียวที่จะเป็น “ผู้อนุมัติ” ใบ ป.5

และก็มีแต่รัฐมนตรีมหาดไทยเท่านั้นที่จะเป็นผู้อนุมัติ “โครงการปืนสวัสดิการ” หรือปืนนอกเหนือโควต้าจาก “ใบ ป.5”

ไม่ว่าใครจะค้าจะขาย ใครจะซื้อไว้ครอบครอง จะพกพา จะซ้อมหรือฝึกฝนเป็นนักกีฬา กิจกรรมทุกชนิดประเภทเกี่ยวกับปืนและกระสุนปืนต้องอยู่ภายใต้การกำกับควบคุมของกระทรวงมหาดไทย

 

เมื่อ “มีเหตุร้าย” อันใดเกิดขึ้นจากผู้ใช้อาวุธปืนและกระสุนปืนผิดกฎหมาย กระทรวงมหาดไทยก็ต้องแสดง “ความรับผิดชอบ”

ไม่ใช่ชี้นิ้วไปที่ “ประชาชน”

ผู้ได้รับอนุญาตให้มีปืนถูกกฎหมาย และผู้ได้รับอนุญาตให้พกพา ไม่ใช่โจรหรือคนฉ้อฉลทุจริต

ปืนเถื่อน-กระสุนปืนเถื่อนเกลื่อนเมือง ซื้อขายกันครึกโครมไม่ใช่เรื่องบังเอิญ!

กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รู้ในวงการปืน ควรจะค้นหาคำตอบให้พบด้วยความซื่อตรงว่า ทั้งในอดีตและปัจจุบัน มีใครหาประโยชน์จาก “ปืน” และ “กระสุนปืน”

เรื่องเลวร้ายนี้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ยังไม่มีใครร้อง ยังไม่มีใครฟ้อง จึงยังไม่เคยได้เดินทางไปถึงจุดที่มี “คำพิพากษา” ให้เป็นอุทาหรณ์เหมือนคดีเอารถหลวงใช้ส่วนตัว!?!!