ระดมมันสมองเสริมทัพ | ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน

เสริมทัพไม่หยุด “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 มือใหม่ ยังระดมมันสมองประกาศแต่งตั้งสตาฟฟ์ทีมที่ปรึกษาไม่หยุดหย่อน ชุดแล้วชุดเล่า ล่าสุดเสริมใยเหล็ก ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ.2535 แต่งตั้งบุคคลซึ่งรับราชการในตำหน่งข้าราชการการเมือง “ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี” เพิ่มอีก 2 ราย สดๆ ร้อนๆ เมื่อวันอังคารที่ 10 ตุลาคม

คือ 1. “นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี 2. “นายสยาม บางกุลธรรม” ดำรงตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ลำดับแรกเลย เมื่อวันที่ 14 กันยายน หลังนั่งแท่นนายกฯ เต็มตัว “นายเศรษฐา” ชงแต่งตั้งทีมที่ปรึกษาล็อตแรก จำนวน 9 คน ประกอบด้วย 1. “นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง” อดีตรองนายกฯ-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อีกทั้ง รมว.พาณิชย์ ร่วมสมัยรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เป็น “ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี” พร้อมที่ปรึกษาประกอบด้วย

2. “นายเทวัญ ลิปตพัลลภ” อดีตรัฐมนตรีประสำนักนายกฯ สมัยรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา เลือกตั้งใหญ่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า

3. “นายพิชัย ชุณหวชิร” อดีตกรรมการบริหารหลายบริษัทในเครือ ปตท. เช่น บอร์ดบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม-บางจากคอร์ปอเรชั่น ประธานกรรมการ บีซีจีพี นอกจากนี้ ยังเป็นนายกสมาคมกีฬามวลสากลแห่งประเทศไทย รองประธานกรรมการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ

4. “นายศุภกิจ จัยวัฒน์” กรรมการอิสระ กรรมการตรวจสอบ บจม.แสนสิริ ประธานกรรมการบริษัทอาโนส์ กรุ๊ป 2020 และอดีตประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่แสนสิริ เจ้าของโรงแรมสีลม ชีวิน โรงแรมโพธิ ศิรินทร์ เชียงใหม่

5.” นายพิมล ศรีวิกรม์” กรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์เพาเวอร์แห่งชาติ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ที่ผูกพันกับพรรรคเพื่อไทยมายาวนานตั้งแต่ไทยรักไทย และเคยดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นเลขานุการส่วนตัวของ “นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์” อดีตรองนายกฯ

6. “นายพิชิต ชื่นบาน” นักกฎหมาย หัวหน้าทีมทนายความคนสำคัญของครอบครัวชินวัตร ช่วงฟอร์มรัฐบาล “เศรษฐา 1” ใหม่ๆ มีชื่อติดโผเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่โดนกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์หนัก เจ้าตัวได้ประกาศถอนตัว

7. “นายชลธิศ สุรัสวดี” หลานรักของนายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่เคยเป็นอดีตอธิบดีกรมป่าไม้ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

8. “นายสุรยุทธ ทวีกกุลวัฒน์” อดีตผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โอลดิ้งส์ กรรมการบริษัทธนูลักษณ์ ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปและเครื่องหนังรายใหญ่สุดของประเทศไทย ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 78

9. “นายชัย วัชรงค์” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีความผูกพันกับพรรคเพื่อไทย และเข้ามามีบทบาทในฐานะนักวิชาการด้านเกษตรสมัยใหม่ ให้กับพรรคเพื่อไทย เมื่อครั้งรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เข็นนโยบายจำนำข้าวออกมา และถูกถล่มหนัก “หมอชัย” เป็นผู้ออกมาแก้ต่างตอบโต้ ว่าโครงการดังกล่าวมีประโยชน์กับชาวนา มากมายมหาศาล เลือกตั้งใหญ่ 2566 เขายังเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ถูกวางตัวไว้ในลำดับที่ 91

เมื่อ “นายเศรษฐา” เป็นนายกฯ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีงวดแรก เห็นชอบแต่งตั้ง “หมอชัย วัชรงค์” ดำรงตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีโดยพลัน

 

ต่อด้วย เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม “นายกฯ นิด” ได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งทีมที่ปรึกษาของนายกฯ เพื่อให้คำปรึกษา และพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะ เพิ่มอีกล็อตจำนวน 4 คน ประกอบด้วย

1. “ศาสตรจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ” อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” คุ้นหน้าคุ้นตาในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ ศาสนา และวัฒนธรรม มีความรู้โดดเด่นทางราชสำนัก และพระราชพิธี มักเป็นผู้ร่วมบรรยายในการถ่ายทอดสดเกี่ยวกับพระราชพิธีต่างๆ มาตลอด

2. “นายไพฑูร ชุติมากรกุล” เป็นผู้คร่ำหวอดในวงการกีฬา จนได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทยมา 6 สมัย มีความสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัวกับ “นายเศรษฐา”

3. “นายอาทิตย์ สุริยาภิวัฒน์” อดีตกรรมการ บจม.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล บริษัทลูกในเครือแสนสิริ เป็นคนกันเอง คุ้นเคยกับ “นายกฯ นิด” น่าจะดึงตัวมาช่วยปรึกษา และแนะนำด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก

4. “พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน” อดีตรองผู้บัญชการตำรวจแห่งชาติ ลูกชายคนกลางของ “พล.ต.อ.เภา สารสิน” อดีตอธิบดีกรมตำรวจ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เชื่อว่า “นายเศรษฐา” ดึงมาเป็นกุนซืองานต่างๆ ของวงการสีกากี ที่ตัวเองไม่ค่อยถนัด

และล่าสุดคณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งใหม่กิ๊ก คือ “นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กับ “นายสยาม บางกุลธรรม” ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

กล่าวในรายละเอียดของ “นายยุทธพงศ์” หรือ “เสี่ยโจ้” เป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นขุนพลฝีปากเอก มีการอภิปรายโดดเด่น ดุดันหาตัวจับยาก เลือกตั้งใหญ่ครั้งที่ผ่านมา เป็นแม่ทัพคนสำคัญของพรรคในภาคอีสาน เป็น ส.ส.มหาสารคามมาหลายสมัย แต่ด้วยความประมาท พลาดเผลอ ทำให้สอบตก หากได้รับเลือกตั้ง เชื่อได้ว่า เขาจะได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสำคัญไม่กระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง เพราะเคยผ่านประสบการณ์การทำงาน โดยเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาแล้วสมัยรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”

“เสี่ยโจ้” ไม่เพียงแต่ปากคม เผ็ดร้อน ความรู้ดีอีกต่างหาก จบคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และระดับปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ จากสหรัฐอเมริกา

จะเห็นได้ว่า ทีมที่ปรึกษาของ “นายเศรษฐา” ที่ประกาศมาทุกชุด ส่วนมากเป็นเสือข้ามห้วยมาจากรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” ผสมผสานกับคนใกล้ชิดที่ “นายกฯ นิด” ไว้วางใจและดึงตัวมาร่วมภารกิจ