รัฐบาลพิเศษ โผทหารพิเศษ ‘บิ๊กตู่’ เคาะ ผบ.เหล่าทัพใหม่ รับสถานการณ์พิเศษ ‘อ๊อบ-ต่อ-หนึ่ง-วิน’

แม้จะประกาศวางมือทางการเมืองไปแล้ว แต่บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ใช่ว่าจะถอยออกจากการเมืองไปง่ายๆ

ในฐานะทหารเสือราชินี ในฐานะบูรพาพยัคฆ์ และอดีต ผบ.ทบ. อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ย่อมต้องถอยแบบมีชั้นเชิง แบบที่เรียกว่า เสือต้องไว้ลาย หรือการลงจากหลังเสือ แบบไม่ให้เสือกัด

แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะถอยและลาออกจากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แล้ว แต่ด้วยความที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรค และเป็นเสมือนผู้นำจิตวิญญาณ พล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องช่วยดูแลสนับสนุน ส่งขึ้นฝั่ง ให้ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย

ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อต้านพรรคลุง ทั้งพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่จะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย จนเกิดข่าวสะพัดว่า อาจจะเป็นพรรคลุงพรรคเดียวจาก 2 พรรค ที่จะได้ร่วมรัฐบาล ที่พรรคเพื่อไทยแพ็กคู่กับพรรคภูมิใจไทย 212 เสียง แต่เป็นพรรค รทสช. ที่แม้จะเป็นพรรคลุง แต่ไม่มีลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในพรรคอีกต่อไปแล้ว

ด้วยเพราะมี “มือดีล” คนสำคัญ ระดับผู้สนับสนุนทั้งพรรคเพื่อไทย และ รทสช. ร่วมเคลียร์ทางให้ โดยยอมให้พรรค รทสช.พรรคเดียว แต่จะไม่เอาพรรคพลังประชารัฐ เพราะยังมีลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรคอยู่

 

แต่ก็เกิดกระแสข่าวการต่อรองอย่างหนัก เพราะต้องเชื่อมโยงกับการกลับประเทศของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างปลอดภัย และการรับประกันว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะไม่จบด้วยการถูกรัฐประหารซ้ำรอยอดีตอีก

จนมีข่าวว่า พล.อ.ประวิตรต่อสายถึงบ้านจันทร์ส่องหล้า ต่อรองว่า ถ้าจะร่วมรัฐบาลต้องไปทั้งพรรคพลังประชารัฐ ไม่ใช่การดึงไปเฉพาะบางกลุ่มเท่านั้น จน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ต้องออกมายืนยันว่าจะไม่แยกวงไป ถ้าจะไปต้องไปทั้งพรรค

แต่ในเมื่อเบื้องหลังฉากการต่อรองฝ่ายพรรคเพื่อไทยเลือกที่จะจับมือกับสายของ พล.อ.ประยุทธ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะจะหมายถึงการมีจำนวน ส.ว.ในมือมากกว่า 100 คน ที่จะตามมาช่วยโหวตด้วย โดยไม่ต้องง้อฝ่าย พล.อ.ประวิตร

จน พล.อ.ประวิตรออกอาการงอนทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไปดีลแยกวง และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่แยกตัวออกไปจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ไปจับมือแพ็กคู่กับพรรคเพื่อไทยก่อน

งานนี้ หากทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร กลับมาจับมือกันแน่นก็จะเป็นอำนาจการต่อรองที่แข็งแกร่ง แต่ทว่า รอยร้าวยังคงไม่ได้ถูกประสาน

จึงทำให้ฝ่ายอดีตนายกฯ ทักษิณอาศัยช่องโหว่ในความสัมพันธ์ที่มีรอยร้าวของสองลุงนี้ ให้เป็นประโยชน์ในการเจรจาต่อรอง

 

แต่ที่สุด อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ดูเหมือนจะยอมอ่อนลง จากที่เคยแข็งข้อไม่เอาพรรคสองลุง แต่ก็เริ่มเปิดทางให้บรรดาแฟนคลับพิจารณาด้วยเหตุผลเพื่อให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลและเดินหน้าประเทศต่อ จนเกิดคำว่ารัฐบาลพิเศษที่ทุกพรรคจะมาร่วมมือกัน แม้แต่พรรคสองลุง ยกเว้นพรรคก้าวไกลเท่านั้น แต่พรรคก้าวไกลจะโหวตให้นายกฯ ของพรรคเพื่อไทยเพื่อแสดงจุดยืนของพรรคประชาธิปไตย

นอกจากจะเป็นรัฐบาลพิเศษแล้วยังจะใช้เทคนิคพิเศษในการจัดตั้งรัฐบาล คือการแพ็กคู่พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยให้เป็น 212 เสียง แล้วไปเจรจากับพรรคต่างๆ เพื่อร่วมรัฐบาล แล้วจะใช้วิธีการรวมเสียง เพื่อโหวตเลือกนายกฯ ก่อน

จากนั้นค่อยจัดตั้งรัฐบาลที่จะกลายเป็นช่องโหว่ให้สามารถดึงพรรค 2 ลุงเข้ามาร่วมรัฐบาลในภายหลังได้

พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี

ในเมื่อส่อเค้าจะตั้งรัฐบาลพิเศษ ดังนั้น โผโยกย้ายทหาร ก็จัดแบบพิเศษเช่นกัน โดยโผนี้ซึ่งจัดในยุคที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ และ รมว.กลาโหมรักษาการ นั่งหัวโต๊ะบอร์ด 7 เสือกลาโหม และจะเป็นคนทูลเกล้าฯ บัญชีรายชื่อ

พิเศษตรงที่ การพิจารณาคัดเลือก ผบ.เหล่าทัพ ยึดหลักอาวุโส เป็นปัจจัยหลักในการตัดสิน

เพราะเป็นครั้งที่ ผบ.เหล่าทัพส่วนใหญ่ขึ้นมาจากรอง ผบ.เหล่าทัพ ทั้งรองอ๊อบ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี แกนนำ ตท.24 ที่จะขยับขึ้นจากรอง ผบ.ทหารสูงสุด ขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด โดยมีความพิเศษตรงที่เป็น “ทหารคอแดง” ที่จะมาสืบต่อการเป็น ผบ.ทหารสูงสุด คอแดงคนที่ 2

ขณะที่บิ๊กต่อ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ (ตท.23) รอง ผบ.ทบ. ที่อาวุโสที่สุด ครองอัตราพลเอกพิเศษ จะขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ เป็น ผบ.ทบ.คอแดงคนที่ 3 และพิเศษตรงที่เป็นตำแหน่งที่ไม่ใช่แค่บิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน ตัดสินใจเลือกเพียงคนเดียว

แต่หน่วยเหนือที่เกี่ยวข้องกับ ฉก.ทม.รอ.904 ก็มีส่วนสำคัญในการชี้ตัวบุคคล เนื่องจาก ผบ.ทบ. จะต้องเป็น ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 และจะต้องกลายเป็น “อาร์มดำ” เพราะจะได้เป็นนายทหารพิเศษประจำ ทม.รอ.ด้วย

พล.อ.เจริญชัยเติบโตมาจาก ร.21 รอ. ใกล้ชิดพี่น้อง 3 ป. โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์มาตลอด และเติบโตในเส้นทางเหล็กในสายกำลังรบ เป็นทั้งผู้บังคับกองพัน ผู้บังคับการกรม ร.21 รอ. ผบ.พล.ร.2 รอ. แม่ทัพภาคที่ 1 ผช.ผบ.ทบ. และรอง ผบ.ทบ.

พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์

ขณะที่ ทอ. เข้มข้น มีชื่อรองหนึ่ง พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา (ตท.23) รอง ผบ.ทอ. เป็นเต็งหนึ่ง ผบ.ทอ.คนใหม่ เพราะนอกจากความรู้ความสามารถ ครบเครื่องแบบที่ลูกทัพฟ้า โดยเฉพาะบรรดานักบิน และสายงานยุทธการ ทอ.ยอมรับแล้ว ยังอาวุโสที่สุดด้วย

แต่เป็นที่รู้กันดีว่า หนทางสู่เก้าอี้แม่ทัพฟ้าของ พล.อ.อ.ชานนท์ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ด้วยเพราะบิ๊กตุ๊ด พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ. ก็ใช่ว่าจะเห็นพ้องกับหลักการนี้ง่ายๆ เพราะหากไม่อาจดันบิ๊กณะ พล.อ.อ.ณรงค์ อินทชาติ เสธ.ทอ. ขึ้นเป็น ผบ.ทอ. ตามสัญญาใจกับบิ๊กป้อง พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ.คนก่อน ผู้เป็นพี่ที่มีพระคุณได้

จึงมีกระแสข่าวว่า จะย้อนศรหลักการอาวุโส ด้วยการขอเตะ พล.อ.อ.ชานนท์ข้ามไปเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด แล้วดันบิ๊กไก่ พล.อ.อ.พันธุ์ภักดี พัฒนกุล (ตท.24) ผช.ผบ.ทอ. ขึ้น ผบ.ทอ.เลย แถมนั่งยาว 2 ปี เกษียณ 2568

แล้วจัดโผสูตรรอมชอมขั้วอำนาจเดิม ด้วยการให้ พล.อ.อ.ณรงค์ขึ้นรอง ผบ.ทอ. บิ๊กจ๋า พล.อ.อ.พงษ์สวัสดิ์ จันทสาร ผช.ผบ.ทอ. ขึ้นประธานที่ปรึกษา ทอ. แล้วให้บรรดารอง เสธ.ทอ. ขึ้นพลอากาศเอก 5 ฉลามอากาศ เช่น พล.อ.ท.อนันตชัย แก้วศรีงาม และ พล.อ.ท.วิศรุต สุวรรณเนตร ขึ้นพลอากาศเอก นั่ง ผช.ผบ.ทอ. โดยมี เสธ.คิม พล.อ.ท.เสกสรร คันธา เป็น เสธ.ทอ. โดยไม่มีชื่อ เสธ.เจ๋ง พล.อ.ท.มนัท ชวนะประยูร ที่ไม่ใช่น้องรักของบิ๊กป้องอยู่ในโผ

ด้วยเพราะในยุคของบิ๊กแอร์ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ และ พล.อ.อ.นภาเดชเป็น ผบ.ทอ. ต่อกันมาคนละ 1 ปี ก็สกัดกั้น พล.อ.อ.ชานนท์ไม่ให้ขึ้นเป็น ผบ.ทอ. ตามที่ พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ.คนก่อน ได้ผลักดันและวางตัว

พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา

แต่หากเสนอสูตรนี้แล้วยังสู้ความแรงของ พล.อ.อ.ชานนท์ไม่ไหว ก็เชื่อกันว่า พล.อ.อ.อลงกรณ์จะเสนอชื่อบิ๊กป้อม พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ รองปลัดกลาโหม เพื่อน ตท.22 ตามที่เพื่อนๆ เรียกร้องความเป็นธรรมให้มาตลอด อีกทั้งอาวุโสสุด เพราะเป็นรอง ผบ.ทอ. 1 ปี และข้ามไปเป็นรองปลัดกลาโหม เพื่อเอามาต่อกรกับ พล.อ.อ.ชานนท์ ที่อาวุโสที่สุดใน ทอ.

แต่ท้ายที่สุด คาดว่าไม่อาจต้านทานความแรงของ พล.อ.อ.ชานนท์ได้ เพราะมีข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์เอาประวัติแคนดิเดตแต่ละคนมาพิจารณาประกอบเลยทีเดียว

พล.อ.อ.ชานนท์ เป็นนักบิน F16 call sign “Canon” เติบโตมาในเส้นทางเหล็ก ทอ. ตามธรรมเนียม คือ เป็นทั้งผู้บังคับฝูงบิน 403 ผู้บังคับการกองบิน 4 และเป็นผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอากาศ ประจำกรุงสตอกโฮล์ม สวีเดน จนขึ้นมาเป็นเจ้ากรมยุทธการ ทอ. และเสนาธิการ ทอ. และรอง ผบ.ทอ. เป็นที่รู้กันว่า เป็นนายทหารที่ฉลาด สมาร์ต ในเรื่องความรู้ความสามารถ ด้านยุทธการ เกษียณ 2567

หาก พล.อ.อ.ชานนท์ได้เป็น ผบ.ทอ.คนต่อไป จะถือว่าล้างอาถรรพ์ เพราะยังไม่เคยมีอดีตผู้บังคับการกองบิน 4 ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทอ.

พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข

ขณะที่ ผบ.เหล่าทัพ น้องเล็ก จะได้เป็น ผบ.ทร.คนใหม่ เพราะบิ๊กแจ็ค พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ (ตท.23) รอง ผบ.ทอ. ที่อาวุโสสูงที่สุด จะเกษียณราชการ 30 กันยายนนี้ แล้ว ดังนั้น บิ๊กวิน พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผช.ผบ.ทร. จะอาวุโสที่สุด และติดยศพลเรือเอกมา 2 ปี ขณะที่แคนดิเดตรุ่นพี่อีก 2 เพิ่งเป็นพลเรือเอกเมื่อตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา

แม้จะเป็นรุ่นน้อง ตท.25 แต่ พล.ร.อ.สุวิน ก็เกษียณ 2568 พร้อมกับแคนดิเดทตรุ่นพี่ และยังได้เปรียบในเรื่องโปรไฟล์ ประวัติการทำงาน ที่ พล.อ.ประยุทธ์ไล่ดูเรียงตำแหน่งเลยทีเดียว เพราะถือว่าเป็นไปตามธรรมเนียมประดู่เหล็ก ที่เติบโตมาในสายกำลังรบทางเรือ

ผ่านมาทุกตำแหน่ง ในเรือ จนเป็นผู้บังคับการเรือหลวงชั้น 1 เรือใหญ่ถึง 3 ลํา ทั้ง ผบ.เรือหลวงสุโขทัย ผบ.เรือหลวงปิ่นเกล้า และ ผบ.เรือหลวงจักรีนฤเบศร และใช้ชีวิตการเป็นนักรบชาวเรือนานถึง 22 ปี ก่อนได้ไปเป็นผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือ ประจํากรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา และกลับมาเติบโตในสายกำลังรบ เป็น ผบ.กองเรือลำน้ำ และ ผบ.ฐานทัพเรือกรุงเทพฯ และตำแหน่งสูงสุดของสายกำลังรบ คือ ผบ.กองเรือยุทธการ จนขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทร.

ดังนั้น ผบ.เหล่าทัพชุดใหม่ จะเป็นการคละรุ่น ตท.23-ตท.24-ตท.25 และยังมีบิ๊กหนุ่ม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกลาโหม ที่เป็น ตท.24 ยืนหัวแถว ผบ.เหล่าทัพ

 

แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะค่อยๆ ถอยห่างออกจากการเมือง แต่ก็ยังต้องใช้เวลา กว่าที่จะถอยออกจริงเพราะยังคงห่วงชาติบ้านเมืองตามประสาทหารเก่า แต่ก็โล่งใจได้ จาก ผบ.เหล่าทัพชุดใหม่ ที่ พล.อ.ประยุทธ์เรียกประวัติมาดูเองรายตัวเลยทีเดียว ว่าจะเป็นหลักในการดูแลกองทัพ และเป็นกำลังหลักในการปกป้องสถาบันหลักของชาติ แบบไม่ต้องพะวงหลัง

โดยเฉพาะ พล.อ.เจริญชัย ว่าที่ ผบ.ทบ. น้องรักสายทหารเสือราชินี ที่ พล.อ.ประยุทธ์ปั้นมากับมือ

ทั้งนี้ บัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร ฉบับที่ผ่านการหารือระหว่างผู้บัญชาการเหล่าทัพแต่ละคนกับ พล.อ.ประยุทธ์แล้ว จัดส่งให้กระทรวงกลาโหมตั้งแต่ 10-15 สิงหาคม และในสัปดาห์ต่อจากนั้นจะมีการนัดประชุมคณะกรรมการ 7 เสือกลาโหม เพื่อเคาะรายชื่อทั้งหมด เพื่อให้ ผบ.เหล่าทัพลงนาม และส่งนายกฯ เตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯ

ส่วนสังเวียนการเมืองนั้น พล.อ.ประยุทธ์ยังต้องดูเชิงไปก่อนที่จะยอมถอย เมื่อต้องชนะ หรือได้ในสื่งที่ต่อรองแล้วเท่านั้น