จากที่หลายคนหวังจะได้ชูป้าย “เวลคัม”

เวลคัม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้าน

เวลคัม นายเศรษฐา ทวีสิน ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล

แต่พลันที่ ปรากฏการณ์ “เลื่อน” ซึ่งเริ่มต้นมาจากศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งเลื่อนการพิจารณา รับ-ไม่รับ คำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีการโหวตเป็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์เป็นญัตติหรือไม่ ออกไป

การ “เลื่อน”อื่นๆก็ตามมาเป็นลูกโซ่

ไม่ว่า การเลื่อนโหวตนายเศรษฐา เป็นนายกฯ

การเลื่อนประกาศพรรคที่จะร่วมกับเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล

และล่าสุด นายทักษิณประกาศเลื่อนกลับบ้าน จากวันที่ 10 สิงหาคมไปอีก 2 สัปดาห์ เรียบร้อย

นายภูมิธรรม เวชชยชัย คีย์แมนสำคัญของเพื่อไทย แม้มองในแง่ดีว่าการเลื่อนโดยเฉพาะการโหวตนายกฯ ทำให้พรรคมีความพร้อมมากขึ้นในการรวบรวมเสียงสนับสนุน

แต่ คนในแวดวงการเมือง ดูเหมือนจะเห็นต่าง

คือ ไม่ใช่เรื่องบวก แต่เป็นลบ ถึงขนาดอาจต้องเก็บ”ป้ายเวลคัม”ไว้ก่อน

แถมฝ่ายหนุนเพื่อไทยอาจต้องหันหน้ามาปรับทุกข์กันอีกครั้ง

นี่ต้องผจญ”เวรกรรม”อีกแล้วหรือ

เพราะการ”เลื่อน”ที่เกิดขึ้น เป็นเหมือนสัญญาณ ที่บ่งชี้ว่า การตั้งนายกฯ การตั้งรัฐบาล และที่ว่ากันว่าที่เป็นสิ่งสืบเนื่องกัน คือการกลับบ้านของนายทักษิณ น่าจะไม่ราบรื่น

ด้วยเวลาที่ทอดยาวออกไป ได้เปิดโอกาสให้ฝ่ายที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทย มีโอกาสสร้างเงื่อนไข”ต่อรอง”กับเพื่อไทย ได้มากและหนักหน่วงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

ปรากฎการณ์ลดความชอบธรรมนายเศรษฐา ที่จะก้าวขึ้นเป็นนายกฯ ไม่ว่าปูมหลังการทำธุรกิจ กรณีจุดยืนเรื่อง ม.112 และคงจะมีประเด็นอื่นๆ ติดตามมาอีก

นอกจากทำให้อำนาจการต่อรองของพรรคเพื่อไทยกับพรรคอื่นและรวมถึง ส.ว.ลดน้อยถอยลง

ความหวังเท่ๆ ของเพื่อไทย ที่จะตั้งรัฐบาลโดยไม่มีก้าวไกล และไม่มี พรรค 2 ลุง ดูเหมือนจะไม่ง่ายเสียแล้ว

เพราะส.ว.ที่หวังว่าจะเทเสียงสนับสนุน เริ่มตั้งคำถามกับ ว่าที่นายกฯของพรรคเพื่อไทย ดังขึ้นๆ

พร้อมกับกระแสข่าวว่า พรรค 2 ลุง โดยเฉพาะลุม ป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่นับวันจะโดดเด่นมากขึ้น มีข่าวเริ่มต่อสายไปยังส.ว.ในสังกัด ไม่ให้สนับสนุนคนของพรรคเพื่อไทย

เพื่อบีบให้พรรคเพื่อไทย ไม่มีทางเลือก ต้องเลือก พรรค 2 ลุง เข้าไปแชร์อำนาจ

หากเป็นเช่นนั้น พรรคเพื่อไทย คงต้องเผชิญวิกฤตศรัทธาหนักขึ้น เพราะคงยากที่จะอธิบายว่าทำไมจึงยอมผสมข้ามขั้ว

หรือเพียงต้องการเป็นรัฐบาล จึงยอมอะไรก็ได้ทุกอย่าง

และว่าไป แม้จะได้ เก้าอี้นายกฯ และเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถเป็นผู้นำในกำหนดเกม

ตรงกันข้ามกลับจะต้องเผชิญการต่อรองอย่างหนักหน่วง รุนแรง จากพรรคขั้วรัฐบาลเดิม ในการแชร์อำนาจ และแชร์เก้าอี้รัฐมนตรี ในกระทรวงสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ทำให้ความหวังของพรรคเพื่อไทย ว่า เมื่อบริหารประเทศแล้ว จะโชว์ฝีมือ เรียกคืนศรัทธากลับคืนมา ยากอย่างยิ่ง

และเผลอๆอาจจะกลายเป็นเพียง หางเครื่อง ให้กับขั้วอำนาจเดิมได้หากเดินหมากพลาด

เพราะอย่าลืม ว่า “เกม”ที่ขั้วอำนาจเดิม ภายใต้การสนับสนุนของพรรคส.ว. ได้รุกคืบขึ้นมาเป็นผู้กำหนดเกมมากยิ่งขึ้นทุกที

และอย่าได้ตั้งอยู่ในความประมาท

ทำไปทำมา หรือเยื้อไปเยื้อมา

นายกฯอาจจะเปลี่ยนมือ ไปสู่ พรรคที่ 3 และพรรคที่ 4 อย่างพิสดาร ก็ได้

โดยเฉพาะพรรคที่ 4 ลุงป้อมนั้นอาจมีฤทธิ์เดช ที่ทำให้เกิดอะไรขึ้นก็ได้สำหรับการเมืองไทย

สิ่งเพ้อเจ้อกลายเป็นไม่เพ้อเจ้อ ขึ้นมาเฉยๆ

ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น ไม่ใช่เรื่อง”เวรกรรม”เฉพาะเพื่อไทยเท่านั้น

แต่เป็น เวร ที่กำลัง จะ Come มาหลอนชาวบ้านด้วย

—————–