ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 11 - 17 สิงหาคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | จ๋าจ๊ะ วรรณคดี |
ผู้เขียน | ญาดา อารัมภีร |
เผยแพร่ |
ท้าวธฤตราษฎร์ไม่ทรงเห็นด้วยกับสกาพนันครั้งนี้เนื่องจากเกรงคำครหาว่ารู้เห็นเป็นใจเล่นงานปาณฑพทั้งห้า
ก่อนหน้านี้เพื่อขจัดความบาดหมางของทั้งสองฝ่าย ท้าวธฤตราษฎร์ได้ทรงแบ่งพระราชอาณาจักรกึ่งหนึ่งให้ฝ่ายปาณฑพมีนครอินทรปรัสถ์เป็นเมืองหลวง ฝ่ายเการพมีนครหัสตินาปุระ
ความเคียดแค้นชิงชังสะท้อนผ่านทุกถ้อยคำที่ทุรโยธน์กราบทูลพระบิดา ดังปรากฏใน “สงครามมหาภารตคำกลอน” ว่า
“ด้วยปาณฑพหลานยาทั้งห้าคน ซึ่งจุมพลปรานีแบ่งที่ทาง
แสนโอหังตั้งแข็งเหมือนแมงป่อง ซึ่งลำพองผันผกกระดกหาง
เห็นผู้คนยกยอทำข้อกาง บัดนี้สร้างกรุงไกรออกใหญ่โต
หัสดินบุรีเคยมีชื่อ บัดนี้หรือย่อมเยาว์กว่าเขาโข
ทั้งปราสาทราชฐานตระการโอ! ล้วนแต่โสภายิ่งทุกสิ่งไป
ท้องพระคลังคั่งคับด้วยทรัพย์สิน ดังเมืองอินทร์ลอยมาก็ว่าได้
ข้ามหน้าเราเหลือแสนน่าแค้นใจ ข้าบาทไม่อยากอยู่ให้ดูแคลน”
ทุรโยธน์คิดจะใช้สกาพนันทวงแผ่นดินคืนจากยุธิษฐิระ พี่ใหญ่ของเหล่าปาณฑพ โดยเชิญมาเล่นสกาด้วยกัน
“เล่นสะกาท้าเติมซึ่งเดิมพัน ซึ่งหมายมั่นว่าชะนะทุกกระดาน
เอาด้วยกลจนกว่าข้าพระบาท ได้คืนราชสมบัติพัสถาน
ซึ่งตบแต่งแบ่งขาดพระราชทาน มาสู่ร่มสมภารดังเดิมมา” (อักขรวิธีตามต้นฉบับ)
ท้าวธฤตราษฎร์ตรัสเตือนสติลูกชายว่าอย่าปล่อยให้ไฟแห่งความโกรธเผาผลาญญาติพี่น้องให้ทุกข์ระทม ควรโอนอ่อนผ่อนผันให้พวกเขามีความสุข จึงจะเป็นวิถีที่ถูกต้อง การมุ่งร้ายญาติเท่ากับสร้างศัตรูทำลายตนเอง อีกทั้งไม่ควรเล่นการพนันด้วยจุดประสงค์ทุจริตเช่นนี้
“อนึ่งเรื่องการพะนันอันธพาล อย่ามาขานชื่อให้พ่อได้ยิน
มันมีแต่แส่เพาะความเคราะห์ร้าย พาฉิบหายย่อยยับแห่งทรัพย์สิน
ฟังแสยงเยี่ยงตนเปื้อนมลทิน เหมือนกลากกินหูเหืองฟังเรื่องมัน
พ่อแสนเบื่อเหลือจะอนุญาต เพราะขยาดแหยงจิตให้คิดพรั่น
ถามวิทูรดูบ้างเห็นต่างกัน หรือเป็นอันเห็นพ้องลองบรรยาย”
‘วิทูร’ ผู้เป็นทั้งอาของทุรโยธน์ฝ่ายเการพและฝ่ายปาณฑพ ดำรงตำแหน่งมหามุขมนตรีแห่งกรุงหัสตินาปุระ กราบทูลท้าวธฤตราษฎร์ว่า
“ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้ามีความเห็นว่า เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะปล่อยให้องค์ทุรโยธน์และศกุนิดำเนินการตามแผนนี้ เพราะการพนันนั้นได้ชื่อว่าเป็นอบายมุขอันจะนำไปสู่ความหายนะและความร้าวฉานกันระหว่างพี่น้อง”
(“มหาภารตยุทธ” กรุณา – เรืองอุไร กุศลาสัย แปลและเรียบเรียง)
ทุรโยธน์ผู้ร้อนเร่าด้วยไฟริษยาหาได้ละความพยายามไม่ ทรงย้ำว่าความรุ่งโรจน์เรืองอำนาจแห่งนครอินทรปรัสถ์ของเหล่าปาณฑพเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของนครหัสตินาปุระโดยตรง ซึ่งเป็นความกังวลลึกๆ ของท้าวธฤตราษฎร์อยู่แล้ว
คำรบเร้าของทุรโยธน์ประสบผลในที่สุด ท้าวธฤตราษฎร์ทรงตกลงให้เชิญเจ้าชายปาณฑพมาเล่นสกาพนัน ณ นครหัสตินาปุระตามแผนการอันแยบยลของศกุนิที่ ‘จัดเต็ม’ เพื่อปาณฑพโดยเฉพาะ
ดังที่ศกุนิเคยแย้มถึงแผนนี้ให้ทุรโยธน์รู้กันสองคนว่า
“ยุธิษเฐียร, พระองค์ก็ทรงเห็น เธอชอบเล่นสกามาแต่ไหน
เชิงสกาข้าบาทขยาดใคร อาจเอาชัยด้วยอุบายเป็นก่ายกอง
เอาโลหะถ่วงไว้ในลูกบาศก์ ถึงสามารถมือดีไม่มีสอง
ก็แพ้ขาดอาจล่อให้ต่อรอง ยั่วให้กองเดิมพันขันทวี
เจ้าปาณฑพมือดีแต่ทีเซ่อ ถึงแม้เธอดีอย่างไรเราไม่หนี
ล่อให้เธอมีชัยจนได้ที แล้วขยี้เสียให้แย่เหลือแต่ตัว
จักให้ถึงถือกะลาเป็นยาจก บ้านเมืองตกเป็นของเราเอาให้ทั่ว
เมื่อเห็นความโง่เขลายิ่งเมามัว จึงค่อยยั่วเย้าใจให้พะนัน
ถ้ามีชัยคืนถิ่นทั้งสินทรัพย์ ถ้าแพ้ขับเนรเทศจากเขตต์ขัณฑ์
ให้ซัดเซเตร่ไปในอรัญ สิบสองพรรษากาลคงลาญชนม์”
เมื่อพระบิดาอนุญาต ทุรโยธน์ก็ดำเนินการทันที
“แล้วจึงเชิญปาณฑพครบทั้งห้า เสด็จมายังนิเวศน์ ณ เขตต์ขัณฑ์
เล่นสะการ่าเริงเชิงพะนัน ตามเยี่ยงฉันญาติเชื้อเพื่อสำราญ”
ฝ่ายยุธิษฐิระหรือยุธิษเฐียร
“ทรงรับเชิญทุรโยธน์โปรดกระไร มอบกรุงไกรแก่มหาเสนาบดี
ชวนมารดามหิษีและสี่น้อง พร้อมด้วยผองเสนาสง่าศรี
เสด็จจากอินทรปรัสถ์สวัสดี ถึงบุรีหัสดินดังจินดา”
ท้าวธฤตราษฎร์และพระประยูรญาติมาต้อนรับพร้อมหน้า ยุธิษฐิระหรือยุธิษเฐียรคิดว่าเล่นสกากับทุรโยธน์เชื่อมสัมพันธ์ฉันญาติ ขณะที่อีกฝ่ายมองว่าแข่งกับศัตรูคู่อาฆาต จึงวางอุบายไว้ล่วงหน้าทั้งตัวสกาและผู้เล่น แทนที่จะเป็นทุรโยธน์ที่ฝีมือสูสีกัน กลับเป็นศกุนินักพนันพันธุ์แท้มากด้วยฝีมือและเล่ห์เหลี่ยม ผลก็คือ
“แสนสงสารบพิตรยุธิษเฐียร ไม่ทราบเสี้ยนศึกร้ายหมายประหาร
เขาถ่วงลูกบาศก์ไว้ด้วยใจพาล ทุกกระดานภูบดีไม่มีชัย
ปรึกษาพี่น้องกันว่าวันร้าย จึงฉิบหายปี้ป่นทนไม่ไหว
จึงหยุดพักพ้นวันเปนจัญไร เล่นวันใหม่ก็ไม่สมอารมณ์ปอง
ยิ่งทรงแพ้พาให้ใจกระหาย หมดเสียดายทรัพย์สินสิ้นทั้งผอง
มีเท่าใดใฝ่หาเอามากอง จนเงินทองสิ้นองค์ทรงเดือดดาล”
ยิ่งเล่นยิ่งเสีย สติสัมปชัญญะสูญสิ้น ยุธิษฐิระหรือยุธิษเฐียรพลันตกอยู่ในสภาพผีพนันเข้าสิง
“พระพักตร์มืดหมดอายหมายชนะ ไม่เลือกละม้ารถคชสาร
ทรงปลดเปลื้องเครื่องทรงอลงการ ตีประมาณค่าเติมเป็นเดิมพัน
ก็แพ้เขาเบาองค์แทบทรงคลั่ง ไม่หยุดยั้งหฤทัยคิดใฝ่ฝัน
เอาสมบัติในพระคลังตั้งพะนัน …………………………………………”
พนันแพ้ต้องแก้มือ เมื่อสิ้นทรัพย์สินเพชรนิลจินดาก็เอาสารพัดสิ่งที่มีเป็นเดิมพัน ตั้งแต่พาหนะ เครื่องทรง สมบัติในท้องพระคลัง รวมไปถึงนครอินทรปรัสถ์ล้วนตกเป็นของทุรโยธน์
จะหยุดไว้หรือไปต่อ ฉบับหน้าอย่าพลาด •
จ๋าจ๊ะ วรรณคดี | ญาดา อารัมภีร
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022