ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 22 - 28 กันยายน 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | โล่เงิน |
เผยแพร่ |
บทความโล่เงิน
รู้จัก ‘เรวัตร จันทร์ประเสริฐ’ ปธ.ก.อ.
เพียงชายคนนี้อารมณ์ดีเป็นที่รัก
ปรากฏการณ์เทคะแนน ‘แลนด์สไลด์’
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เรวัตร จันทร์ประเสริฐ นั่งประธานกรรมการอัยการ คนที่ 3 จากการเลือกตั้ง ตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา
ถ้าย้อนไปเมื่อ 23 พฤษภาคม เกิดปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ในวงการเลือกตั้ง “ทนายแผ่นดิน”
นั่นคือ อัยการทั่วประเทศได้ลงคะแนนเลือก “เรวัตร” อย่างท่วมท้น ด้วยคะแนน 2,206 คะแนน แทน พชร ยุติธรรมดำรง ที่หมดวาระ
ด้วยบุคลิกเป็นผู้ใหญ่จิตใจดี ได้รับการยอมรับจากทุกระดับชั้นในแวดวงอัยการ และรักใคร่ของน้องๆ อาชีพเดียวกัน
เนื่องจากสมัยเป็นอธิบดีอัยการ สถาบันพัฒนาข้าราชฝ่ายอัยการ จนถึงอัยการอาวุโส เป็นเสมือนครูใหญ่ จัดฝึกอบรมหลักสูตรอัยการผู้ช่วย อัยการจังหวัด และหลักสูตรอื่นๆ อีกหลายหลักสูตร ทำให้กว้างขวาง รู้จักคนเยอะ
ส่งผลให้น้องๆ พร้อมใจร่วมกันเทคะแนนจนนั่ง “ประธานบอร์ดอัยการ”
“ดีใจที่น้องๆ เลือกผมมา เป็นความประสงค์ของน้องๆ ที่ออกมาช่วยกัน สำหรับผมเป็นคนง่ายๆ พบปะพูดคุยได้ทุกคน เป็นกันเอง และเข้าถึงได้ง่าย” เจ้าตัวเผยความรู้สึก
ประธาน ก.อ. เป็นคนพิษณุโลก มาจากครอบครัวใหญ่ มีพี่น้องถึง 9 คน เป็นพี่คนโต จบมัธยมปลายจากโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม
สมัยเรียนอยู่สายวิทย์ ผลการเรียนระดับปานกลาง เรียนจบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย
4 อันดับแรก ใน 6 อันดับ เป็นคณะในสายวิทย์ ส่วน 2 อันดับท้ายเป็นคณะในสายศิลป์
ในที่สุดติดคณะในสายศิลป์ นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตอนนั้น ท่านสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นคณบดี เคยพูดว่า คนที่เลือกมาเรียนคณะนิติศาสตร์เป็นอันดับสุดท้าย แสดงว่าใจไม่รักจริง ตอนนั้นฟังแล้วนึกถึงตัวเอง เลยต้องตั้งใจเรียนเป็นพิเศษ
เป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ เข้าปี 2511 มีเพื่อนร่วมรุ่น อาทิ อรรถพล ใหญ่สว่าง อดีตอัยการสูงสุด และประธาน ก.อ. คนแรกจากการเลือกตั้ง, วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ และชัช ชลวร อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ
สมัยเรียนถือว่าเป็นคนมีความจำค่อนข้างดี มีสูตรเรียนกฎหมายคือ อันไหนไม่มั่นใจท่องไว้เลย
“ประมวลกฎหมายอาญา 398 มาตรา ผมจำได้หมด บางทีผมไม่มั่นใจตัวเองตอนทำข้อสอบ ว่าจะเขียนขึ้นต้นอย่างไร ผมก็เอาตัวบทในเรื่องนั้นไปเขียนก่อน เช่น ถ้าเป็นความผิดฐานประมาท มาตราว่าอย่างไร ผมเขียนได้อย่างมั่นใจ ตัวบทใส่ไว้ก่อน ไม่ผิดแน่”
ประธาน ก.อ. เล่าพร้อมเสียงหัวเราะ
จบแล้วบรรจุรับราชการอัยการรุ่นเดียวกันกับ ตระกูล วินิจนัยภาค อดีตอัยการสูงสุด
“สอบเป็นอัยการผู้ช่วยได้ตอนอายุ 23 ปี ดีใจมาก อยู่ต่างจังหวัด ชาวบ้านให้เกียรติมาก”
“ตั้งแต่รับราชการใหม่ๆ ทำอะไรต้องตรงไปตรงมา ไม่ได้ตั้งความหวังว่าต้องเป็นนั่น เป็นนี่ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตามผู้บังคับบัญชามอบหมาย และผมเป็นคนขี้เกรงใจ ยอมรับทุกคน ใครเดินเข้าพบเจอกันก็ทักหมด สุขใจที่ได้พบได้คุย”
ต่อมาเป็นอัยการจังหวัดผู้ช่วย และรองอัยการจังหวัด ที่กำแพงเพชร 9 ปี แล้วเข้าโรงเรียนอัยการจังหวัด เป็นอัยการจังหวัดประจำศาลแขวงนครสวรรค์ อัยการจังหวัดพิจิตร และอัยการจังหวัดสุพรรณบุรี ตามลำดับ
แล้วขึ้นเป็นรองหัวหน้ากอง สำนักงานคดีแพ่ง, สำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร, สำนักงานคณะกรรมการอัยการ
อัยการพิเศษฝ่ายคดีแรงงาน 2 สำนักงานคดีแรงงาน, อัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 2 สำนักงานคดีศาลแขวง, อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 2 สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้
ปี 2546 รองอธิบดีการฝ่ายคดีศาลแขวง ปีถัดไป ขึ้นอธิบดีอัยการฝ่ายคดีปกครองจังหวัดสงขลา, อธิบดีอัยการฝ่ายพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ, อธิบดีอัยการฝ่ายคดียาเสพติด และผู้ตรวจการอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ตามลำดับ
ปี 2556 เป็นรองอัยการสูงสุด และปี 2558-2564 อัยการอาวุโส สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ
ประธาน ก.อ. ได้เปิดใจที่มาลงสมัครเลือกตั้งว่า ด้วยความที่เคยเป็น ก.อ.มา และหลังเกษียณแล้วอยู่ว่างๆ 2 ปี อยากทำอะไรให้เป็นประโยชน์กับองค์กรอัยการบ้าง เพราะรับราชการมาถึง 47 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2518 พอจะมีประสบการณ์อยู่บ้าง สดับรับฟังแล้วพี่ๆ น้องๆ อยากให้มาช่วยงาน ก.อ. เลยตัดสินใจสมัคร
พอทราบผลออกมาก็ดีใจ เป็นความประสงค์ของพี่ๆ น้องๆ ที่จะให้มาช่วยงาน
สโลแกนที่ใช้แนะนำตัว “ส่งเสริมความเป็นธรรม สร้างสรรค์สิ่งที่ดี สืบสานสามัคคีในองค์กร”
พร้อมรำลึกถึงวันวานว่า เมื่อก่อนอัยการจะอยู่กันแบบพี่น้อง มีอะไรก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน ไม่ค่อยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง ถ้ามีก็ปรับความเข้าใจกันด้วยเหตุด้วยผล ซึ่งตนเห็นว่าเป็นวัฒนธรรมที่ดีขององค์กรและอยากให้คงอยู่เช่นนี้ตลอดไป
อัยการตั้งมา 130 ปีแล้ว บรรพอัยการได้สร้างภาพลักษณ์ขององค์กรไว้เป็นที่น่ายกย่องชื่นชมของสังคม ตนจึงอยากเห็นข้าราชการฝ่ายอัยการทุกคนช่วยกันรักษาสิ่งที่บรรพอัยการได้สร้างสมมาดังกล่าวนั้นให้มีความมั่นคงยั่งยืนตลอดไป
ในช่วงวาระสองปีที่ทำหน้าที่ ประธานเรวัตรบอกว่า ต้องร่วมมือกับฝ่ายบริหาร เพิ่งคุยกับอัยการสูงสุดว่า ให้ช่วยพิจารณาในเรื่องคุณสมบัติของอัยการในการเข้าไปเป็นกรรมการในองค์กรอิสระอื่นๆ ด้วย และในเรื่องของเงินเดือนสวัสดิการและประโยชน์เกื้อกูลต่างๆ ก็ขอให้มีความใกล้เคียงกับองค์กรข้างเคียงและองค์กรอิสระอื่นๆ
การทำงานต้องร่วมมือกับฝ่ายบริหาร ที่มีอัยการสูงสุดเป็นผู้นำองค์กร ไม่ใช่เสือ 2 ตัวอยู่ถ้ำเดียวกัน ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ต่างคนต่างก็มีบทบาทหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว
ซึ่งหากแต่ละฝ่ายปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลักกฎหมายอย่างเป็นเหตุเป็นผลก็น่าจะทำให้การทำงานร่วมกันลุล่วงไปด้วยดี
สําหรับเคล็ดลับอารมณ์ดี น่าจะได้อานิสงส์จากคุณแม่ ที่ตอนเด็กๆ ชอบพาไปทำบุญที่วัด
ขณะที่คุณพ่อก็เป็นผู้ที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี เวลาปิดเทอมกลับบ้านไปช่วยพ่อทำงาน และเดินทางไปโน่นไปนี่กับพ่อ ได้พบปะผู้คนมากมาย ด้วยพ่อเป็นคนพูดจาไม่กระทบคนอื่น และเป็นคนมองโลกในแง่ดี ผมจึงเรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาจากคุณพ่อ
และส่วนตัวผมเองเวลามีเรื่องเครียด ก็สวดมนต์บ้าง และมีสติอยู่กับปัจจุบัน
มีเวลาว่างก็มักอ่านหนังสือ และหนังสือที่อ่านก็จะเป็นประเภทชีวประวัติบุคคลสำคัญ ประวัติศาสตร์ หนังสือสามก๊ก และนิยายของยาขอบ หลวงวิจิตรวาทการ เป็นต้น
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022