Gamera Rebirth ตอนที่ 3 Gamera : Guardian of the Universe

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

กาเมร่ายุคเฮเซประกอบด้วยหนังไตรภาคสามเรื่อง ตอนที่หนังออกฉายทีละตอนๆ ทิ้งช่วงหลายปี คือ 1995 1996 และ 1999 อาจจะดูแล้วรู้สึกไม่ปะติดปะต่อกัน แต่ถ้านำมาดูใหม่อย่างต่อเนื่องกันจะพบว่านี่เป็นหนังสัตว์ประหลาดไตรภาคที่ดีที่สุดชุดหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง การเขียนบท บทบาทตัวละคร และสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ ซึ่งถึงแม้ว่ายังไม่เข้าสู่ยุคซีจีสมบูรณ์แบบแต่ก็น่าตะลึงพรึงเพริดเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากทำลายแซ็ปโปโร ชิบูย่า และเกียวโต เหลือรับประทานจริงๆ

หนังสามเรื่องใช้นางเอกหลักเดินเรื่องสองคน (อันที่จริงมีอีกคนหนึ่งคือ มิโดริ โฮนามิ ในภาคสอง Gamera 2 : Attack of Legion บุคลิกดีทีเดียว แต่น่าเสียดายที่ปรากฏตอนเดียว หนังไม่สร้างความผูกพันระหว่างเธอกับนางเอกคนที่หนึ่ง คึนาซากิ เท่าไรนัก)

นางเอกคนที่หนึ่งคือ อาซางิ คึนาซากิ บุตรีของนักโบราณคดีที่ไปขุดพบลูกปัดและแผ่นศิลายุคแอตแลนตีสทำให้เธอติดต่อทางจิตกับกาเมร่าได้

ลูกปัดนั้นทำจากแร่ Orichalcum ที่เชื่อว่าพบในแอตแลนตีส (มีข้อมูลในวิกิพีเดีย) สัมผัสความเจ็บปวดร่วมกับกาเมร่า ยามที่กาเมร่าถูกสัตว์ร้ายทำร้ายถึงเลือด เลือดของเธอก็ไหลด้วย

หลังจากประสบการณ์เลวร้ายและขมขื่นในการปราบกิยาออสยุคใหม่ร่วมกับกาเมร่าในภาคหนึ่ง Gamera : Guardian of the Universe แล้ว เธอก็ย้ายบ้านหายไปเพื่อเรียนต่อ ไม่ยอมปรากฏตัวต่อนักข่าวว่าเธอสัมผัสกาเมร่าได้

นางเอกคนที่สองคือ มายูมิ นากามิเนะ คนนี้เป็นผู้ใหญ่กว่า เธอเป็นนักปักษีวิทยา (ornithologist) ทำงานให้รัฐบาลโดยร่วมมือกับกองกำลังป้องกันตนเองเพื่อปราบปรามกิยาออสในภาคแรก กิยาออสยุคโชวะมองยังไงก็ค้างคาว แต่พอมาถึงยุคเฮเซ หนังพูดชัดเจนว่าเป็นนก

ตอนผมเป็นเด็กมีรูปปั้นกิยาออสยักษ์พ่นหลอดนีออนสีเหลืองสู้กับกาเมร่าพ่นไฟ ผ้าสีแดงหน้าโรงหนังแคปปิตอลก็จำได้ว่าค้างคาวชัดๆ

มายูมิเป็นคนสุขุม รู้หลบรู้ชนผู้บังคับบัญชาระดับต่างๆ อย่างน่าชมเชย เธอทำงานร่วมกับอาซางิ คึนาซากิ ในภาคแรก หายไปในภาคสองหลีกทางให้มิโดริ โฮนามิ แล้วกลับมารับบทเด่นในภาค Gamera 3 : Revenge of Iris ได้อย่างเต็มศักยภาพ ด้วยบทบาทการแสดงและบุคลิกที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่กว่า

จึงดูจะเป็นนางเอกจริงๆ ของไตรภาคไปเลย

 

หนังไตรภาคเฮเซนี้จบสมบูรณ์ในตัว แนะนำให้หาดูแบบต่อเนื่องกันให้ได้ เป็นครั้งแรกที่มีการเปิดเผยอย่างชัดเจนว่าทั้งกิยาออสและกาเมร่าเป็นผลพวงของวิศวพันธุกรรม มีการเอ่ยถึงพลังงานชีวิตที่เรียกว่า Mana ในหนังภาคสาม และการแย่งชิงพลังชีวิตนี้จนแอตแลนตีสล่มสลาย

นอกจากนี้ ยังมีการอ้างอิงคัมภีร์จีนโบราณที่ว่าโลกมีสี่ด่าน ด่านเหนือใต้ดูแลโดยกาเมร่าและกิยาออส กาเมร่ามาจากคำว่า kame แปลว่าเต่าตั้งแต่แรก แต่ทีมผู้สร้างโชวะเปลี่ยนชื่อเป็น gamera เพราะ kamera จะออกเสียง camera (กล้องถ่ายรูป) ไปเสีย

ยังมีกราฟิกโนเวล Guardian of the Universe ที่ดาร์คอฮอสตีพิมพ์เมื่อปี 1995 ความยาวสี่ตอนจบ เล่าเรื่องกาเมร่ายุคเฮเซเผชิญศัตรูยุคโชวะสองตัวคือซิกร้า (Zigra) และไวราส (Viras) โดยนำสองนางเอกมาประชันกันอีกรอบ ลายเส้นสวยงามสนุกสนาน

ตอนที่สี่คือตอนจบใช้ชื่อว่า The Last Hope ความหวังครั้งสุดท้าย อันจะเป็นนิกเนมที่หมายถึงกาเมร่ายามที่ญี่ปุ่นเข้าตาจน ในกาเมร่ายุคมิลเลนเนียม Gamera the Brave ตอนสู้กับสัตว์ประหลาดซีดัส (Zedus) แน่นอนกับฝูงกิยาออสด้วย ก็มีคำพูดว่ากาเมร่าคือความหวังสุดท้าย

แต่ที่จริงตอนจบของกราฟิกโนเวลสี่เล่มนี้จบที่ปารีส ปารีสต่างหากที่เข้าตาจน

จะว่าไปหนังสือสนุกตรงลายเส้น เนื้อเรื่องมิได้มหัศจรรย์มากแต่ก็อ่านแล้วระลึกความหลังได้ดีเพราะคิดถึงนางเอกทั้งสองคนเสียมากกว่า

เปิดเรื่องที่ชายวัยกลางคนอเมริกาใต้ชื่อ ลัทซ์ เขามีเครื่องบินส่วนตัวเก่าๆ ไว้นำเที่ยว แต่กิจการถังแตก หลังๆ จึงเขียนป้ายนำชมสัตว์ประหลาดเฉย

แล้ววันหนึ่งสาวญี่ปุ่นคนหนึ่งก็มาถึง เธอคืออาซางิ คึนาซากิ หญิงสาวที่ติดต่อกับกาเมร่าผ่านลูกปัดโบราณที่ทำจากแร่ชนิดหนึ่งของแอตแลนตีสนั่นเอง

อีกด้านหนึ่งในบริเวณใกล้เคียงกันนักปักษีวิทยามายูมิ นากามิเนะ ได้รับคำเชิญจากเศรษฐินีลึกลับให้ไปชมนกหายากที่สูญพันธุ์ไปนานแล้ว

เศรษฐินีแนะนำตัวเองและไกด์หนุ่มร่างบึ้กชื่อกัสซาโนนำทางไปยังเกาะห่างไกลกลางทะเล

ที่นั่นมิใช่มีเพียงกรงนกยักษ์ธรรมดา แต่เป็นกรงนกขนาดมหึมาเท่าภูเขา ที่ซึ่งมายูมิจะพบมูลของกิยาออสกองใหญ่

ไม่ทันที่มายูมิและนักอ่านจะตั้งตัว เศรษฐินีฉีกหน้ากากของตนเองออก ที่แท้เธอเป็นสาวผมทองชื่อเกรตา คาร์โบน นักวิทยาศาสตร์ลึกลับที่แอบทำการเพาะกิยาออสขึ้นจากพันธุกรรมตัวอย่างที่เธอลักลอบเอามาได้ คึนาซากิซึ่งกำลังบินอยู่กับลัทซ์เผชิญหน้ากิยาออสกลางหาวพอดี ก่อนที่เธอจะเป็นอะไรไปเหมือนกาเมร่าจะสัมผัสได้ว่าเธออยู่ในอันตรายจึงปรากฏตัวขึ้น

สัตว์ยักษ์สองตัวประจัญบานกันอีกแล้ว คราวนี้สมรภูมิเป็นท่าเรือกัวนาโจตา

ลัทซ์ขโมยลูกปัดของคึนาซากิบินหนีไปแต่ถูกสกัดกลางทะเลเพราะบังเอิญไปพบกับเรือดำน้ำลึกลับของฝรั่งเศสที่เข้ามาทดลองนิวเคลียร์ในน่านน้ำ

ผลจากการนี้ชักนำไคจูกึ่งนกกึ่งฉลามซิกร้าขึ้นมาจากใต้สมุทร และกาเมร่าที่ร่อนลงมาจากฟากฟ้าเพื่อฟาดฟันสัตว์ประหลาดครึ่งฟ้าครึ่งน้ำจอมเชือดนี้อีกครั้งหนึ่ง

เกรตา คาร์โบน มิได้เพาะแค่กิยาออส เธอสร้างไวราสขึ้นมาใหม่ด้วย ปัญหาคือเธอหลงใหลไวราสมากมายเป็นพิเศษจนหลงลืมความรักที่มีกับกัสซาโนผู้ภักดี

การปรากฏตัวของไคจูยังดึงเอาเอเลี่ยนสาวผมดำจากนอกโลกร่อนยานลงมาร่วมวงด้วย

พล็อตเรื่องใช้ได้นะครับ แม้ว่าจะหลวมๆ แต่ก็รวบรัดดี ลัทซ์ถูกนำตัวไปคุมขังที่คุกในปารีส เกรตา คาร์โบน ต้องการลูกปัดนั้นเพื่อจะเอามาค้นหาวิธีควบคุมไคจูทั้งปวงรวมทั้งกาเมร่า

มายูมิซึ่งเกาะติดไม่เลิก คึนาซากิซึ่งสูญเสียลูกปัดไป กัสซาโนผู้มีความรักที่เป็นไปไม่ได้กับเกรตา คาร์โบน และเอเลี่ยนสาวจากต่างดาว ต่างมีเหตุผลที่ต้องเดินทางไปปารีส

การต่อสู้ชี้ชะตาระหว่างกาเมร่าและไวราสที่อยู่นอกเหนือการควบคุมใดๆ เกิดขึ้นใกล้ๆ วิหารนอเตรอะดามนั่นเอง

แม้จะเป็นแค่ลายเส้นการ์ตูน แต่แสงสีเสียงน่าระทึกใจไม่ยิ่งหย่อนกว่าสื่อใดๆ เลย

ในไตรภาคนี้มีตัวละครเจ้าประจำคือรองสารวัตรโอซาโกะ ตัวละครนี้มีบทบาทสำคัญในภาคแรก เขาเริ่มทำการสืบสวนคดีกิยาออสร่วมกับมายูมิเพราะเขาเป็นคนแรกที่เห็นนกยักษ์กับตา

พอมาถึงภาคสองเขาออกจากงานตำรวจเพราะทนความเครียดเรื่องกิยาออสไม่ไหวไปทำงานเป็นยามกลางคืนโกดังเบียร์

ปรากฏว่าเขาเป็นคนแรกที่พบกองทัพเลจิองโจมตีเข้าอีก

พอถึงภาคสามน่าจะเพราะโรคเครียดหลังเผชิญภยันตราย (Post-Traumatic Stress Disorder, PTSD) ที่ผู้กำกับฯ ไม่รู้จักหรือไม่ยอมรักษาให้เขาเสียที ภาคนี้โอซาโกะกลายเป็นคนจรจัดไปเลย จะได้ไม่ต้องรู้ต้องเห็นอะไรอีก

แต่การณ์กลับเป็นว่าเขาเงยหน้าเห็นไอริสบินผ่านน่านฟ้าจนได้ ถึงตอนนี้เขาขอติดตามมายูมิเพื่อช่วยเหลือเธอสืบสวนอีกครั้งให้รู้ดำรู้แดงกันไป

ผู้กำกับฯ ชูซูเกะ คาเนโกะ ซึ่งกำกับฯ ทั้งสามภาคให้สัมภาษณ์ว่าตอนแรกบริษัทมิได้ตั้งใจจะสร้างกาเมร่าเฮเซด้วยไม่แน่ใจว่าสมควรแก่เวลารึยัง

แผนแรกจะเป็นการสร้าง Daimajin เทพเจ้าภูเขียวหนังดังปี 1966 ขึ้นมาใหม่ คล้ายคลึงกับที่ไดเอะก็มิได้คิดจะสร้างกาเมร่าโชวะตั้งแต่แรก แต่คิดสร้างหนูยักษ์ Giant Horde Beast Nezura มากกว่า

แต่เพราะคนรุ่นใหม่น่าจะเรียกคืนความผูกพันกับไดเมจินได้ยาก ความหวังครั้งสุดท้ายจึงเป็นกาเมร่า ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ญี่ปุ่น

เมื่อเทียบกับก๊อดซิลล่าแล้ว กาเมร่าเกิดใหม่แต่ละรอบ (Rebirth) ยากเย็นกว่ามาก •

 

การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์